Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ฟิทช์ คงอันดับเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ และ บมจ. เอสซีบี เอกซ์ ที่ 'BBB' และ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิต มีเสถียรภาพ

110

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(24 มิถุนายน 2568)---------ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และ ที่ 'BBB' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA+(tha)' โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต มีเสถียรภาพ

นอกจากนี้ฟิทช์ยังได้คงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ของทั้ง 2 บริษัทที่ 'bbb' และคงอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (Government Support Rating: GSR) ของ SCB และ SCBX ที่ 'bbb' และ 'bbb-' ตามลำดับ พร้อมกันนี้

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตของ SCB พิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินและอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศของ SCB มีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากทั้งโครงสร้างเครดิตของตัวธนาคารเอง ซึ่งสะท้อนจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน และอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ 'F2' ของ SCB เป็นตัวเลือกที่สูงกว่า เนื่องจากโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนมีความแน่นอนกว่าในระยะสั้น

อันดับเครดิตพิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่ม: SCBX เป็นบริษัทโฮลดิ้งของกลุ่ม โดยมี SCB เป็นธนาคารลูกหลักที่มีบทบาทสำคัญต่อภาพรวมทางการเงินของกลุ่ม โดย SCB มีสัดส่วนประมาณ 95% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของกลุ่ม อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX ได้รับการจัดอันดับที่ระดับเดียวกันกับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินรวมของกลุ่มและของ SCB (ซึ่งอยู่ที่ ‘bbb’) ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่า SCBX จะสามารถรักษาอัตราส่วน Common Equity Double Leverage ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 120% ได้

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ SCBX อยู่ที่ระดับ ‘F3’ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ต่ำกว่า เนื่องมาจากอันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างด้านความสามารถในการระดมเงินและสภาพคล่องของกลุ่มยังไม่จัดอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้อันดับที่สูงกว่า

ภาวะอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่อ่อนแอลง: อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำในปี 2568 ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเนื่องจากเป็นระบบเศรษฐกิจแบบเปิด (open economy) ที่มีสัดส่วนการค้าระหว่างประเทศค่อนข้างสูง สถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นข้อจำกัดต่อโอกาสการเติบโตและผลการดำเนินงานของธนาคาร ฟิทช์ให้อันดับคะแนนปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ 'bbb' ซึ่งเป็นในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับอันดับคะแนนตามเกณฑ์เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่ารัฐบาลไทย (BBB+/Stable) มีบทบาทสำคัญในการสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงิน อาทิ มาตรการกำกับดูแลและมาตรการทางการคลังที่นำมาใช้ระหว่างช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

สถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง: SCB มีสถานะเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝากอยู่ที่ 14% อีกทั้ง SCB ยังมีฐานลูกค้าที่หลากหลาย และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ทางกลุ่มยังมีผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจร โดยมีจุดแข็งพิเศษในธุรกิจธนาคารรายย่อย ซึ่งช่วยสนับสนุนการขายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย (cross selling) และสนับสนุนความสามารถในการหารายได้ของกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์พิจารณาแล้วเห็นว่าสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่อาจจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบมากขึ้นในการจำกัดผลการดำเนินงานในระยะยาวของธนาคารไทย (through the cycle) ดังนั้น ฟิทช์จึงปรับลดอันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างธุรกิจของ SCBX เป็น ‘bbb’ จาก ‘bbb+’

แรงกดดันต่อโครงสร้างความเสี่ยง: ฟิทช์ปรับแนวโน้มของอันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างความเสี่ยงของกลุ่มเป็น ‘แนวโน้มเป็นลบ’ จาก ‘แนวโน้มมีเสถียรภาพ’ เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่าอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญในด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ฟิทช์เคยดาดการณ์ไว้ในปีก่อนหน้านี้ว่าจะปรับตัวดีนั้นอาจจะไม่เป็นไปตามคาด แรงกดดันต่อคุณภาพสินทรัพย์อาจยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงในช่วงอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งอาจนำไปสู่ความท้าทายต่อเนื่องในด้านการบริหารความเสี่ยง

ยังคงมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์: ฟิทช์ได้ปรับลดแนวโน้มของอันดับคะแนนปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ของกลุ่มเป็น ‘แนวโน้มเป็นลบ’ จาก ‘แนวโน้มมีเสถียรภาพ’ เนื่องจากโครงสร้างคุณภาพสินทรัพย์มีความสอดคล้องลดลง ณ ระดับอันดับคะแนนปัจจุบัน (reduce headroom) และยังต้องเผชิญกับแรงกดดันต่อเนื่องของการปรับตัวเพิ่มขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของ SCBX ทรงตัวที่ 4.0% ในไตรมาส 1 ปี 2568 (ทรงตัวในระดับใกล้เคียงกับ สิ้นปี 2567 และสิ้นปี 2566) ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่รายอื่นในประเทศ อันดับคะแนนปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ ‘bbb-’ อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ เนื่องจากอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ แม้ว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม (SCBX: 150% ในไตรมาส 1 ปี 2568; ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม 173%)

ความสามารถในการทำกำไรมีแนวโน้มลดลง: ฟิทช์คาดว่ารายได้ของ SCBX จะเผชิญแรงกดเพิ่มขึ้นในช่วงสองปีข้างหน้า จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญอาจยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงจากความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม SCBX น่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษีต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Operating profit/Risk Weighted Assets หรือ OP/RWA) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2.7% ในไตรมาส 1 ปี 2568 (ปี 2567: 2.4%) แม้ผลประกอบการจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้น ฟิทช์คาดว่า OP/RWA น่าจะสามารถทรงตัวที่ระดับสูงกว่า 2% ได้และยังคงสอดคล้องกับอันดับคะแนนในปัจจุบันที่ ‘bbb-’

เงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่ง: อันดับคะแนนปัจจัยด้านเงินกองทุนของ SCBX ที่ระดับ 'bbb+' สะท้อนถึงฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) อยู่ที่ 17.6% ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 (ค่าเฉลี่ยของภาคอุตสาหกรรม: 17.0%) และอยู่ในระดับที่ค่อนข้างคงที่ตั้งแต่ปี 2564 ฟิทช์คาดว่าฐานะเงินกองทุนของ SCBX จะยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากกำไรที่เพียงพอและแนวโน้มการเติบโตในอัตราต่ำในช่วงสองปีข้างหน้า

สภาพคล่องโดยรวมมีเสถียรภาพ: ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของ SCBX น่าจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากระดับปัจจุบันมากนักในอีก 2-3 ปีข้างหน้า (ไตรมาส 1 ปี 2568: 99.2%, สิ้นปี 2567: 98.2%) อันดับคะแนนปัจจัยด้านการระดมเงินและสภาพคล่องของกลุ่มได้รับแรงสนับสนุนจากฐานเงินฝากในประเทศที่แข็งแกร่งของ SCB และการมีสัดส่วนบัญชีกระแสรายวันและออมทรัพย์ที่สูง (คิดเป็น 77% ของเงินฝากทั้งหมด) ซึ่งช่วยให้กลุ่มมีแหล่งเงินทุนที่มั่นคงและต้นทุนต่ำ

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลสะท้อนความสำคัญเชิงระบบ: อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX และ SCB มีปัจจัยหลักในการพิจาณาอันดับเครดิตจากขนาดและความสำคัญของกลุ่มธุรกิจที่มีต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทย โดย SCB เป็นหนึ่งในสี่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทยที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับการกำหนดให้เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (D-SIB) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX ที่ ‘bbb-’ นั้นอยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCB หนึ่งอันดับ ซึ่งสะท้อนมุมมองของฟิทช์ว่ารัฐบาลมีแนวโน้มที่จะให้การช่วยเหลือสนับสนุน SCB ในระดับที่สูงกว่าเนื่องจากธนาคารมีการรับฝากเงินจากประชาชน

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศ
SCBX:
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่คล้ายกับการเปลี่ยนแปลงของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินกลุ่ม ดังนั้นการปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มจะส่งผลกระทบในลักษณะเดียวกันต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX

นอกจากนี้การปรับอันดับเครดิตจะพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตของ SCBX กับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ SCBX อาจถูกปรับลดอันดับลงเป็น 'B' หากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของบริษัทถูกปรับลดอันดับลงไปต่ำกว่า 'BBB-' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นอาจถูกปรับลดอันดับได้หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวถูกปรับลดอันดับลงไปต่ำกว่า 'AA-(tha)'

SCB:
การปรับลดอันดับของทั้งอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลและอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินพร้อมกันจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอาจได้รับการปรับลดอันดับเป็น 'AA(tha)' หากฟิทช์มองว่าโครงสร้างเครดิตของธนาคารปรับตัวด้อยลงเมื่อเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศโดยฟิทช์

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
SCBX และ SCB
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX และ SCB อาจถูกปรับลดอันดับเครดิตลง หากภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญและส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องมีการทบทวนการประเมินอันดับคะแนนปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของอุตสาหกรรมธนาคาร และรวมถึงปัจจัยในการพิจารณาอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินด้านอื่นของกลุ่ม เช่น อันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างธุรกิจและอันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างความเสี่ยง

นอกจากนี้ อาจมีการปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่ม หากฐานะการเงินรวมของกลุ่มปรับตัวด้อยลง ส่งผลให้มีการปรับอันดับคะแนนปัจจัยในหลายด้าน ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านเงินกองทุนปรับตัวด้อยลง หรือประสิทธิภาพการทำกำไรที่อ่อนแอลงจนกระทบต่อความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในระดับที่เพียงพอ ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวอาจแสดงให้เห็นโดยอัตราส่วน OP/RWA เฉลี่ยสี่ปีลดลงต่ำกว่า 1.5% (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2.2%) อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพเฉลี่ยสี่ปีเพิ่มขึ้นเกิน 6% (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4.2%) อัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงต่ำกว่า 120% และอัตราส่วน CET1 ลดลงต่ำกว่า 13% (ไตรมาส 1 ปี 2568: 17.6%)

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX อาจถูกปรับลดอันดับให้ต่ำกว่าอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCB ได้หากฟิทช์พิจารณาปรับแนวทางการจัดอันดับระหว่าง SCBX กับธนาคารหลักของกลุ่ม ซึ่งคือ SCB ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่อัตราส่วน common-equity double leverage SCBX มีแนวโน้มปรับตัวสูงกว่า 120% อย่างเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง นอกจากนี้ การลดลงของสัดส่วนสินทรัพย์ของ SCB ที่มีต่อกลุ่มลงไปในระดับที่ต่ำกว่า 75% อาจบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงจากธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร และอาจทำให้ความเสี่ยงในการไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ของธนาคารและบริษัทโฮลดิ้งมีความแตกต่างกันมากขึ้น

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล
SCBX และ SCB
อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลอาจถูกปรับลดอันดับหากฟิทช์เชื่อว่าความสามารถที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนนั้นลดลง เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยถูกปรับลดอันดับ

นอกจากนี้การปรับลดอันดับเครดิตยังอาจเกิดขึ้นได้หากฟิทช์เชื่อว่าโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ SCB ปรับตัวลดลง เช่น จากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับความสำคัญของธนาคารที่มีต่อระบบ อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับความสำคัญต่อระบบในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง

ความแตกต่างของอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลระหว่าง SCBX กับ SCB อาจปรับตัวห่างมากขึ้นได้ หากฟิทช์มีการทบทวนการประเมินว่าแผนการแก้ไขปัญหาทางการเงินของธนาคารในภาวะวิกฤติ (resolution) อาจมีความแตกต่างกันอย่างมากในการที่ทางการจะให้การช่วยเหลือแก่ธนาคารเมื่อเทียบกับกิจการส่วนที่เหลือของกลุ่ม ตัวอย่างเช่น หากมีสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นซึ่งบ่งชี้ว่าทางการจะให้การสนับสนุนเฉพาะกับธนาคารเท่านั้น ในกรณีดังกล่าวอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX อาจถูกปรับลดอันดับลงได้หลายอันดับ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศ
SCBX:
การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่ม น่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน ทั้งนี้การปรับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวจะพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตกับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

SCB:
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCB อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลหรืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มได้รับการปรับเพิ่มอันดับ ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCB จะพิจารณาโครงสร้างอันดับเครดิตของธนาคารเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
SCBX และ SCB
โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX และ SCB ในระยะสั้นยังคงจำกัด เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับได้ในระยะยาว หากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของธนาคารในประเทศไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้แนวโน้มของผลประกอบการปรับตัวดีอย่างต่อเนื่องตลอดวัฎจักรของธุรกิจ โดยอาจสะท้อนผ่านการปรับตัวดีขึ้นในอัตราส่วนทางการเงินหลายด้านอย่างต่อเนื่อง เช่น อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ย 4 ปี ที่ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 3.0% อย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเฉลี่ย 4 ปีที่ต่ำกว่า 3% และการรักษาความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านอื่นที่สำคัญ เช่น การมีอัตราส่วนเงินกองทุน CET 1 ที่สูงกว่า 16%

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล
SCBX และ SCB
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลอาจเกิดได้หักรัฐบาลมีความสามารถเพิ่มขึ้นในการสนับสนุนธนาคารและสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบในประเทศ โดยอาจบ่งชี้ได้จากการปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย อย่างไรก็ตามการพิจารณาปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลต้องคำนึงถึงโอกาสในการให้การสนับสนุนธนาคารว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เมื่ออันดับเครดิตของประเทศสูงขึ้น

หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในอันดับเครดิตของประเทศไทย อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCB ก็ไม่น่าจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับขึ้นอีก อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับได้หากฟิทช์ประเมินแล้วเห็นว่ากฎเกณฑ์ในการแก้ไขสถานการณ์ในกรณีที่เกิดปัญหาด้านสถานะทางการเงิน (resolution scenario) สำหรับ SCB และ SCBX น่าจะมีแนวทางที่คล้ายกันมาก ตัวอย่างเช่น หากมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่า SCBX มีนัยสำคัญต่อระบบภายในประเทศเพิ่มขึ้นด้วยตัวบริษัทเอง (โดยไม่พิจารณารวม SCB)

อันดับเครดิตของตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
SCBX:
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันและโครงการหุ้นกู้ MTN มูลค่า 1.5 แสนล้านบาทของ SCBX อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวและระยะสั้นของ SCBX เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท

SCB:
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ของ SCB ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ 'BBB' ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคาร เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (Short-Term IDR(xgs)) ของ SCB เทียบได้กับ 'F3(xgs)' เนื่องจากอันดับคะแนนปัจจัยด้านความสามารถในการระดมเงินและสภาพคล่องของธนาคารไม่สอดคล้องกับตัวเลือกอันดับที่สูงกว่า ตามเกณฑ์การพิจารณาอันดับเครดิตของฟิทช์

อันดับเครดิตของตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
SCBX:
การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX น่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ MTN และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของ SCBX ได้รับการปรับลดอันดับลงเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ MTN ไม่น่าจะถูกปรับลดอันดับเครดิต เว้นแต่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX ถูกปรับลดอันดับลงไปที่ ‘A+(tha)’ หรือต่ำกว่า

SCB:
การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCB จะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ถูกปรับลดอันดับเช่นกัน

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCB น่าจะถูกปรับลดอันดับลง หากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารถูกปรับลดอันดับลงไปที่ 'bb+' หรือต่ำกว่า

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
SCBX:
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX น่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ MTN และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัทได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ MTN นั้นเป็นระดับที่สูงสุดแล้ว จึงไม่มีปัจจัยใดที่จะส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับ

SCB:
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCB จะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCB อาจถูกยกเลิกได้หากอันดับความแข็งแกร่งของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับ หรือ อันดับคะแนนปัจจัยด้านการระดมเงินและสภาพคล่องได้รับการปรับเพิ่มขึ้นเป็น ‘bbb+’ เนื่องจากอันดับเครดิตสากลทั้งหมดของธนาคารจะพิจารณาจากโครงสร้างทางเครดิตของตัวธนาคารเองเท่านั้น

บริษัทลูกและบริษัทร่วม: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
ฟิทช์ประกาศให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ 'BBB' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพแก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาหมู่เกาะเคย์แมน (SCBCI) โดยอันดับเครดิตอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของ SCB เนื่องจาก SCBCI มีสถานะเป็นนิติบุคคลเดียวกันกับ SCB

ฟิทช์คงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ มูลค่า 500 ล้านเหรียญฯ ที่ออกภายใต้ SCB ที่ ‘BBB’ โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะถูกโอนไปยัง SCBCI ในฐานะผู้ออกหุ้นกู้
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCB จะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCBCI และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ถูกปรับลดอันดับเครดิตเช่นกัน

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCB จะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCBCI และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตเช่นกัน

การปรับคะแนนของปัจจัยในการพิจารณาอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
อันดับคะแนนที่ให้แก่ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ 'bbb' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 'bb' เนื่องจากการปรับเพิ่มคะแนนด้วยปัจจัยด้าน 'อันดับเครดิตของประเทศ'

อันดับคะแนนที่ให้แก่ปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ 'bbb-' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 'bb' เนื่องจากการปรับเพิ่มคะแนนด้วยปัจจัยด้าน 'หลักประกันและระดับสำรองหนี้สูญ'

อันดับเครดิตที่เชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCBCI เชื่อมโยงกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCB

แหล่งข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อการพิจารณาอันดับเครดิต
แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการประเมินอันดับเครดิตมีรายละเอียดเปิดเผยอยู่ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้องของฟิทช์

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม หาได้จาก www.fitchratings.com/esg

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้
SCBCI:
- ให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘BBB’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

SCBX:
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับเครดิตที่ ‘BBB’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับเครดิตที่ ‘F3’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ ‘bbb’
- อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลคงอันดับเครดิตที่ ‘bbb-’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’

SCB:
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘BBB’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F2’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับความเข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ ‘bbb’
- อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลคงอันดับเครดิตที่ ‘bbb’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมการสนับสนุนจากรัฐบาลที่คงอันดับ 'F3(xgs)'
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘BBB’

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ตะวันออกกลาง คลี่คลาย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ สถานการณ์ตะวันออกกลาง คลี่คลาย ตลาดหุ้นต่างประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดหุ้นไทยเช่นกัน..

NAM ผนึกกลุ่ม PRINC ลุยขยายธุรกิจ Serviso ทั่วประเทศ

NAM ผนึกกลุ่ม PRINC ลุยขยายธุรกิจ Serviso ทั่วประเทศ

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้