Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

เอ็นไอเอ ผนึกกำลัง CBiS-วิศวะ จุฬาฯ เปิดตัว “Greentech & Innovation Program” หลักสูตรออนไลน์สุดเข้มข้น หนุนผู้ประกอบการไทยพร้อมแข่งในตลาด Net Zero

90

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(17 มิถุนายน 2567)--------กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ผนึกกำลังกับสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน (CBiS) ภายใต้การสนับสนุนของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเวทีดึงผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมสีเขียวจากเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ปลุกพลังผู้ประกอบการภาคธุรกิจไทยให้เตรียมพร้อมปรับตัวและขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคตที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว ผ่านเวทีเสวนา “นวัตกรรมสีเขียว: Green Innovation Forum” พร้อมเปิดตัวหลักสูตร “Greentech & Innovation Program เทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียว” ที่เน้นเชื่อมโยงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนสตาร์ตอัป กิจการเพื่อสังคม และผู้ประกอบการไทยให้เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียว เพื่อยกระดับและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

 

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มเทรนด์โลกมุ่งให้ความสำคัญไปที่ “เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy)” อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ส่งผลให้ภาคธุรกิจจำเป็นต้องเริ่มปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม ขณะเดียวกันความต้องการเทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียว รวมถึงบุคลากรที่มีทักษะสีเขียว หรือ Green Talent ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ผลสำรวจกลับพบว่าตลาดแรงงานในปัจจุบันยังขาดแคลนผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทักษะสีเขียวอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาองค์กรให้สอดคล้องกับมาตรฐานความยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และกฎกติกาใหม่ ๆ ในการทำธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแนวทางการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐ และภาคการเงิน

 

“จากสถิติภาพรวมเศรษฐกิจปี 2567 พบว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีการขยายตัวถึงร้อยละ 3.1 โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.9 ต่อ GDP รวมทั้งหมด ซึ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 6,480,183 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าจำนวนธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีมากขึ้นส่งผลต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและความต้องการคาร์บอนเครดิตในประเทศไทยไม่ต่างกับอุตสาหกรรมรายใหญ่ ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ประกอบการให้สามารถรับมือความเปลี่ยนแปลง และไปถึงเป้าหมายการเติบโตในระดับโลกได้อย่างยั่งยืน NIA ภายใต้บทบาทผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม (Focal Conductor) ที่มีการส่งเสริมผู้ประกอบการในหลากหลายมิติทั้ง Groom Grant Growth และ Global พร้อมเชื่อมโยงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนสตาร์ตอัป กิจการเพื่อสังคม และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม โดยเฉพาะนวัตกรรมสีเขียว เพื่อยกระดับและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้สามารถแข่งขันทางธุรกิจได้ไปพร้อมกับการดูแลโลก รวมถึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความตระหนักรู้และสร้างเครื่องมือการเรียนรู้แก่ผู้ประกอบการ ในเรื่องของเทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียว ที่จะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพสร้างแรงบันดาลใจและแนวทางการพัฒนาธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนต่อไป”


สำหรับหลักสูตร “Greentech & Innovation Program เทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียว” แบ่งเนื้อหาเป็น 8 หัวข้อ เช่น เทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียวคืออะไร ความสำคัญของคาร์บอนฟุตพรินท์เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน เทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียวเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและการบูรณาการยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียวเพื่อการจัดการของเสียและเศรษฐกิจหมุนเวียน เทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียวเพื่อระบบน้ำ เกษตร และอาหาร และนวัตกรรมสีเขียวกับอนาคตแห่งความยั่งยืน โดยเนื้อหาการนำเสนอในแต่ละบทจะประกอบด้วย 2 ส่วนคือ Academic Study จะเป็นการสอนเนื้อหาเชิงลึกโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ และ Case Study กรณีศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Greentech & Innovation ดร.กริชผกา กล่าว


รศ.ดร.วิทยา สุวัณณโภประสิทธิ์ คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เพราะนับเป็นภารกิจสำคัญที่จะช่วยส่งต่อองค์ความรู้ ปลุกแรงบันดาลใจให้นิสิตและบุคลากรเกิดการพัฒนานวัตกรรมแห่งอนาคตในการรับมือกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม และสังคมที่โลกกำลังเผชิญอยู่ กิจกรรมวันนี้จัดขึ้นเพื่อให้เห็นความท้าทายของภาคธุรกิจในการรับมือความเปลี่ยนแปลง ซึ่งล้วนมาจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ทิศทางการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงมาตรการทางการค้าต่างๆ เช่น CBAM จากความท้าทายเหล่านี้ นำมาสู่แนวทางการปรับตัวของภาคธุรกิจเพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาด โดยเราเชื่อว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะพาธุรกิจไทยรอดพ้นและรับมือการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือการนำ “เทคโนโลยีสีเขียว” และ “นวัตกรรมสีเขียว” มาเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันองค์กรทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

 

“คณะวิศวกรรมศาสตร์ฯ รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับปณิธานขององค์กรที่มุ่งเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับบุคลากรทุกภาคส่วนในด้านการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเพื่อร่วมผลักดันประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดบุคลากรในองค์กรที่มีทักษะจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียว เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน เพราะวันนี้โลกอยู่ในภาวะที่เต็มไปด้วยสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเท่านั้นที่จะช่วยให้โลกกลับมาสดใสและเป็นสีเขียวดังเดิมได้ สิ่งสำคัญอยู่ที่ความร่วมมือร่วมใจขององค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ที่จะร่วมกันคิดและผลักดันให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสีเขียวให้มากขึ้น”

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ความเสี่ยงคลุมหุ้นไทย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เป็นปัจจัยความเสี่ยง ทั้งในและนอกประเทศ ปกคลุมตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นไทย จังหวะเด้ง .....

กังวล By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม นักลงทุน ยังคงมีความกังวลใจต่อ สถานการณ์ตะวันออกลาง จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เพิ่มเติมใหม่หรือไม่ ....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้