คาด SET Index ชะลอตัวลง: รับความกังวลในปัจจัยการเมืองที่กลับมามีน้าหนัก ซึ่งรัฐบาลถูกกดดันจากภายในและภายนอก ส่วนหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวยังมีปัจจัยหนุนเฉพาะจากโครงการรัฐ ขณะที่นักลงทุนรอจับตาท่าทีการเปลี่ยนตัวประธานเฟด และ ตัวเลขPCE/Core PCE ในคืนนี้ หลัง GDP ออกมาแย่กว่าคาด

แนวรับ-ต้าน
1,090 –1,110

กลยุทธ์การลงทุน
1) ส่ ง อ อ ก+ก า ร ผ ลิ ต โ ต : KCE, HANA, WHA,AMATA
2) ม า ต ร ก า ร ภ า ค รั ฐ: CENTEL, CPAXT, ERW,MINT, SCC, STECON, UNIQ
3) Anti-comm.: BGRIM, GPSC, SCGP
4) กนง.คงดอกเบี้ย : BBL, KBANK, KTB, SCB

การเมือง เรื่องที่ยังน่ากังวล
ความเป็นไปของการเมืองภายใน ที่ถูกบอกใบ้จากภายนอก : เพจ ThePhnom Penh Post สื่อหลักของกัมพูชา ได้เผยแพร่ข้อความของนายฮุน เซน ว่าเตรียมจะเปิดเผยความลับแผนการต่างๆของนายทักษิณ ซึ่งเป็นแผนที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีไทย โดยจะส่งเป็นข้อความไปยังชาวไทย พร้อมกล่าวเสริมว่า ตนไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณประเทศไทย ประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลให้ตลาดถึงเสถียรภาพของรัฐบาล เนื่องจากในปัจจุบันรัฐบาลเพิ่งผ่านพ้นช่วงหารือพรรคร่วม และกำลังจัดตั้งครม.อิ๊ง 2 ทำให้ข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญต่อการต่อรองเก้าอี้รมต.นอกจากนี้รัฐบาลยังต้องเผชิญการก่อม๊อบประท้วงของกลุ่มผู้ไม่พอใจในถ้อยคำต่อรองของนายกฯกับนายฮุนเซน ซึ่งจะเริ่มในวนั ที่ 28 มิ.ย.นี้ทำให้ตลาดอาจชะลอการเพิ่มน้าหนักไปจนกว่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนของการเมืองภายในประเทศ

หุ้นท่องเที่ยวกลับมาน่าสนใจ ลุ้นเที่ยวไทยคนละครึ่ง : สัปดาห์หน้าจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนโครงการเที่ยวคนละครึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.68โดยจะมีเพียง 5 แสนสิทธิ์และจะเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.68มองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว เนื่องจากโดยปกติช่วง 2Q จะเข้าสู่หน้าฝนที่ไม่เหมาะกับการท่องเที่ยวทางทะเล หรือ ภูเขา แต่คาดปีนี้Downside ของผลประกอบการจะมีโครงการดังกล่าวช่วยพยุงGDP สหรัฐต่ำกว่าที่คาด

ตลาดลุ้น PCE + ประธานเฟดคนใหม่ :ตัวเลข GDP 1Q68 รอบ Final ออกมาที่ -0.5%q-q ต่ากว่าคาดที่ -0.2% และลดลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 2.4% ซึ่งเป็นผลจากการเร่งตัวของการนำเข้าโดยภาคครัวเรือน และ ภาคธุรกิจสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบของกำแพงภาษี โดยขยายตัวกว่า 37.9% เพิ่มข้นึมากที่สุดนับตั้งแต่ปี2020 ตลาดหุ้นสหรัฐตอบรับในเชิงบวกเนื่องจากผลดังกล่าวเกิดขึ้นในอดีตก่อนที่จีน-สหรัฐจะทำข้อตกลงกำแพงภาษีกัน จึงมีแนวโน้มที่การนำเข้าที่เร่งตัวจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในระยะ
ถัดไป นอกจากนี้แรงหนุนยังมาจากความคาดหวังการเปลี่ยนตัวประธานเฟด ซึ่งพาวเวลล์จะหมดสมัยการเป็นประธานเฟดในเดือนพ.ค.69 จึงต้องจับตาเพื่อคาดการณ์ทิศทางนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ควบคู่กับ Core PCE/PCE เดือน พ.ค. ที่ประกาศในคืนนี้

ปัจจัยเพิ่มเติม
(-) หอการค้าไทย ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ลงเหลือโต 1.7%จากเดิม 3.0% มองปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องจับตา เช่น มาตรการภาษีของสหรัฐฯความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน และ ความตึงเครียดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นต้น
(-) กมธ.สถานบันเทิงฯเสนอว่า รัฐบาลควรถอนการพิจารณากฏหมายEntertainment Complex เนื่องจากควรทำประชามติเพื่อถามความเห็นชอบของประชาชนเสียก่อน แล้วจึงค่อยเสนอกฎหมายฉบับดังกล่าวเข้ามาทีหลัง
(+)ไทยติด 1 ใน 7 ประเทศที่มีบทบาทสูงต่อเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งมีบริษัทที่ได้รับยกย่องว่ามีผลประกอบการโดดเด่นได้แก่ CPF CPALL BCP และ IVL ซึ่งถูกจัดอันดับโดย Fortune Southeast Asia 500
(+) White House เผย Dead line สำหรับการบังคับใช้กำแพงภาษีอาจไม่จำเป็น(เดิม 8 ก.ค.) และ อาจถูกเลื่อนไปโดยขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานาธิบดี

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์