Market Wrap-Up
- SET วันที่ 9 มิ.ย.68 ปิด -1.19 จุด อยู่ที่ 1,135.24 จุด มูลค่าการซื้อขาย 24,062 ลบ. สถาบันขาย 555 ลบ.ต่างชาติขาย 203 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 285 ลบ. และรายย่อยซื้อ 473 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 268 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,GULF,AOT,MOSHI,BH และยอดขายหุ้น BDMS,PTT,SAWAD,KBANK,CPALL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,096 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HKCE01,LH,XIAOMI01 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 545 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 48,218 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,132 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.003%, S&P500 +0.09%, Nasdaq +0.31% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +1.08%, วัสดุ +0.62% ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภค -0.66%, การเงิน -0.55% โดยนักลงทุนยังรอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – จีน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.07% จากแรงขายกลุ่มสาธารณูปโภค หลัง Euro Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.57% และรอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – จีน
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดทรงตัว ระหว่างรอผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ – จีนที่กรุงลอนดอน ซึ่งประเด็นหลัก คือ ลดข้อจำกัดในการส่งออกแร่หายากของจีน และการส่งออกชิปของสหรัฐ ขณะที่ S&P500 ได้แรงหนุนจาก Amazon +1.6% หลังเตรียมลงทุน Data Center ในรัฐเพนซิลวาเนียมูลค่า 2.0 หมื่น ล.ดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้าน Ai ขณะที่ Apple -1.2% หลังการประชุม WWDC ยังไม่มีความคืบหน้าในการพัฒนาระบบ Ai ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้วันพุธติดตาม US CPI พ.ค. คาด 2.5% & เม.ย. 2.3% YoY ,วันศุกร์ ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น มิ.ย. คาด 52.0 & พ.ค. 52.2
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดทรงตัว ระหว่างรอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – จีน ขณะที่จีนได้เร่งตรวจสอบการส่งออกแร่หายากมายังตลาดยุโรป ซึ่งอาจผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์ในสหภาพยุโรป ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม Sentix ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน มิ.ย. คาดที่ระดับ -6.0 & พ.ค. -8.1 และตัวเลขว่างงานอังกฤษ เม.ย. คาด 4.6% & มี.ค. 4.5%
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปรับขึ้น นำโดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.43%, ฮั่งเส็ง +1.63% ระหว่างรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – จีนที่กรุงลอนดอน ขณะที่ข้อมูล CPI จีน พ.ค. -0.1% และ PPI จีน พ.ค. -3.3% YoY บ่งชี้รัฐบาลจีนยังจำเป็นต้องออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนดัชนีนิเกอิวานนี้ +0.92% จากคาดการณ์สหรัฐ – ญี่ปุ่นจะสามารถทำข้อตกลงการค้าบางส่วนได้ในช่วงกลาง มิ.ย. และรอผลการประชุม BOJ ในวันที่ 17 มิ.ย.
- SET วานนี้ -0.10% ปริมาณการซื้อขาย 4 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 555 ลบ. ต่างชาติขาย 203 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 285 ลบ. และรายย่อยซื้อ 473 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มปิโตรเคมี -1.95%, วัสดุก่อสร้าง -1.33% หลังจีนรายงานดัชนี CPI พ.ค. -0.1% YoY และตัวเลขส่งออกจีน พ.ค. +4.8% ต่ำกว่าคาดที่ +5.0% YoY สาเหตุมาจากตัวเลขส่งออกจีนไปยังตลาดสหรัฐ พ.ค. -34.5% YoY จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลลบมายังหุ้นกลุ่ม Global Play ที่พึ่งพาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน โดยภาพรวมปริมาณการซื้อขายของตลาดยังชะลอตัว ระหว่างรอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – จีน และการเริ่มเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ – ไทย ส่วนประเด็นเศรษฐกิจวันนี้ติดตามผลการประชุม ครม. ซึ่ง ก.คมนาคมจะเสนอของบกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 5.6 หมื่น ลบ. เพื่อลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมา, วัสดุก่อสร้าง ส่วนประเด็นการเมืองยังรอความคืบการปรับ ครม. และวันศุกร์นี้ ศาลฎีกาจะนัดไต่สวนกรณีคุณทักษิณพักรักษาใน รพ.ตำรวจ ถือว่าได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาแล้วหรือไม่
Daily Strategy
- ประเมิน SET มีโอกาสทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,120 – 1,130 แนวต้าน 1,140 – 1,150 ระหว่างรอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – จีน และการเริ่มเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทย ขณะที่วันศุกร์นี้ยังต้องติดตามการไต่สวนของศาลฎีกาในกรณีคุณทักษิณ แนะนำซื้อเก็งกำไร CK,STECON,TASCO หลัง ก.คมนาคมเตรียมขออนุมัติงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 5.6 หมื่น ลบ.
