สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(18 มิถุนายน 2568)--------บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ประกาศการแต่งตั้ง นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งขององค์กร และมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

คณะกรรมการบริษัทฯ นำโดย นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ได้รับทราบการเกษียณอายุของ นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ จากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ และรับทราบการลาออกจากตำแหน่ง กรรมการบริษัท กรรมการบริหารความเสี่ยง และกรรมการบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ขอขอบคุณ นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ สำหรับวิสัยทัศน์และความทุ่มเทตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ซึ่งได้นำพา สิงห์ เอสเตท ให้เติบโตและประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงปี 2564 - 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและได้สร้างผลงานที่สำคัญมากมาย อาทิ การขยายพอร์ตโฟลิโอโครงการทั้งในและต่างประเทศ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และที่สำคัญอย่างยิ่งคือการสร้างแบรนด์ “สิงห์ เอสเตท” และแบรนด์ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มให้เป็นที่ยอมรับในระดับ Luxury อย่างแข็งแกร่งภายใต้วิสัยทัศน์ “Entrusted and Value Enricher”

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการแต่งตั้ง นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทน นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ที่ครบกำหนดการเกษียณอายุ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป นอกจากนี้ นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ยังได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท แทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยมีผลตั้งแต่วันเดียวกัน ทั้งนี้ นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ จะยังคงดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารของบริษัทฯ ต่อไป

นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ เป็นผู้บริหารที่อยู่กับ สิงห์ เอสเตท มาเป็นระยะเวลานาน และเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรในหลากหลายด้านตลอดหลายปีที่ผ่านมา เป็นผู้บริหารที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการสานต่อแนวทาง การพัฒนาและต่อยอดธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ทั้งในประเทศไทยและระดับนานาชาติ ครอบคลุมทั้ง 4 ประเภทธุรกิจหลักของ สิงห์ เอสเตท ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอาคารเชิงพาณิชย์ รวมถึงธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน

นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธานกรรมการ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ว่า “คณะกรรมการบริษัทขอขอบคุณ นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ สำหรับการนำพา สิงห์ เอสเตท ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งเป็นที่ยอมรับในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผลงานของท่านเป็นรากฐานอันมั่นคงที่เราจะสานต่อและพัฒนาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ท่านจะยังคงดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการบริหาร เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น”

นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า “คณะกรรมการบริษัทมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งในการแต่งตั้ง นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการเงินและประสบการณ์การทำงานอันยาวนาน เราเชื่อมั่นว่าท่านจะนำพาสิงห์ เอสเตท เข้าสู่ยุคใหม่ของการเติบโตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นของเรา”

นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ กล่าวถึงผู้สืบทอดตำแหน่งว่า “ดิฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการแต่งตั้ง นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้วยประสบการณ์และความสามารถที่โดดเด่นตลอดระยะเวลาที่ทำงานร่วมกันมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเงิน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของ สิงห์ เอสเตท ในปัจจุบันและอนาคต ดิฉันเชื่อมั่นว่าด้วยความมุ่งมั่นและความเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้งของ นายชัยรัตน์ จะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกขั้น”

นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้นำของ สิงห์ เอสเตท ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย ผมพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคน เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ พัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ และขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกภาคส่วน”

สิงห์ เอสเตท มุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์โครงการที่มีคุณภาพ การบริหารจัดการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน การเปลี่ยนแปลงผู้นำในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาองค์กรในระยะยาว เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและมั่นคง