ภาวะตลาด : SET Index วานนี้ปิดลดลง -19.00 จุดที่ 1094.58 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวัน จากวิตกการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะหลังมีคลิปนายกฯคุยกับฮุนเซนออกมา ซึ่งสั่นคลอนทั้งเก้าอี้นายกฯแพทองธาร อำนาจต่อรอง และคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย รวมถึงรอผลประชุมเฟด 17-18 มิ.ย.นี้ด้วย นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิ -1.14 พันลบ. และต่างชาติขายสุทธิ -1.14 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• คณะกรรมการเฟดมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25-4.50%...Dot Plot บ่งชี้ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งๆละ 0.25% ในปีนี้ ด้านเศรษฐกิจเฟดปรับลดคาดการณ์จีดีพีสหรัฐปีนี้ลงเป็น 1.4% (เดิม 1.7%) และปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้เป็น 3.1% (เดิม 2.8%)...เป็นไปตามที่ตลาดคาด
• ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านรุนแรงขึ้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านได้ออกมาเตือนอย่างแข็งกร้าวว่าการแทรกแซงใด ๆ จากสหรัฐจะนำไปสู่ "สงครามเต็มรูปแบบ" ด้านทรัมป์ ระบุว่า สหรัฐกำลังพิจารณาใช้ปฏิบัติการโจมตีผู้นำอิหร่าน และเรียกร้องให้อิหร่านยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งทำให้วิตกว่าสถานการณ์อาจจะลุกลามบานปลาย
• ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก-ลบไม่มาก หลังผลประชุมเฟดเป็นไปตามคาด ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นเป็น 75-77 US$/bbl สัญญาทองคา +1.20 US$ สู่ 3408.10 US$/ออนซ์ ดัชนีค่าเงิน US$ ขยับขึ้นเป็น 98.9 เงินบาทอ่อนเป็น 32.75 บาท/ดอลลาร์ ด้าน US bond yield 10 ปีทรงๆที่ 4.40% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ขยับขึ้นเป็น 106.7 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ถอยลงสู่ 1874 หลังทา New high ที่ 1975

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ส่งออกไทยเดือนพ.ค.พุ่ง +18.4% เป็น 3.1 หมื่นล้านUS$ สูงสุดเป็นประวัติการณ์; 5M25 ส่งออกโต +14.9%YoY สำหรับทั้งปี 25 คาดว่าส่งออกเติบโตได้เล็กน้อย
• ราคาหมูในไทยเดือนมิ.ย.25 ลดลงราว -4%MoM เป็นประมาณ 80 บาท/กก. ส่วนราคาหมูในจีนลดลงใกล้เคียงกัน ด้านราคาหมูในเวียดนามมีแนวโน้มอ่อนตัวด้านราคาไก่ในไทยอ่อนลงจากอุปทานสูงขณะที่อุปสงค์ชะลอตามภาวะเศรษฐกิจ...เป็นข่าวลบกับ CPF, TFG, BTG รวมถึงกระทบต่อ GFPT ที่ขายชิ้นส่วนไก่ (เช่น โครงไก่ เครื่องใน) ในปท.และส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม (คือ GFN) ที่จะลดลงด้วย อย่างไรก็ดี ราคาที่ลดลงยังทำกำไรได้ดี อ่อนตัวเป็นจังหวะซื้อเก็งกำไร
• ความไม่แน่นอนของการเมืองไทย ทำให้ตลาดหุ้นมี Downside Risk เพิ่มขึ้น พรรคภูมิใจไทยประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคนส่งใบลาออกต่อนายกฯ มีผล 19 มิ.ย.25...หลายฝ่ายกดดันให้นายกฯแพทองธารรับผิดชอบปมคลิปเสียงหลุดด้วยการลาออก...มองว่าปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นลบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน และทำให้ตลาดหุ้นมี Downside risk เพิ่มขึ้น เพราะประเทศไทยอยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา มีปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องเร่งแก้ไข ต้องเจรจาการค้ากับสหรัฐ การผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณใช้จ่ายปี 69 ของรัฐสภายังไม่แล้วเสร็จ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาที่ต้องแก้ไข ฯลฯ

กลุยทธ์ : สัญญาณทางเทคนิคเป็นลบ ระยะสั้น มีแนวรับที่ไม่ควรหลุด คือ low เดิมที่ 1056 ถ้าหลุดมีสิทธิลงไปต่ำกว่า 1000 จุด (970-950 จุด) คำแนะนำระยะสั้นคือ ลดพอร์ตหุ้นไทยลงก่อน (ในส่วนที่สามารถลดได้) และ Wait & See

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : CPALL – ธุรกิจค่อนข้าง Defensive และมี 2 ปัจจัยกระตุ้นในระยะต่อไป คือ 1) โครงการเที่ยวคนละครงึ่ และ 2) การปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วันในกทม.และเฉพาะกิจการ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ยอดขายของบริษัทดีขึ้น ทั้งนี้บริษัทมีสาขา 7-11 ในกทม.คิดเป็นประมาณ 23% ของจำนวนสาขาทั้งหมดกว่า 1.5 หมื่นสาขา เราประเมินว่ากำไรหลักปี 25F ยังเติบโตได้ ซึ่งดีกว่าเฉลี่ยของกลุ่มค้าปลีก นอกจากนั้นบริษัทมีซื้อหุ้นคืน ไม่เกิน 150 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 1.67% ของจำนวนหุ้นเรียกชำระแล้ว วงเงินซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 7.5 พันล้านบาท ระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 16 พ.ค. ถึง 14 พ.ย. 2025 แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 69 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829