- III (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 00 บาท) แนวโน้ม 2Q68 คาดกำไรปกติมีโอกาสฟื้นตัว QoQ, YoY ตามปริมาณขนส่งสินค้าที่กลับสู่ระดับปกติหลังผ่านตรุษจีน ประกอบกับค่าระวางการขนส่งที่ทยอยฟื้นตัวรับผลบวกจากการชะลอการบังคับใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ออกไป 90 วัน อาจทำให้มีการเร่งส่งออกมากขึ้น ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจาก ANI และ AOTGA ยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน โดยธุรกิจบริการภาคพื้นของ AOTGA ได้เปิดให้บริการคลังสินค้าแบบ Multimodal Warehouse ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมถึงมีโอกาสเติบโตได้อีกจากการประมูลผู้ให้บริการภาคพื้นดินของสนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 ที่จะประกาศผลใน 3Q68 โดยเราคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 68-69 ที่ 487 ล้านบาท +10%YoY และ 563 ล้านบาท +16%YoY
TMAN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 22.00 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 122 ลบ.(-13%YoY, +12%QoQ) การอ่อนตัว YoY มาจาก Produxt Mix ที่เปลี่ยนไป(สัดส่วนยาสูงขึ้น) และแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงที่เหลือของปี การเติบโตของรายได้จะสามารถชดเชยปัจจัยลบดังกล่าวในไตรมาส1 ได้ โดย ทาง TMAN* เอง ตั้งเป้าหมายในระยะ 5 ปีข้างหน้า(68-72) รายได้เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10-15% ต่อปี และตั้งเป้าเป็น Top 5 ในตลาด OTC (Over-The-Counter) และ Top 10 ในตลาดร.พ. ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าปี67 และ68 กำไรสุทธิของ TMAN* จะอยู่ที่ 491 ลบ. (+9%YoY) และ 544 ลบ.(+11%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ก.ค.+$0.71 อยู่ที่ $65.29 / บาร์เรล, Brent ส.ค. +$0.57 อยู่ที่ $67.04/บาร์เรล สัญญาน้ำมันได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.25% อยู่ที่ 98.939 และยังคาดหวังเชิงบวกต่อผลการเจราจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – จีน
Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$8.30 อยู่ที่ $3,354.90 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index ที่อ่อนค่าลง และยังรอข้อมูล US CPI พ.ค. ก่อนการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าวันที่ 18 มิ.ย.
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -9.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยขายหุ้นไทย -6.21 ล. และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -3.66 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 32.63 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.479 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +58 จุด อยู่ที่ 1,691
(+) BitCoin เช้านี้ +4.04% อยู่ที่ 109,802 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
09 มิ.ย. ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์
สศช. รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 1/68
สัปดาห์ที2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ
อัพเดตสถานการณ์ลงทุน
ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น
หอการค้าไทย
ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน
ยานยนต์
ต่างประเทศ
09 มิ.ย. CN ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ( พ.ค.)
CN ดุลการค้า
11 มิ.ย. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( พ.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
12 มิ.ย. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ( พ.ค.)
13 มิ.ย. EU ดุลการค้า
Theme Strategy
Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง, และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้
(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*
(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG
(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT
(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC
(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*
(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2025: PLANB*, TASCO*, TFG*, STECON, IVL*
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Meena Tunlayanitigun
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662
Tel 02-829-6999
Email : meena.tu@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th