สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(23 มิถุนายน 2568)-------บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์กลุ่มลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ระดับแถวหน้าของประเทศไทย จับมือพันธมิตรระดับโลก โตโต้ (TOTO) แบรนด์สุขภัณฑ์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ผสานความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและดีไซน์ เพื่อนำเสนอประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับในโครงการ "นาราสิริ บางนา กม.10" ไพรเวทเพียง 56 ครอบครัว หนี่งใน Sansiri Luxury Collection มาสเตอร์พีซแรกแห่งปี
ความร่วมมือระหว่างสองแบรนด์ชั้นนำจากไทยและญี่ปุ่นในครั้งนี้ คือการหลอมรวมจุดแข็งระหว่างนวัตกรรมสุขภัณฑ์ล้ำสมัยของ TOTO และความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการคุณภาพจากแสนสิริ เพื่อสร้างนิยามใหม่ของการอยู่อาศัยที่ลงตัวทั้งในแง่ของดีไซน์ สุขภาวะ และความยั่งยืน สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันในการยกระดับคุณภาพชีวิต
นายเซอิจิโระ ซาโต้ ประธานบริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ด้วยปณิธานของผู้ก่อตั้ง TOTO ที่มุ่งมั่นจะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน เรายังคงยึดมั่นในเป้าหมายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขอนามัยที่ดีขึ้น และการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการ "นาราสิริ บางนา กม.10" เราภูมิใจที่ได้นำเสนอเทคโนโลยี
จากญี่ปุ่นที่เน้น Well-being ผสานเข้ากับดีไซน์อันโดดเด่นของแสนสิริ เพื่อมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สะดวกสบายและยั่งยืน อย่างสุขภัณฑ์อัฉริยะ NEOREST LS.
TOTO NEOREST LS มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ใส่ใจสุขภาวะและความยั่งยืน ผ่านดีไซน์และเทคโนโลยีที่คิดมาเพื่อ "คุณภาพชีวิต" อย่าง EWATER+
เทคโนโลยีล้ำสมัยจาก TOTO เพื่อสุขอนามัยที่เหนือระดับและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคือหนึ่งในนวัตกรรมอันโดดเด่นของ TOTO ที่เปลี่ยน "น้ำประปาธรรมดา" ให้กลายเป็น น้ำอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีรุนแรง ระบบจะทำฉีดพ่น EWATER+ อัตโนมัติหลังการใช้งาน เพื่อชำระล้างพื้นผิวสุขภัณฑ์และก้านฉีดให้สะอาดอยู่เสมอ
● โดยเฉพาะในรุ่น NEOREST LS ยังมีการพัฒนาเพิ่มเติมด้วยการฉีดพ่น EWATER+ ไปยัง บริเวณใต้ฝารองนั่ง ซึ่งเป็นจุดที่มักถูกละเลยในการทำความสะอาดทั่วไป ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานด้านสุขอนามัยอย่างรอบด้าน
● การทำความสะอาดด้วย EWATER+ ไม่เพียงลดการสะสมของแบคทีเรียและคราบสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังส่งเสริมแนวคิด Sustainable Living ด้วยการลดการใช้น้ำและลดการพึ่งพาผลิตภัณฑ์ทำ
ความสะอาดที่มีสารเคมีรุนแรง ตอกย้ำแนวทางของ TOTO ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ใส่ใจทั้งผู้ใช้งานและโลกใบนี้
● ฝารองนั่งอุ่น ปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายและสบายในการใช้งานทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงเช้าหรือกลางคืน ช่วยส่งเสริมสุขภาวะที่ดีในชีวิตประจำวัน
● ระบบกำจัดกลิ่นสองขั้นตอน ทั้งระหว่างและหลังการใช้งาน ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่น
ไม่พึงประสงค์ ให้คุณมั่นใจได้ตลอดและหลังการใช้งาน ปราศจากกลิ่นรบกวน
● ระบบควบคุมแบบไร้สัมผัส ลดการสัมผัสพื้นผิว ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค เพิ่มความปลอดภัยและสอดคล้องกับแนวคิดสุขอนามัยในยุคใหม่
● ดีไซน์เรียบหรูเข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก ผสานความงามและประโยชน์ใช้สอยอย่างลงตัว เสริมสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อนในห้องน้ำให้เป็นพื้นที่ของความผ่อนคลายและสมดุลทางใจ
นอกจากความโดดเด่นด้านนวัตกรรมและดีไซน์แล้ว TOTO ยังยึดมั่นในแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ TOTO WILL2030 ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของแสนสิริ ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และใส่ใจต่อสังคมและโลกใบนี้
โดยแสนสิริได้เลือกใช้สุขภัณฑ์ที่มีฟังก์ชันประหยัดน้ำจาก TOTO ภายในโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ "นาราสิริ" แบรนด์ที่ทรงคุณค่าและพิถีพิถัน ได้รับความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้าระดับ HNWIs ใน 4 แห่ง ทั้ง นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา, นาราสิริ บางนา กม.10, นาราสิริ พหล – วัชรพล และ นาราสิริ บรมราชชนนี
จากข้อมูลเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานของอาคารที่อยู่อาศัยทั่วไป พบว่า สุขภัณฑ์ของ TOTO ที่ติดตั้งในโครงการ "นาราสิริ บางนา กม.10" มีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำอย่างเห็นได้ชัด โดยสามารถลดการใช้น้ำได้มากถึง 21% จากการใช้ปริมาณน้ำเพียง 3.8 ลิตรต่อครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของสุขภัณฑ์ทั่วไปในท้องตลาดที่ 4.8 ลิตรต่อครั้ง
นอกจากนี้ ภายในโครงการยังเลือกใช้อุปกรณ์ในห้องน้ำอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติในการประหยัดน้ำเช่นกัน ทั้งก๊อกน้ำและฝักบัวอาบน้ำ ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมแนวคิดการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน และสะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้ทุกการใช้ชีวิตในโครงการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
กล่าวได้ว่าความร่วมมือระหว่างแสนสิริและโตโต้ครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่การสร้างสรรค์พื้นที่อยู่อาศัยที่สวยงามล้ำสมัย แต่ยังเป็นการร่วมกันส่งต่อ แนวคิดการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการอยู่อาศัยในยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง