Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

102

 

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม


ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสเงินลงทุน (fund flows) ใน 5 ตลาดหลักของภูมิภาคที่เราติดตามพลิกกลับมาไหลออกจากภูมิภาคอีกครั้ง หลังจากมีแรงซื้อสลับเข้ามาเพียงสัปดาห์เดียว โดยมียอดขายสุทธิที่ 617 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่เป็นเงินไหลเข้าสุทธิ 4,135 ล้านดอลลาร์


แรงขายกระจายในหลายตลาด ได้แก่ ตลาดหุ้นไทย (-298 ล้านดอลลาร์) ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย (-275 ล้านดอลลาร์) ตลาดหุ้นไต้หวัน (-237 ล้านดอลลาร์) และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ (-62 ล้านดอลลาร์) ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ยังมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่ (256 ล้านดอลลาร์)


จากการที่สัปดาห์ล่าสุดเห็นสัญญาณของแรงขายกลับเข้ามาในตลาดหุ้นภูมิภาค ทำให้นับตั้งแต่ต้นปี 2025 มียอดขายสุทธิสะสมรวมใน 5 ประเทศอยู่ที่ 24,364 ล้านดอลลาร์ โดยไต้หวันเป็นตลาดที่เผชิญแรงขายมากที่สุด (-10,611 ล้านดอลลาร์) ตามมาด้วยเกาหลีใต้ (-7,521 ล้านดอลลาร์) และอินโดนีเซีย (-3,209 ล้านดอลลาร์)


จากสัญญาณดัชนี Volume Index ในสัปดาห์ที่ผ่านมาสะท้อนว่า เซกเตอร์ที่โดดเด่นในระดับภูมิภาค ได้แก่ กลุ่ม Electronics ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้และไต้หวัน


สำหรับสัปดาห์นี้ ยังไม่พบกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีสัญญาณเด่นชัดในตลาดหุ้นไทย จึงไม่มีเซกเตอร์ที่แนะนำเป็นพิเศษในระยะสั้น
อัปเดต Market-Timing Indicator:


ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี SET ปรับตัวลดลงถึง 6.4% และหลุดแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,120 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ ส่งผลให้ Composite Short-term Indicator อ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ จากแรงกดดันของ Short-term Momentum Index ที่ปรับตัวลง และ Short-term Bull-to-Bear ที่ปรับตัวลดลง


เราประเมินว่าตลาดหุ้นไทยอาจรีบาวด์ได้บ้างจากระดับใกล้จุดต่ำสุดเดิมที่เคยทำไว้ในเดือน เมษายน ที่ 1,050 จุด หลังจากดัชนี Short-term Bull-to-Bear ปรับตัวลงสู่โซน lower-bound ซึ่งมักเป็นระดับที่เกิด mean reversion ตามมา


อย่างไรก็ตามอัพไซด์ของตลาดหุ้นไทยจะยังคงจำกัด โดยคาดว่าแรงกดดัน น่าจะกลับเข้ามาอีกระลอกในเดือนกรกฎาคม ซึ่งน่าจะทำให้ SET ปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่บริเวณ 970-1,000 จุดในเดือนดังกล่าว เนื่องจาก Composite Medium-term Indicator ยังคงอ่อนแอมาก ขณะที่ Medium-term Market Breadth ก็อยู่ที่เพียง 21% ซึ่งเป็นโซนที่สะท้อนจิตวิทยาเชิงลบของตลาด

สรุปภาพตลาดวานนี้
วานนี้ ตลาดลง-ฟื้น-ลง เหมือนแรงจะมี แต่หมดก่อน โดยหุ้นที่ลงติดฟอร์ เป็นเรื่องเฉพาะตัวมากกว่าภาพตลาด เช่น KTC BEC XPG DOHOME EA NEX ที่เหลือเป็นการลงแบบกระจายๆ กัน มีแค่หุ้นใหญ่ ADVANC AOT PTT PTTEP IVL CPALL CPF BH TLI GULF KBANK ที่พยายามดันตลาดไว้



