AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ฟื้นในกรอบจำกัด
เลือกหุ้นมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว CK และ TCAP
Market Strategy
SET Index คาดยังฟื้นตัวช่วง 1130-1150 จุด แรงหนุนจากสหรัฐฯ-จีนที่ยังเดินหน้าเจรจาต่อในวันนี้ ขณะที่ในประเทศน่าจะเห็นความคืบหน้าการเร่งผลักดันโครงการกระตุ้นระยะสั้นวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท แต่ข้อจำกัดในการปรับขึ้นมาจากมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง จากประเด็นการเมือง หุ้นเด่นเลือก CK (หนุนจากมาตรการกระตุ้นรัฐฯ) และ TCAP (คาดจะได้เข้าคำนวณใน SET50 รอบ 2H68)
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โทนล่าสุดยังดูเป็นบวกบวกอ่อนๆ จากสหรัฐฯจะมีการผ่อนปรนต่อข้อจำกัดการส่งออกสินค้าเทคโนโลยี (ซอฟต์แวร์ออกแบบชิป ชิ้นส่วนเครื่องยนต์เจ็ตและสารเคมี เป็นต้น) เพื่อแลกกับจีนผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก สำหรับความคืบหน้าเพิ่มเติมติดตามการประชุมในวันนี้ ประเมินการที่ 2 ฝ่ายยังเปิดช่องเจรจาระหว่างกันยังเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Global/China Play ชอบ SPRC PTTEP และ CCET
วันนี้ติดตามคณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณาโครงการกระตุ้นภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท จากหน่วยงานต่างๆ หากมีความคืบหน้าเตรียมเสนอ ครม. ต่อไป ซึ่งจุดสนใจอยู่ที่กระทรวงคมนาคมเสนอวงเงินสูงในช่วง 6-8 หมื่นล้านบาท สำหรับซ่อม สร้างถนน ระบบรางและน้ำ ซึ่งยังคงต้องติดตามโครงการต่างๆ ผ่านมากน้อยเพียงใด แต่ระยะสั้นมองเป็นบวกต่อ STECON CK TASCO
Market Summary
SET Index ปิดทรงตัว -1 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง หุ้นที่บวกเด่น คือ DELTA รีบาวน์ +3.9% ตามหุ้นเทคสหรัฐฯ M +6.3% จากกระแสออกโปรบุฟเฟ่ต์ใหม่ การฟื้นตัวของกลุ่มโรงกลั่นหลังวันศุกร์ลงลึกเกินไป TOP +1.8% BCP +4.3% BSRC +2% ตรงข้ามกลุ่ม China Play PTTGC SCC SCGP ติดลบช่วง -1 ถึง -2.5% จากส่งออกและเงินเฟ้อจีน พ.ค. แย่กว่าตลาดคาด
DAILY Stock Pick
CK
Laggard play งบประมาณการลงทุน
เพิ่มเติม หนุน Backlog
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 16.50 บาท
CK ปรับตัวลดลง 4%MTD เทียบกับ STECON ที่ปรับตัวขึ้น 6.7%MTD ในขณะที่ CK มี Backlog ณ สิ้น 1Q68 ที่ 2 แสนล้านบาท เทียบกับ STECON ที่มีเพียงแค่ 9.8 หมื่นล้านบาท โดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท สำหรับ กระทรวงคมนาคมของบเข้ามา 80,000 ล้านบาท มีทั้งการซ่อม สร้างถนน ระบบราง และน้ำ เป็นปัจจัยหนุน Backlog ในอนาคต
WEEKLY Stock Pick
TCAP
ลุ้นเข้า SET50 รอบ 2H68
พร้อม valuation น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 56.00 บาท
เราคาดว่า TCAP จะถูกนำไปคำนวณในดัชนี SET50 ในรอบ 2H68 จากสถิติย้อนหลัง 5 ปี ก่อนเข้าคำนวณดัชนี 1 เดือน หุ้นที่ถูกคำนวณเข้าดัชนี SET50 Index ให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ยถึง 4.7%
ณ ราคาปัจจุบัน TCAP ถูกซื้อขายปี 68 ที่ PBV 0.65 เท่า ถูกกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ 0.8 เท่า ขณะที่ ROE อยู่ที่ 9.3% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อยที่ 9.9% ในขณะที่ เงินปันผลสูงถึงระดับ 7.2% ช่วยจำกัด Downside
KEY FACTOR
การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีน สะท้อนผลกระทบของสงครามการค้าที่เริ่มมีต่อเศรษฐกิจจริง 1) ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศของจีนล่าสุด สะท้อนแรงกดดันจากสงครามการค้า โดยการส่งออกจากจีนไปสหรัฐฯ ลดลงกว่า 30% YoY หดตัวรุนแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2563 ขณะที่การส่งออกไปประเทศอื่นกลับโตสวนทาง +11% สะท้อนการเลี่ยงภาษีและใช้การส่งออกผ่านประเทศที่ 3 เข้าสหรัฐฯ 2) ดัชนีเงินเฟ้อ (CPI) ของจีน -0.1%YoY แม้ว่าจะหดตัวแต่ดีกว่าที่ Consensus คาดไว้ -0.2%YoY
ในขณะที่การเจรจาทางการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ-จีน จะมีการคุยกันต่อในวันนี้เป็นวันที่สอง ซึ่งสหรัฐฯ กดดันให้จีนผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออก แร่หายาก (Rare Earths) ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ (EV, ชิป, อาวุธ) ซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ตกลงไว้ ในทางกลับกันจีนเองก็เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการควบคุมการส่งออก เทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะ เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งกระทบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม AI และ 5G ของจีนโดยตรง
EYES ON
11 มิ.ย. CPI สหรัฐฯ
12 มิ.ย. PPI สหรัฐฯ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