สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 26 มิถุนายน 2568)--- นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) KKP เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร ครั้งที่ 6/2568เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท เคเคพี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (“KKPC”) (บริษัทย่อยที่ธนาคารถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.98) จำหน่ายหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด (“KKPD”) ในสัดส่วนร้อยละ 5 คิดเป็นมูลค่า24,000,000 บาท ให้แก่ นายกัมพล จันทวิบูลย์ซึ่งเป็นผู้บริหารของธนาคาร

โดยจะทำรายการภายใน 15วัน นับจากวันที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารมีมติอนุมัติ

ทั้งนี้ การจำหน่ายหุ้นดังกล่าวถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันตามหลักเกณฑ์ของประกาศคณะกรรมการก ากับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน(รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551”)

การจำหน่ายหุ้นสามัญของ KKPD ให้แก่นายกัมพล จันทวิบูลย์ เป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันประเภทรายการเกี่ยวกับสินทรัพย์หรือบริการ โดยพิจารณาจากเกณฑ์มูลค่าสิ่งตอบแทนที่จะได้รับคือราคาขาย 24,000,000 บาท โดยคำนวณจากมูลค่าทางบัญชีของ KKPD ตามสัดส่วนที่ได้รับ ซึ่ง KKPC จะได้รับชำระสิ่งตอบแทนเป็นเงินสดโดย
การคำนวณขนาดรายการเมื่อใช้มูลค่าสิ่งตอบแทนที่ได้รับดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 0.04 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ (Net Tangible Assets “NTA” เท่ากับ 59,203,401,611 บาท) ของงบการเงินรวมไตรมาส 1ของธนาคาร สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568ซึ่งจัดว่าเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันขนาดกลางที่มีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ0.03แต่ต่ำกว่าร้อยละ 3.0ของ NTA ที่ก าหนดให้คณะกรรมการธนาคารเป็นผู้อนุมัติรายการ และเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

ความเห็นของคณะกรรมการธนาคาร มีความเห็นว่ารายการดังกล่าวมีความสมเหตุสมผลและมีราคาที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นไปตามเจตนารมณ์และคำมั่นสัญญาที่กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ("กลุ่มธุรกิจการเงินฯ") ได้ให้ไว้กับกลุ่มบุคลากรที่มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด โดยธุรกิจ Digital Financial Services เป็นธุรกิจใหม่ของกลุ่มธุรกิจการเงินฯ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ตั้งแต่การเริ่มจัดตั้ง จนถึงการสร้างการเติบโต สร้างผลกำไร และเพิ่มมูลค่าให้กับกลุ่มธุรกิจการเงินฯ ในอนาคต ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความมุ่งมั่นในระยะยาว บนงานที่มีความเสี่ยงสูง และขาดความมั่นคงในอาชีพ และต้องมีความรู้ สึกเป็นเจ้าของร่วม จึงจะมีโอกาสให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ รายการนี้จึงเป็นการจำหน่ายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ที่เป็นกำลังสำคัญหลักในการก่อตั้ง และขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อให้มีโอกาสร่วมเป็นเจ้าของกิจการ สร้างแรงจูงใจ ประสานเป้าหมายและผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว และมูลค่ารายการเป็นมูลค่าทางบัญชีที่มีหลักเกณฑ์ชัดเจน และตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีแล้ว ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่เหมาะสม ดังนั้น คณะกรรมการธนาคาร จึงมีความเห็นว่ารายการดังกล่าวมีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์โดยรวมต่อธนาคาร