แนวโน้มตลาดวันนี้
กด 1. โลกสงบจบสวย กด 2. สันติ ไม่ใช่ทางออก
เมื่อวานหุ้นไทยรายตัวดิ่งแรง น่าจะเพราะเหตุเฉพาะตัว เช่น KTC BEC XPG TPS ส่วนปัจจัยมหภาคภายนอก เช่น ภัยสงคราม ฯลฯ ดูเหมือนจะกระเทือนหุ้นไทยจำกัดกว่าที่หลายคนคิด ขณะที่แรงขายหุ้นไทยไม่หนักแต่เราคิดว่า ที่น่ากังวลกว่าคือ แทบไม่มีแรงซื้อ แถมล่าสุด UBS สั่งลดน้ำหนักหุ้นไทยอีก
ถ้าแรงซื้อยังไม่มีแบบนี้ต่อไป เรายังคงคำแนะนำ ถือหุ้นปันผลเท่าที่มี กำเงินสด และลดการเล่นเก็งกำไร... รอช้อนซื้อหุ้นในวันที่เกิด Panic ไม่ไล่ราคา หรือ ยอมซื้อแพงขึ้นหน่อยเมื่อมั่นใจหลังตลาดหุ้นไทย มีสัญญาณที่ดี-ชัดเจน กว่านี้...


สัญญาณที่รอ เช่น เอาให้ชัวร์ว่าโลกสงบจบสวย กรณีสงครามอิหร่าน อิสราเอล สหรัฐฯ ซึงล่าสุด ปธน.ทรัมป์ แถลงแสดงความยินดีสงครามสิ้นสุดลงแล้ว! หากดำเนินเรื่องไปแบบนี้จริง ก็จะเป็นเรื่องดี ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังต้องรอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเมืองในประเทศ การเมืองระหว่างประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา, ผลเจรจาการค้าไทย-อเมริกา ฯลฯ
ด้านปัจจัยเศรษฐกิจ มีแนวโน้มที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันพรุ่งนี้ ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อ หุ้นปันผล และช่วยบรรเทาภาระต้นทุนการเงิน (หากหุ้นสินเชื่อบุคคลรีบาวด์ ไม่ต้องตาม)

ส่วนมาตรการจำกัด Ceiling-Floor ของ ตลท.คาดว่าจะยกเลิกเร็วกว่ากำหนด แต่อาจไม่เป็นผลดีต่อหุ้นรายตัวที่โดน Force sell และมาตรการ Jump+ ที่ ตลท.จะเริ่มใช้ ผจก.ตลาดฯ มั่นใจทำให้หุ้นไทยขึ้นจากการขยายตัวของกำไร บจ. โดยปัจจัยเหล่านี้ เราคาดมีผลเชิงบวกและลบต่อ ภาพรวมการลงทุนหุ้นรายตัว กลยุทธ์ยังคงเลือกการกอดหุ้นปันผล ตามที่เราแนะนำต่อไป ยังไม่รีบเพิ่มการเก็บหุ้นตามกระแส

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ถือหุ้นปันผล

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET Index สร้างโอกาสฟื้นตัวระยะสั้น…ภายหลัง drawdown ลงมาทั้งสิ้น 12% โมเมนตัม RSI เข้าเขตแดน oversold เต็มตัว (เกิดทั้งในรูปแบบ week & month ไม่บ่อย!) ล่าสุดพยายามสู้ที่ previous low บริเวณ 1,056 จุด ความหวังเล็กๆ ลุ้นรูปแบบกลับตัว “Double bottom” ส่วนรูปแบบในอดีตปี covid 2020 ดัชนีเคยลงไปต่ำ 1,000 จุด แต่ใช้เวลาไม่นานดีดขึ้นเลย สังเกต! ช๊อตสุดท้ายของการลงจะเกิดภาพ panic sell มีแต่ข่าวร้าย!
สรุป: แนวโน้มตลาดอาจมีลุ้นรีบาวด์...ท่ามกลางข่าวร้าย!

 

 


What to watch
อ้างข้อมูลจากโพลีมาร์เก็ต (Polymarket) ตลาดยังคงประเมินความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซภายในปี 2568 ที่ 52%
ติดตามการเมืองในประเทศ การปรับ ครม. และคดีสำคัญ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาตรการชั่วคราว รองรับความผันผวน 23-27 มิ.ย. โดยการกำหนด Celling & Floor แคบลงทั้ง SET และ TFEX ส่วนสำคัญสำหรับการซื้อขายหุ้น/TFEX อยู่ที่ +/-15% (จากเดิม +/-30%)
ธปท. เคาะ 3 ใบอนุญาต Virtual Bank ได้แก่ 1) เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง (มีทรู มันนี่ร่วม) 2) KTB-ADVANC-OR และ 3) SCB-Kakao Bank-WeTechnology
การประชุม กนง. 25 มิ.ย. // ตลาดเริ่มคาดการณ์ลดดอกเบี้ย

หุ้นแนะนำวันนี้

PTT แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 เติบโตดี และปันผลสูง
แนวรับ 29.75 ต้าน 31 Stop loss 29

 

 


รายงานพื้นฐานวันนี้

Quantitative Strategy
ดัชนี Short-term แตะจุดต่ำสุด แต่ SET ยังมีดาวน์ไซด์เนื่องจากดัชนี Medium-term อ่อนแอลง
ตลาดหุ้นไทยปรับลง 6.4% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทะลุต่ำกว่าแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,120 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะรีบาวด์จากระดับใกล้จุดต่ำสุดเดิมที่เคยทำไว้ในเดือน เม.ย. ที่ 1,050 จุด อย่างไรก็ตามอัพไซด์จะยังคงจำกัด ทั้งนี้แรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทยน่าจะเข้ามาอีกระลอกในเดือน ก.ค. ซึ่งน่าจะทำให้ SET ปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่บริเวณ 970-1000 จุดในเดือนดังกล่าว ทั้งนี้ดัชนี Composite Short-term อ่อนแอลงมากในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทั้งดัชนี Short-term Momentum และ ดัชนี Short-term Bull-to-Bear ปรับตัวลงสู่ระดับกรอบล่าง ซึ่งมักเป็นระดับที่จะเกิดภาวะ Mean Reversion ขณะที่ดัชนี Composite Medium-term ปรับตัวลงเล็กน้อยจากสองสัปดาห์ก่อนหน้า โดยทุกองค์ประกอบย่อยทุกด้านเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แม้ว่าดัชนีดังกล่าวจะอยู่ใกล้กรอบล่าง แต่โอกาสในปรับขึ้นไปมากๆจากระดับปัจจุบันยังเป็นไปได้ยากเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์การเมืองในประเทศยังคงมีความเสี่ยง เราประเมินกรอบดัชนี SET ในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้าไว้ที่ 1015-1095 จุด

CBG
(Idea Call)
คาราบาวกรุ๊ป
Defensive ด้วย market share แกร่ง และ Margin ที่กำลังฟื้นตัว
แม้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเริ่มชะลอตัว อิงจากเลข Factory shipment domestic energy drink เดือน เม.ย. 25 ติดลบ –9.2% YoY ซึ่งปกติมีความสัมพันธ์กับยอดขายสูง (R = 0.85) และบ่งชี้ว่ารายได้อุตสาหกรรม Energy drink ในประเทศ 2Q25 อาจชะลอ ใกล้เคียงกับกลุ่มเครื่องดื่มอื่น

แต่จุดเด่นของ CBG คือส่วนแบ่งตลาด (mkt share) แข็งแรง โดย เม.ย. 25 อยู่ที่ 25%, เพิ่มขึ้น +120bps YoY แม้เจอแรงกดดันจากการแข่งขันขนาด 10 บาท ของ OSP แต่ mkt share ยังไม่ลดลง ขณะที่ OSP กลับติดลบ YoY แปลว่าเราไม่ควรพิจารณาแค่สภาพตลาดที่อ่อนแรง แต่ CBG แข็งกว่าในเชิงแข่งขัน

ด้านต้นทุน วัตถุดิบเริ่มลดลงชัดเจน โดยน้ำตาลนำเข้า –14% YoY, Cullet –22% YoY คาดหนุน GM +30bps (2Q25), +80bps (3Q25) นอกจากนี้ บริษัทยังใช้ขวดแก้ว-กระป๋องน้ำหนักเบา เพื่อลดต้นทุนต่อหน่วย เพิ่ม GM ได้อีก +50bps

สำหรับความเสี่ยงหลักเรื่องก๊าซธรรมชาติ หากขึ้นทุก 10% จะกระทบ GM ราว 40bps และความกังวลเรื่องกัมพูชา (16% ของรายได้ปี 2025) มองทุก 10% ที่ยอดขายลด กระทบ GM ราว 200bps และกระทบกำไร –3.7% อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปรับลงไปแล้ว 19% เท่ากับตลาดกำลัง price-in กรณีการหายไป ของยอดขายกัมพูชาราว 50% (หรือราว 8% ของยอดขายทั้งหมด) แต่ในความเป็นจริงคาด CBG front-load สินค้าไว้ขายแล้ว ดังนั้น เราเชื่อว่าตลาดราคาปัจจุบัน Overreact กว่าสถานการณ์จริง
Fundamental view: ด้วย Valuation ปัจจุบัน PER ที่ 15x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1.4SD (และต่ำกว่าเป้าหมายเราอยู่ที่ 22x ซึ่งเรา de-rated แล้ว) จึงยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 70 บาท

