Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

83

 

SET บอบช้ำ เกินใจจะอดทน
TOP PICK PTT / GULF/ CPAL


EXTERNAL FACTOR

• ความตึงเครียดตะวันออกกลางยังคงเป็นประเด็นที่ตลาดให้น้ำหนักต่อเนื่อง เป็นเพราะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบ ที่จะแปรผันไปตามสถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุดเช้านี้ ปธน. ทรัมป์ประกาศออกจากการประชุม G7 ที่แคนาดาอย่างกะทันหัน หลังโพสต์ข้อความเรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกจากกรุงเตหะราน
• ในกรณีที่สงครามรุนแรงขึ้น มักเห็นการ PERFORM ในตลาดหุ้นญี่ปุ่น น้ำมัน ทองคำคาดเป็นบวกต่อ JAPAN13, OIL03, GOLD03 อย่างไรก็ตาม กรณีที่ความกังวล
สงครามผ่อนคลาย อาจเป็นแรงกดดันต่อสินทรัพย์ข้างต้นได้


INTERNAL FACTOR
• ตลาดหุ้นไทยยังพอมีเรื่องดีๆอยู่บ้าง ทั้งเรื่องของตัวเลขส่งออกเดือน พ.ค.68 ที่มีโอกาสขยายตัวได้ดีและยังเติบโตเป็นเลข 2 หลัก แม้จะเจอเรื่องภาษี TRUMP ที่ปรับขึ้นแล้วในอัตรา 10% แล้ว บวกกับ เรื่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทชงบอร์ดใหญ่ 18 มิ.ย.68 และคาดครม. ไฟเขียวภายใน 24 มิ.ย.68
• โดยกลุ่มหุ้นที่ได้ SENTIMENT บวกจากประเด็นดังกล่าว คือ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวโรงแรม, หุ้นกลุ่ม ธพ., หุ้นกลุ่มค้าปลีก-ศูนย์การค้า, หุ้นกลุ่มขนส่ง และหุ้นอิงภาคการ
ส่งออก เป็นต้น

 

INVESTMENT STRATEGY
• SET ประกาศหุ้นเข้าออก SET50 และ SET100 รอบ 2H68 ซึ่งตรงตามที่ฝ่ายวิจัย ASPS คาดการณ์ไว้ ณ 2พ.ค. 68 โดยมีหุ้นเข้าออก SET50 4 คู่ และหุ้นเข้าออก SET1008 คู่ (ตามตารางทางด้านล่าง) แนะนำเก็งกำไรหุ้นเข้า SET50 อย่าง BCP ได้ SENTIMENT ตะวันออกกลาง และTCAP กับ KKP เป็นหุ้นมี DII. YIELD > 7%
• ขณะที่ SET INDEX บอบช้ำจากปัจจัยรอบด้าน และลงแรงจน ปัจจุบันมีหุ้นที่มี P/E ต่ำกว่า 10 เท่า เกือบ 200บริษัท และเป็นหุ้นที่ P/E ต่ำกว่า 5 เท่า ถึง 31 บริษัท และมีค่ากลาง P/E ลดลงมาเรื่อยๆ จากปลายปี 2023 ที่16.8 เท่า, ปลายปี 2024 ที่ 14.2 เท่า และปัจจุบัน ค่ากลาง P/E เหลือแค่ 11.1 เท่า เท่านั้น อยากเห็นทุกๆ ฝ่ายเข้ามาช่วยเหลือตลาดหุ้นอย่างเร่งด่วน

 


กระแสสงครามแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ความตึงเครียดตะวันออกกลางยังคงเป็นประเด็นที่ตลาดให้น้ำหนักต่อเนื่อง เป็นเพราะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบ ที่จะแปรผันไปตามสถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุดเช้านี้ ปธน. ทรัมป์ประกาศออกจากการประชุม G7 ที่แคนาดาอย่างกะทันหัน หลังโพสต์ข้อความเรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกจากกรุงเตหะราน โดยอ้างว่า “อิหร่านไม่ควรมีอาวุธนิวเคลียร์” และ “ทุกคนควรอพยพทันที” ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ BRENT ขยับขึ้นยืนเหนือ 73 เหรียญฯ / บาเรล

 

 

ด้าน BLOOMBERG ประเมินกรณีราคาน้ำมันดิบ BRENT พุ่งขึ้นเป็น 100 $และ 130 $ อาจทำให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ ดีดตัวเป็น +3.2% และ +3.9% ตามลำดับ ในเดือนมิ.ย.68 ทั้งนี้ ความเสี่ยงเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น อาจทำให้การเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยของ FED ดูยากลำบากมากขึ้น สำหรับคาดการณ์ FEDWATCH TOOL ให้น้ำหนักเกือบ 90% คาด FED คงดอกเบี้ยไปถึงเดือน 7


ในแง่มุมตลาดหุ้น สถิติตลอด 50 ปี เวลาเกิดสงครามแรงๆ ตลาดหุ้นสหรัฐจะลงเฉลี่ย 7.5 วัน -5.8% และใช้เวลาฟื้นกลับมาที่เดิม 16.5 วัน ส่วนตลาดหุ้นไทยเฉลี่ยๆ แล้วจะลบน้อยกว่า ทำจุดต่ำสุดเฉลี่ยที่ -3.4% ซึ่งในกรณีที่สงครามรุนแรงขึ้น มักเห็นการ PERFORM ในตลาดหุ้นญี่ปุ่น น้ำมัน ทองคำ คาดเป็นบวกต่อ JAPAN13, OIL03, GOLD03
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ความกังวลสงครามผ่อนคลาย อาจเป็นแรงกดดันต่อสินทรัพย์ข้างต้นได

 

 

ยังพอมีเรื่องให้คาดหวังอยู่บ้าง
วานนี้รมต.พาณิชย์ เผยว่าตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ค.68 ยังขยายตัวได้ดีและยังเติบโตเป็นเลข 2 หลัก แม้จะเจอเรื่องภาษีTRUMP ที่ปรับขึ้นแล้วในอัตรา10% โดยมั่นใจว่าการส่งออกไทย จะยังเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต่อไป และภาพรวมการส่งออกทั้งปีนี้ จะไม่ติดลบอย่างแน่นอน ทั้งนี้ สำหรับความคืบหน้าการเจรจาปรับขึ้นภาษีตอบโต้รายประเทศของไทยกับสหรัฐนั้น อยู่ในขั้นตอนเจรจาและตามหลักการเจรจาระหว่างประเทศไม่อาจจะเปิดเผยข้อมูลได้ แต่ภายในสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้าอีกระดับแน่นอน ผ่านการประชุมออนไลน์ ซึ่งมองว่า50/50 ที่ไทยจะได้ข้อสรุปก่อนครบ 90 วันที่สหรัฐเลื่อนบังคับใช้(สิ้นสุดวันที่ 8 ก.ค.68)


ส่วนอีกประเด็น คือ รมต.คลังเผยประชุมคณะอนุกรรมการฯ ได้ข้อสรุปโครงการแล้ว จ่อชงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ1.57 แสนล้านบาทชงบอร์ดใหญ่ 18 มิ.ย.68 และคาดครม. ไฟเขียวภายใน 24 มิ.ย.68 หวังเร่งเบิกจ่ายให้ทันสิ้นปีงบประมาณเพื่อให้โครงการสามารถเริ่มต้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว ส่วนรายละเอียดว่าใช้งบประมาณเป็นจำนวนเท่าใด หรือกับโครงการใดบ้างนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ โดยขอให้เรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการชุดใหญ่เสียก่อน จึงจะสามารถแถลงรายละเอียดอย่างเป็นทางการได้อีกครั้ง ซึ่งฝ่ายวิจัยฯคาดว่านโยบายที่จะออกมาคงเน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐาน และการบริโภคเป็นหลัก ซึ่งหุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์มีดังนี้
• หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม AOT CENTEL ERW MINT
• หุ้นกลุ่ม ธพ. BBL TTB KBANK
• หุ้นกลุ่มค้าปลีก-ศูนย์การค้า CPALL BJC CRC CPN
• หุ้นกลุ่มขนส่ง BTS BEM
• หุ้นอิงภาคการส่งออก TU TVO KCE HANA DELTA SAT SCGP

