สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(9 มิถุนายน 2568)--------แม้สหรัฐฯ และจีนจะสามารถเจรจาตกลงลดภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ลงมาอยู่ที่ 10% จากเดิมที่ 125% ในเดือนพ.ค.2568 แต่อัตราภาษีที่สหรัฐฯ เก็บจากสินค้านำเข้าจีนยังคงอยู่ในระดับสูง โดยหลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่งปัจจุบันเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30% ส่งผลให้การส่งออกจากจีนไปสหรัฐฯ เดือนพ.ค.2568 ยังคงปรับลดลงที่ -34.5%YoY จาก -21.0%YoY ในเดือนเม.ย.68 ขณะที่การส่งออกไป ASEAN เติบโตชะลอลงอยู่ที่ 14.8%YoY จาก 20.8%YoY ในเดือนเม.ย.68 ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกจีนเดือนพ.ค 68 เติบโตชะลอลงอยู่ที่ 4.8%YoY ด้านการนำเข้าหดตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนสะท้อนว่าอุปสงค์ในประเทศยังมีทิศทางอ่อนแอ
o แม้ตลาด ASEAN จะเข้ามาช่วยรองรับการหดตัวของการส่งออกจากจีนไปสหรัฐฯ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าขั้นกลาง (รูปที่ 2) แต่ระยะต่อไปการส่งออกจากจีนไป ASEAN มีแนวโน้มเติบโตชะลอลง หลังเกิดการเร่งส่งออกไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรก อีกทั้งอัตราภาษีหลังวันที่ 9 ก.ค. 68 ที่จะสิ้นสุดการเลื่อนการปรับขึ้นภาษีตอบโต้รายประเทศยังไม่แน่นอน
o ขณะที่ในช่วง 1 – 2 เดือนข้างหน้าการส่งออกจีนไปสหรัฐฯ คาดเห็นการเร่งตัวขึ้นชั่วคราวจากสินค้าคงค้างที่การส่งออกชะงักชะงันจากการปรับขึ้นภาษีตอบโต้ที่สูงกว่า 100% ในช่วงก่อนหน้า แต่อัตราเร่งคาดมีจำกัด เนื่องจากอัตราภาษีปัจจุบันยังอยู่ในระดับสูง โดยเมื่อพิจารณาตัวเลขในฝั่งการผลิตอย่าง PMI ภาคการผลิตในเดือนพ.ค.68 ยังอยู่ที่ 49.5 ต่ำกว่าระดับขยายตัว
o ทั้งนี้ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.68 ประธาธิบดีสหรัฐฯ และประธานาธิบดีจีนได้มีการคุยทางโทรศัพท์กันครั้งแรก ซึ่งคาดว่าจะมีการนัดเจรจากันเพิ่มเติมในระยะต่อไป นอกจากนี้ รอติดตามการพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ หลังวันที่ 29 พ.ค.68 ศาลการค้าระหว่างประเทศระงับการขึ้นภาษีแบบตอบโต้ของทรัมป์
o ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า แม้สงครามการค้าจะดูมีทิศทางบรรเทาลงกว่าในช่วงต้นปี แต่อัตราภาษีคาดยังอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนทรัมป์จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี อีกทั้งมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีจะเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสงครามเทคโนโลยียังคงมีอยู่ส่งผลให้การส่งออกจีนปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตชะลอลงจากปีก่อน