AT THE OPEN (#ATO)

SET Index ถึงเวลาฟื้นกลับ
Selective หุ้นรายตัวชอบ CENTEL KBANK

Market Strategy
SET Index คาดฟื้นตัวตามกรอบ 1055-1075 จุด ปัจจัยบวกความเสี่ยงในตะวันออกกลางที่ลดลงและความคืบหน้าต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ มีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยลบสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา หุ้นเด่นวันนี้เลือก CENTEL และ KBANK

สถานการณ์ตะวันออกกลางมีแนวโน้มเป็นบวก หลังจากคุณทรัมป์เผยว่าอิหร่านและอิสราเอลเตรียมหยุดยิง 6 ชม.ซึ่งหากผ่านได้ด้วยดี สงครามทั้ง 2 ฝ่ายมีแนวโน้มจบลง การตอบสนองราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลง 7% Dow Jones Futures ปรับขึ้น +0.4% เป็นบวกต่อตลาดหุ้นในภาพรวม โดยกลุ่มที่คาดฟื้นตัวได้ดีกว่าตลาดคือกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาพลังงานลดลง กลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC BGRIM) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL MINT ERW) กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS PR9) ความเชื่อมั่นในการเดินทางระหว่างประเทศสูงขึ้น ส่วนกลุ่มที่เป็นลบ กลุ่มน้ำมัน PTTEP มองการย่อลงของราคาหุ้นเป็นจังหวะ ตั้งรับ จาก Valuation ที่ถูก PBV 0.8 เท่า Dividend Yield 6.9% และ Downside ในการปรับลงของน้ำมันดิบเชื่อว่าจำกัด

สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชายังแย่ลง จากล่าสุดไทยปิดด่านชายแดนเพิ่ม 6 จุด 10 จุดผ่อนปรน เป็นปัจจัยที่กระทบต่อการค้าชายแดนไทยและกัมพูชา ซึ่งระยะสั้นเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มเครื่องดื่ม CBG สัดส่วนรายได้กัมพูชา 13% ส่วน ICHI OSP สัดส่วนรายได้ต่ำไม่ถึง 5% สำหรับปัจจัยการเมืองในประเทศระยะสั้นอยู่ในช่วงการปรับ ครม. ซึ่งคาดจะมีความชัดเจนในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ โดยสัญญาณล่าสุดยังคงเดิม คือนายกฯ อยู่ต่อร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ยกเว้นภูมิใจไทย

ประเด็นติดตามวันนี้อยู่ที่ การประชุม ครม. คาดพิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.15 แสนล้านบาท ที่จะครอบคลุม 4 ด้าน โครงสร้างพื้นฐาน ท่องเที่ยว ส่งออกและเศรษฐกิจ ชุมชน เรามองจะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวที่มีสัดส่วนรายได้หลักในประเทศอย่าง CENTEL ERW กลุ่มวัสดุก่อสร้างและรับเหมาฯ TASCO STECON

Market Summary
SET Index ติดลบเกือบ 5 จุด กลุ่มที่ลงแรง คือ กลุ่มที่เสียประโยชน์จากสงครามตะวันออกกลาง กลุ่มสายการบิน AAV -4% กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL -3% กลุ่มไฟแนนซ์ KTC -15% คาดมาจากการถูก Force Sell และความกังวลต่อคุณภาพสินทรัพย์ กลุ่มกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา CBG -4% OR -2.9% กลุ่มที่ขึ้นกลุ่มน้ำมันPTTEP +0.9% SPRC +1.9% ตามราคาน้ำมันดิบ กลุ่ม ICT จาก ADVANC +1.9% กลุ่มประกัน TLI +2%

DAILY Stock Pick
CENTEL
ภาวะสงครามคลายตัว รายได้ไตรมาส 2 แข็งแกร่ง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 44.00 บาท
สหรัฐฯ ประกาศอิสราเอล-อิหร่านบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ภายใน 12 วัน พร้อมทั้งอิหร่านไม่ได้ตอบโต้ด้วยการขัดขวางการขนส่งน้ำมันและก๊าซผ่านช่องแคบฮอร์มุซ หนุน Sentiment การท่องเที่ยวโลกให้ฟื้นตัว
รายได้ของ CENTEL จากโรงแรมในประเทศไทยเติบโตขึ้น 8-10% YoY ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2568 เพิ่มขึ้นจาก +2% ในเดือนเมษายน 2568 โดยได้รับการสนับสนุนจากการกลับมาเปิดให้บริการของโรงแรมที่เคยปิดปรับปรุงไปก่อนหน้านี้ อีกท้ังการประกาศมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ช่วยจำกัด Downside ในระยะถัดไป ปัจจุบัน ถูกซื้อขาย PE ปี 68 ที่ 13.6 (-2SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี)

KEY FACTOR
สถานการณ์ความขัดแย้งตะวันออกกกลางผ่อนคลายลงหลังทรัมป์ประกาศว่า อิหร่าน และ อิสราเอล บรรลุข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปภายใน 24 ชม. ซึ่งส่งผลต่อตลาดการเงินโลก 1) ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลง ล่าสุดต่ำกว่าระดับ 69 เหรียญฯ (จากจุดสูงสุดที่ทำไว้ระดับ 80.3 เหรียญฯ) 2) ตลาดหุ้นหสหรัฐฯ Dow Jones Futures ปรับตัวขึ้น +0.43% (ตลาดหุ้นปิดทำการไปก่อนข่าวการประกาศหยุดยิง S&P 500 ปรับตัวขึ้น +0.96%) 3) Dollar index ซึ่งก่อนหน้านี้ ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงภาวะสงคราม ปรับตัวลง -0.2% 4) ตลาดหุ้นเอเชีย เช้านี้ เปิดปรับตัวขึ้น นำโดย เอเชียเหนือที่บวกแรงในช่วง +1.3% ถึง +2.2%

EYES ON
25 มิ.ย. ประชุม กนง.
27 มิ.ย. PCE ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค.

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