AT THE OPEN (#ATO)
เริ่มให้น้ำหนักปัจจัยเศรษฐกิจมากกว่าการเมือง
วันนี้เลือก ERW และ WHA

Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1100-1120 จุด ศาลฯ สั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่ช่วงรอคำวินิจฉัยมีนายกฯ รักษาการปฏิบัติหน้าที่แทน ทำให้การเดินหน้านโยบาย-เจรจาการค้าและงบประมาณไม่ได้สะดุด น่าจะช่วยลดความกังวลต่อตลาด หุ้นเลือก ERW และ WHA
วานนี้ศาลฯ มีมติรับคำร้อง ส.ว. และให้นายกฯแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่ ถัดไปเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลฯ โดยหากอิงรอบของ พล.อ. ประยุทธ์และคุณเศรษฐาใช้ระยะเวลาพิจารณา 1.5-3 เดือนหรืออาจรู้ผลในช่วง ส.ค.-ก.ย.68
หากผลออกมาเป็นลบต่อนายกฯ จะทำให้นายกฯและ ครม. พ้นจากตำแหน่ง และเข้าสู่การเลือกนายกฯในสภาผู้แทนราษฎร (ไม่ได้ยุบสภา) โดยอิงรอบการเปลี่ยนรัฐบาลคุณเศรษฐามาเป็นรัฐบาลแพทองธาร ใช้เวลา 2 วัน ในการเลือกนายกฯ และภายใน 1 เดือน สามารถจัดตั้ง ครม. ให้พร้อมกลับมาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถือเป็นระยะเวลาไม่นาน ส่วนในช่วงระหว่างที่นายกฯถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อรอการวินิจฉัยของศาลฯ จะมีรักษาการนายกฯเป็นผู้ดำเนินการแทน จากกระบวนการข้างต้น จึงเชื่อว่าการดำเนินนโยบายของรัฐบาล การเจรจาการค้าสหรัฐฯ และการพิจารณางบฯ ปี 69 ยังเดินหน้าได้ต่อ
ผลต่อตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ปรับขึ้นมาใกล้เคียงช่วงก่อนปล่อยคลิปเสียงนายกฯ บริเวณ 1110-1120 จุด จึงเชื่อว่าแรงขับเคลื่อนตลาดจากนี้จะให้น้ำหนักไปที่ความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯในวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งในมุมมองของเราเชื่อว่ามีโอกาสที่จะลดภาษีจากสหรัฐฯ (โดยไม่เสียเปรียบคู่แข่ง) หรืออย่างน้อยเลื่อนการเก็บภาษีตอบโต้ที่มีผลในวันที่ 9 ก.ค. ออกไป ซึ่งจะเป็นบวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มส่งออก (ชอบ CCET GFPT) กลุ่มนิคมฯ (ชอบ WHA)

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 20.5 จุดหรือ 1.9% จากความชัดเจนเรื่องศาลฯ รับพิจารณารับวินิจฉัยคำร้อง ส.ว. และให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ หุ้นที่หนุนตลาด DELTA +8% หนุนตลาดราว 8 จุด กลุ่มที่ Domestic ที่อ่อนไหวกับปัจจัยการเมืองปรับขึ้นทั้งหมด เช่น กลุ่มรับเหมาฯ +1.95% กลุ่มท่องเที่ยว +3.3% กลุ่มไฟแนนซ์ +2% แรงซื้อมาจากนักลงทุนสถาบันในประเทศ 815 ล้านบาท สวนทางต่างชาติขายสุทธิ 776 ล้านบาท

DAILY Stock Pick
ERW
จุดต่ำสุดได้ผ่านไปแล้ว เริ่มฟื้นตัวไตรมาส 3
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.00 บาท
เราคาดกำไรในไตรมาส 2 ทำจุดต่ำสุดในรอบ 11 ไตรมาส ปรับตัวลงทั้ง YoY และ QoQ จากทั้งปัจจัยฤดูกาลและเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชะลอตัวลงเทียบปีก่อน โดยไตรมาส 3 เราคาดว่า กำไรฟื้นตัวจากไตรมาส 2 เนื่องจาก ยอด forward bookings ฟื้นตัวจากฐานต่ำ และเหตุการณ์เฉพาะตัวของ Hyatt Erawan ที่กดดันในปีก่อน ณ ปัจจุบัน ERW ถูกซื้อขาย PE ปี 68 ที่ 12 เท่า ต่ำที่สุดในกลุ่มโรงแรมที่เราวิเคราะห์ (ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20 เท่า)
เราคาดว่า ERW ได้รับประโยชน์จาก นโยบายเที่ยวคนละครึ่งของรัฐบาลกระตุ้นยอดการเข้าพักที่เริ่มใช้ในไตรมาส 3 พร้อมกับการกลับมาฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว Short-haul ที่ฟื้นตัวอีกครั้งตาม forward booking ของเส้นทางการบินเอเชียที่เพิ่มขึ้น +7%YoY ในไตรมาส 3 และ +22% ในไตรมาส 4 ของปีนี้

KEY FACTOR
การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่างๆ ยังเป็นประเด็นที่ตลาดให้น้ำหนัก ซึ่งล่าสุด EU แสดงท่าทีพร้อมยอมรับภาษี 10% ของทรัมป์แต่ยังคงคาดหวังข้อยกเว้นเรื่องรถยนต์ ซึ่งคาดว่าการเจรจาน่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนประเทศไทยที่มีกำหนดการเข้าเจรจากับ USTR อย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ก.ค. น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีและนำไปสู่การลดภาษีจากระดับ 36%
วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายปรับลดภาษีและใช้จ่าย เตรียมส่งต่อให้สภาผู้แทนฯ พิจารณาก่อนการลงนามเป็นกฎหมายภายใน 4 ก.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดในแง่การกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ก็เพิ่มความกังวลเรื่องภาระหนี้และเงินเฟ้อในระยะกลาง
ดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิตของจีน เดือน มิ.ย. เร่งตัวสู่ระดับ 50.4 ดีกว่าที่ Consensus คาดการณ์ที่ระดับ 49.3 และสูงขึ้นจาก 48.3 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนภาพเชิงบวกของภาคการผลิตที่แข็งแกร่งกว่าคาด

EYES ON
2 ก.ค. การจ้างงานเอกชน ADP
3 ก.ค. Caixin PMI ภาคบริการของจีน, การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงานสหรัฐฯ, ครม. ถวายสัตย์ฯ, เปิดสมัยประชุมสภาฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