 


Weekly Commodities
ราคาน้ำมันและค่าการกลั่นพุ่ง
น้ำมันดิบ: ราคาน้ำมันดูไบปรับขึ้นแรงสุดในรอบสัปดาห์ +US$7.09 WoW มาอยู่ที่ $75.16/bbl จากความกังวลความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่านที่อาจกระทบ supply
ค่าการกลั่น: GRM สิงคโปร์เพิ่มขึ้น +$0.60 WoW อยู่ที่ $6.58/bbl นำโดย middle distillates ที่ดีขึ้น โดย Jet และ Diesel spread ขยายตัว จากดีมานด์ในเอเชียและความกังวล supply ด้าน Gasoline และ HSFO อ่อนตัวต่อเนื่องจาก inventory สูง
สเปรดเคมี: แม้ราคาขายปรับขึ้นตามน้ำมัน แต่ต้นทุน Naphtha ที่พุ่ง ทำให้ Spread หดตัวลงต่อเนื่อง Ethylene, Propylene, HDPE และ PP
ถ่านหิน: ราคานิวคาสเซิลขยับขึ้นอีก +$4.44 WoW มาอยู่ที่ $109.19/ตัน จากความต้องการที่แข็งแกร่งในภูมิภาค
ค่าระวางเรือ: BDI เพิ่มขึ้น +52 จุด (+3% WoW) อยู่ที่ 1,848 นำโดย Capesize (+3%), Panamax (+3%) และ Supramax (+3%) สะท้อนดีมานด์ในเรือเทกองไทยอย่าง PSL และ TTA ส่วน Container Index ลดลงแรง -8% WoW เหลือ 3,279
Fundamental view: แนวโน้มราคาน้ำมันที่ฟื้นและความกังวลความขัดแย้งตะวันออกกลางเปิดโอกาส เก็งกำไร หุ้น PTTEP และกลุ่มโรงกลั่น โดยเฉพาะ TOP (Valuation ยังถูก), IVL (แนวโน้มกำไรดีกว่ากลุ่ม), และ PTTGC (ฟื้น QoQ ใน 2Q25)
ขณะที่กลุ่มเรือยังได้อานิสงส์ระยะสั้นจากการเลื่อนขึ้นภาษีนำเข้า 90 วันระหว่างจีน-สหรัฐฯ

 

 

สรุปประเด็นจาก Quick take

DOHOME
ดูโฮม
บริษัทได้ชี้แจงเกี่ยวกับเหล็กไม่ได้มาตรฐาน
บริษัทได้จัดประชุมชี้แจงเกี่ยวกับเหล็กไม่ได้มาตรฐาน จากบริษัทหนึ่งของประเทศจีน โดยสินค้าจากบริษัทนี้ มีสัดส่วนอยู่ไม่เกิน 100 ล้านบาท ใน worst case คือ มีลูกค้าขอคืนสินค้าทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นไม่ถึง 5% ของกำไรปัจจุบัน

View from fundamental: เรามองว่า ประเด็นหลักคือความเชื่อมั่นต่อสินค้าเหล็กของ DOHOME ที่จะต้องใช้เวลา ในการเรียกคืนกลับมา เรายังคงคำแนะนำขาย

 

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ตะวันออกกลาง คลี่คลาย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ สถานการณ์ตะวันออกกลาง คลี่คลาย ตลาดหุ้นต่างประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดหุ้นไทยเช่นกัน..

NAM ผนึกกลุ่ม PRINC ลุยขยายธุรกิจ Serviso ทั่วประเทศ

NAM ผนึกกลุ่ม PRINC ลุยขยายธุรกิจ Serviso ทั่วประเทศ

บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ หรือ MASTEC จัดเต็มโรดโชว์ จ.นครปฐม เดินหน้าเข้าเทรดใน SET ปีนี้ เตรียมเสนอขายหุ้น 79 ล้านหุ้น

บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ หรือ MASTEC จัดเต็มโรดโชว์ จ.นครปฐม เดินหน้าเข้าเทรดใน SET ปีนี้ เตรียมเสนอขายหุ้น 79 ล้านหุ้น

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้