Company Note
Asian Alliance International
สรุปงาน TISCO Exclusive Talk (23/6/25)
บริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 2025F ที่ 7.4 พันล้านบาท เติบโต 8.8% YoY แต่อาจมีการทบทวนประมาณการจากความไม่แน่นอนของอัตราแลกเปลี่ยน และการรอความชัดเจนของภาษีนำเข้าสหรัฐฯ บริษัทมองว่าลูกค้าจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น และอาจมีการต่อรองเจรจาเชิงราคาหรือการปรับแผนพัฒนาสินค้าในราคาที่เหมาะสมเพื่อรองรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้คาดว่าปริมาณการขายของบริษัทจะไม่ลดลง จากการร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับคู่ค้า (Co-operation) ในการพัฒนาสินค้าร่วมกัน ขณะที่ธุรกิจอาหารปลาทูน่าพร้อมรับประทาน (Human Shelf-Stable) ได้แรงหนุนจากต้นทุนปลาทูน่าที่ลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้กลุ่มลูกค้าในตะวันออกกลางมีดีมานด์เพิ่มขึ้น
งบลงทุนปี 2025 วางไว้ที่ 1,015 ล้านบาท โดยมี 3 โครงการหลัก ได้แก่ คลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 ซึ่งจะ COD ใน 2Q26F, โครงการจัดหาเครื่องจักรอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการพึ่งพาแรงงาน โดยใช้เงินทุนจากกระแสเงินสดภายในทั้งหมด สำหรับโรงงานแห่งที่ 2 เพื่อผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก อาจมีการชะลอหรือเลื่อนออกไป ตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ซบเซาและผลกระทบจากสถานการณ์ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ หากมีนัยสำคัญต่อยอดขาย รวมถึงการขอใบอนุญาตจากภาครัฐฯ แผนขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเพิ่ม 21,000 ตัน รวมเป็น 80,000 ตัน ตามแผนระยะยาวของบริษัท
เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2025F จะลดลงจากผลกระทบของความไม่แน่นอนด้านภาษีนำเข้าสหรัฐฯ สำหรับแนวโน้มผลประกอบการใน 2Q25F คาดว่าจะอ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ จากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง แม้ปริมาณขายและกำลังการผลิตจะยังทรงตัว ส่วนใน 3Q25F ปริมาณคำสั่งซื้อของกลุ่มลูกค้า OEM ยังคงอยู่ในระดับเดิม แต่แผนการพัฒนาและออกสินค้าใหม่มีการชะลอเพื่อรอปรับแผนรองรับต้นทุนภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ขณะที่ต้นทุนค่าขนส่งทางเรืออาจเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ลูกค้าเป็นผู้รับภาระค่าขนส่ง ด้านอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะลดลงจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่า เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-2026 ที่ 860 ล้านบาท (-14% YoY) และ 894 ล้านบาท (+4% YoY)
เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมายที่ 4.00 บาท อ้างอิง PER -1SD ที่ 10X เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการยังต่ำกว่าปีก่อน จาก demand สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมียมที่ชะลอตัวทั่วโลก และผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ แม้บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง (Net Cash) และคาดว่าเงินปันผลจะอยู่ที่ Dividend Yield 4.4% ความเสี่ยงสำคัญยังคงเป็นรายได้ที่อาจต่ำกว่าคาดการณ์ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว