สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(12 มิถุนายน 2568)---------บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ (SET: S) ผู้พัฒนาและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติ ครอบคลุม 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน และนิคมอุตสาหกรรม เผย 3 หลักการพัฒนาโครงการที่พักอาศัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Craft to Last’ การออกแบบที่พิถีพิถันและใส่ใจเพื่อรองรับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งประกอบไปด้วยความหลากหลายของช่วงวัย เช่น วัยเด็ก, วัยรุ่น, วัยทำงาน, ผู้สูงอายุ เติมเต็มช่องว่างระหว่างวัยและเพิ่มพูนความรักในครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ กล่าวว่า “จากข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่ากลุ่มตัวอย่างอายุ 15 – 65 ปี
สูงถึง 70.8% ต้องการอยู่อาศัยในบ้านที่ประกอบด้วยสมาชิกหลายวัย ซึ่งเรามองเห็นแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้นของครอบครัว ในลักษณะนี้ สิงห์ เอสเตทจึงตั้งใจพัฒนาโครงการด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Craft to Last’ การออกแบบที่พิถีพิถันและใส่ใจให้บ้านทุกหลังส่งต่อการอยู่อาศัยแบบ ‘Multi-generation Family Living’ ที่จะเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาบ้านในอนาคต เพราะเราเชื่อว่า บ้านที่ดีคือบ้านที่เติบโตไปพร้อมกับครอบครัว ยั่งยืนอยู่อาศัยได้ยาวจากรุ่นสู่รุ่น และเป็นพื้นที่เชื่อมให้คนในแต่ละวัยเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทุกคนในบ้านได้มีความสุขและสุขภาพดีในระยะยาว”
สิงห์ เอสเตทได้นำคอนเซ็ปต์ ‘Craft to Last’ มาพัฒนาหลากหลายโครงการให้สอดรับกับการอยู่อาศัยแบบ ‘Multi-generation Family Living’ ไม่ว่าจะเป็นบ้านในโครงการ สริน ราชพฤกษ์-สาย 1, สริน พรานนก-กาญจนาภิเษก, ฌอน วงแหวน-จตุโชติ และ ฌอน ปัญญาอินทรา โดยแบ่งเป็น 3 แกนหลักสำคัญในการพัฒนาโครงการด้วยความประณีตและใส่ใจในทุกกระบวนการดำเนินงาน ได้แก่
1) Universal Design for All Generations - ออกแบบเพื่อคนทุกวัย
บ้านที่ออกแบบด้วยแนวคิด Universal Design เป็นการออกแบบพื้นที่ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดเล็ก ๆ คำนึงถึงการใช้ชีวิตร่วมกันของคนทุกวัยอย่างปลอดภัยและไร้ข้อจำกัด ทั้งยังจัดสรรให้มีทั้งพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมร่วมกัน และพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนด้วยแน่นอนว่า ความปลอดภัยในบ้านเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกตั้งแต่การออกแบบ โดยสิงห์ เอสเตทได้ออกแบบให้พื้นที่ทางเดินกว้างขวาง ช่วยให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างสะดวก, การออกแบบพื้นที่โดยไม่มีขั้นบันได ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ, ห้องน้ำที่ติดตั้งราวจับที่แข็งแรงและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยเหลือผู้สูงอายุ แต่ยังให้ความปลอดภัยแก่ทุกคนในบ้าน รวมถึงเด็กและผู้ใหญ่ที่อาจต้องการจุดยึดเมื่อลื่นหรือเกิดเหตุไม่คาดคิด
นอกจากนี้การออกแบบในแต่ละรายละเอียดล้วนต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตในบ้านหลังเดิมได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัยเมื่อมีอายุมากขึ้น
2) Good Environment, Green Spaces - สภาพแวดล้อมดี มีพื้นที่สีเขียว
เพราะสุขภาพกายและใจคือรากฐานสำคัญของชีวิต บ้านที่ดีจึงควรตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียวที่เพียงพอสำหรับการออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ เดินเล่นเบา ๆ หรือนั่งพักผ่อนด้วยกันในสวน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อย่างสระว่ายน้ำสำหรับออกกำลังกายแบบไม่กระทบข้อ คลับเฮาส์ที่เปิดพื้นที่สำหรับกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว และพื้นที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ทำให้ผู้อยู่อาศัยทุกวัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพ
3) Prime Location Near Facilities - ทำเลศักยภาพ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ ทำเลที่ตั้งของบ้านซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน และโรงพยาบาลชั้นนำ รวมไปถึงการเดินทางที่สะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า และจุดขึ้น-ลงทางด่วน ตอบโจทย์ครอบคลุมทั้งการใช้ชีวิตและความสะดวกสบายของทุกวัยในครอบครัวบ้านสำหรับการอยู่อาศัยแบบ ‘Multi-generation Family Living’ ไม่ใช่เพียงสถานที่อยู่อาศัย แต่จะต้องออกแบบให้เหมาะสม สิงห์ เอสเตทจึงไม่ได้พัฒนาบ้านเพียงแค่เรื่องรูปแบบหรือขนาดพื้นที่ แต่เป็นการสร้างพื้นที่แห่งชีวิตที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความอบอุ่นใจในทุก ๆ วัน