ภาวะตลาด : SET Index วานนี้แกว่งแคบ โดยการลดลงของหุ้นพลังงานและปิโตรเคมี แต่ได้รับการชดเชยจากแรงซื้อหุ้น Domestic play และท่องเที่ยวจะปรับขึ้นปิดตลาดดัชนีอยู่ที่ 1113.58 (-0.91 จุด) มูลค่าซื้อขาย 2.7 หมื่นลบ. ต่างชาติขายสุทธิ -607 ล้านบาท สถาบันในปท.ซื้อสุทธิ +236 ลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ : ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.หดตัว -0.9%MoM, การผลิตภาคอุตสาหกรรมลด -0.2%MoM แย่กว่าตลาดคาด เนื่องจากผลกระทบภาษีศุลกากรทรัมป์
• วุฒิสภาสหรัฐเสนอแก้ร่างกฎหมายลดภาษีฉบับเรือธงทรัมป์ ซึ่งสวนทางกับสภาผู้แทนราษฎร อาจสั่นคลอนเป้าหมายการผ่านร่างฯก่อนเส้นตายที่ตั้งไว้ 4 ก.ค.นี้
• ตะวันออกกลางยังตึงเครียด สหรัฐส่งเครื่องบินขับไล่ไปประจำการในตะวันออกกลางเพิ่ม ตลาดหุ้นสหรัฐร่วง 0.7-0.9% ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 4% ไปที่ 75-76 US$/bbl...กลับมาเป็นข่าวบวกกับ PTTEP, โรงกลั่น, PTT แต่เป็นลบกับ PTTGC (ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น) สัญญาทองคำ -10.40 US$ สู่ 3406.90 US$/ออนซ์
• ดัชนีค่าเงิน US$ ขยับขึ้นเป็น 98.7 เงินบาทอ่อนเล็กน้อย 32.6 บาท/ดอลลาร์ ด้าน US bond yield 10 ปีถอยมาที่ 4.40% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ขยับขึ้นเป็น 106.4 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ลดลงเป็น 1952 หลังทำ New high ที่ 1975

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ครม.อนุมัติปรับหลักเกณฑ์ “โครงการซื้อหุ้นคืน” โดยไม่ต้องมีระยะเวลาพัก 6 เดือนหลังซื้อหุ้นคืนเสร็จและต้องการซื้อหุ้นคืนรอบใหม่ และขยายเวลาการขายหุ้นคืนจาก 3 ปีเป็น 6 ปี...เรามีมุมมองบวก โดยคาดว่าการปรับกฎเกณฑ์นี้จะกระตุ้นให้บจ.ทา โครงการซื้อหุ้นคืนมากขึ้น
• คณะกรรมการค่าจ้างปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำพื้นที่กทม.เป็น 400 บาท/วัน ต่างจังหวัดปรับเฉพาะบางกิจการ เช่น โรงแรม 2 ดาวขึ้นไป, โรงแรมห้องพัก 50 ห้องขึ้นไป และโรงแรมที่มีห้องอาหาร, สถานบริการ มีผล 1 ก.ค.68...ผลกระทบมีทั้งบวกและลบ โดยผลบวกคือ ทำให้กำลังซื้อในกทม.และพื้อที่ท่องเที่ยวต่างจังหวัดดีขึ้น เป็นบวกกับ CPALL, BJC, COM7, CRC, MC เป็นต้น รวมถึงดีกับกลุ่มไฟแนนซ์ เช่น AEONTS, MTC, SAWAD, TIDLOR ฯลฯ แต่ก็ทำให้ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้น หุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เช่น โรงแรม (CENTEL, ERW, MINT เป็นต้น) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK, STECON, SYNTEC, SEAFCO, PYLON เป็นต้น)
• วันนี้ (18 มิ.ย.25) ก.ท่องเที่ยวฯจะนำ “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท โดยได้เปิดให้ผู้ประกอบการโรงแรมลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่ 17 มิ.ย.25 แล้ว...เป็น Sentiment บวกกลุ่มกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีก หุ้นเด่น CPALL, CENTEL
• การเมืองไทยมีหลายประเด็นที่ติดตาม 1) คดีทักษิณรักษาตัวชั้น 14 ศาลฎีกาฯมีคา สั่งเรียกสอบพยานเพิ่มให้มาไต่สวน 4, 8 และ 15 ก.ค.25 และขยายเวลายื่นคำชี้แจงให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์และนายทักษิณถึงวันที่ 20 มิ.ย.และ 23 มิ.ย., 2) ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา 4 จุด, 3) การปรับครม.
• สื่อกัมพูชา Khmer Times รายงานวานนี้ (17 มิ.ย.) ว่าเส้นตาย 24 ชั่วโมงที่รัฐบาลกัมพูชากำหนดได้สิ้นสุดลงแล้ว ส่งผลให้การนำเข้าผักและผลไม้จากไทยผ่านพรมแดนเข้าสู่กัมพูชาถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง

กลุยทธ์ : สัญญาณทางเทคนิคเป็นลบ ระยะสั้นมีแนวรับ 1110-1105, 1095 กรณีเด้งมีแนวต้าน 1120-1130, 1140 ยืนเหนือ 1140 ได้มั่นคงค่อยถือต่อ แต่ถ้าไปไม่ถึงหรือถึงแล้วยืนไม่ได้ แนะให้ขายก่อน ส่วนการลงทุนระยะยะกลาง-ยาว แนะเลือกสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ Valuation ไม่แพง จ่ายปันผลดี สม่ำเสมอ หุ้นเด่นเดือนมิ.ย. 25 ประกอบด้วย ADVANC, CPALL, KTB, PR9 และ STECON

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : CENTEL – คาดกำไรสุทธิ 2Q25F เติบโตได้ YoY จาก RevPar ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหลักๆมาจากอัตราค่าห้องพักที่สูงขึ้น บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจอาหารบริษัทร่วมทุนเพิ่มขึ้น ส่วนแนวโน้ม 2H25F คาดว่าจะได้อานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศและมาตรการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยของรัฐบาล ทำให้ภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับกำไรหลักปี 2025F คาดว่าจะขยายตัวได้ YoY และโดดเด่นสุดในหุ้นโรงแรมที่เราทำการวิเคราะห์ (ERW, CENTEL, MINT) แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 37.50 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829