ตลาดประกาศหุ้นเข้าออกดัชนี SET50/100 รอบ 2H68 ชอบ BCP, TCAP, KKP
SET ประกาศหุ้นเข้าออก SET50 และ SET100 รอบ 2H68 ซึ่งตรงตามที่ฝ่ายวิจัย ASPS คาดการณ์ไว้ ณ 2 พ.ค.68 โดยมีหุ้นเข้าออก SET50 4 คู่ และหุ้นเข้าออก SET100 8 คู่ (ตามตารางทางด้านล่าง) โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1ก.ค. 68 เป็นต้นไป แนะนำเก็งกำไรหุ้นเข้า SET50 อย่าง BCP ได้ SENTIMENT ตะวันออกกลาง และ TCAP กับ KKPเป็นหุ้นมี DII. YIELD > 7%


SET บอบช้ำ วิงวอนทุกฝ่ายช่วยเหลือ
SET INDEX บอบช้ำจากปัจจัยรอบด้านและลงแรงต่อเนื่อง โดยตลอด 3 ปี แต่ละปีมีหุ้นบวกไม่ถึง 200 ตัว เริ่มจาก ปี2023 มีหุ้นให้ผลตอบแทนเป็นบวกเพียง 106 ตัว (สัดส่วน15%), ปี 2024 บวกเพียง 187 ตัว (สัดส่วน26%) และปีนี้2025YTD หนักสุด บวกเพียง 86 บริษัท (สัดส่วน12% เท่านั้น)


และภาพตลาดหุ้นยังมืดมน ไม่เห็นทิศทางในการฟื้นตัวช่วงสั้นๆ เนื่องจากมูลค่าซื้อขายเบาบางมาก โดยเดือน ม.ย.68 (MTD) นี้มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยเหลือเพียงเพียง 3.4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตามในมุม VALUATION ปัจจุบันมีหุ้นที่มี P/E ต่ำกว่า 10เท่า เกือบ 200 บริษัท และเป็นหุ้นที่ P/E ต่ำกว่า 5เท่า ถึง 31 บริษัท และมีค่ากลาง P/E ลดลงมาเรื่อยๆ จากปลายปี 2023 ที่ 16.8เท่า, ปลายปี 2024 ที่ 14.2เท่า และปัจจุบัน ค่ากลาง P/E เหลือแค่ 11.1เท่า เท่านั้น

 

***ตลาดหุ้นไทยลงมาแรงลงมาลึกเกินไป ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ วิงวอนอยากให้ทุกๆ ฝ่าย เข้ามาช่วยเหลือตลาดฯ อย่างเร่งด่วนในตอนนี้, อยากให้สื่อ OFFLINE และ ONLINE ต่างๆ เน้นนำเสนอข่าวเรื่องดีๆ มากขึ้น ลดการขยี้ข่าวร้ายๆย้ำๆ ที่ซ้ำเติมตลาดหุ้น, อยากเห็นทางการออกมาตการช่วยเหลือใหม่ๆ เร่งเรียกความเชื่อมันกลับมา ช่วยออกกฎเกณฑ์ที่จะช่วยลด DOWNSIDE ที่จะเกิดขึ้นกับราคาหุ้นมากขึ้น***

 


Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ความเสี่ยงคลุมหุ้นไทย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เป็นปัจจัยความเสี่ยง ทั้งในและนอกประเทศ ปกคลุมตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นไทย จังหวะเด้ง .....

กังวล By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม นักลงทุน ยังคงมีความกังวลใจต่อ สถานการณ์ตะวันออกลาง จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เพิ่มเติมใหม่หรือไม่ ....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้