---ชี้แจงประเด็นน้ำมันรั่ว---
ไทยออยล์แจ้งเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วบริเวณทุ่นผูกเรือ SBM-2 คิดเป็นปริมาณ 8 คิว หรือ 8,000 ลิตร ซึ่งต่ำกว่ากรณีน้ำมันรั่วในปี 66 ที่รั่วประมาณ 60,000 ลิตร ปัจจุบันทางฝ่ายมองว่าราคาหุ้นปรับตัวลงมาสะท้อนปัจจัยลบนี้แล้วพอสมควร ประกอบกับน่าจะมีปัจจัยชดเชยกำไรได้จากทิศทางราคาน้ำมันและค่าการกลั่นเริ่มมีสัญญาณปรับขึ้น
ชี้แจงประเด็นน้ำมันรั่ว : ไทยออยล์แจ้งว่าวันที่ 5 มิ.ย. เวลา 23.54 น. เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วบริเวณทุ่นผูกเรือหมายเลข 2 (SBM-2) คิดเป็นปริมาณ 8 คิว หรือ 8,000 ลิตร ซึ่งต่ำกว่ากรณีน้ำมันรั่วในปี 66 ที่รั่วประมาณ 60,000 ลิตร โดยครั้งนี้เนื่องจากเหตุสุดวิสัยจากคลื่นสูงและลมกรรโชกแรงกะทันหัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไม่มีน้ำมันรั่วไหลเพิ่มเติม และทุ่นSBM-2 ไม่ได้รับความเสียหายในระหว่างนี้บริษัทจะเปลี่ยนไปใช้ SBM-1 ในส่วนของประกันบริษัทมีครอบคลุม ได้แก่ 1. All Risk วงเงิน 1,800 MUSD ครอบคลุมทั้งทรัพย์สินและรายได้ที่สูญเสีย(Property Damage Business Interruption 2. Third Party Liability หรือประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกวงเงิน 50 MUSD 3. Pollution Legal Liability หรือประกันภัยต่อสิ่งแวดล้อมวงเงิน 25 MUSD 4. Marine Cargo Policy หรือประกันภัยต่อการขนส่งทางทะเลโดยรวมเมื่อเทียบกับกรณีของปี 66 คาดจะสามารถเคลมประกันได้เป็นส่วนใหญ่
ปัจจัยลบเพิ่มขึ้นแต่ในสะท้อนราคาแล้ว : ปัจจุบันทางฝ่ายอยู่ระหว่างติดตามผลกระทบที่จะเกิดขึ้นสำหรับเหตุการณ์นี้ อย่างไรก็ตามยังคงราคาพื้นฐานที่ 30.00 บาท และคงคำแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากมองว่าราคาหุ้นปรับตัวลงมาสะท้อนปัจจัยลบนี้แล้วพอสมควร ประกอบกับน่าจะมีปัจจัยชดเชยกำไรได้จากทิศทางราคาน้ำมันและค่าการกลั่นเริ่มมีสัญญาณปรับขึ้นตามความกังวลด้านอุปทานในตลาดโลก รวมถึงประเด็นบวกจากการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับสีจิ้นผิงซึ่งอาจช่วยหนุนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และส่งผลเชิงบวกต่อการค้าโลกและอุปสงค์น้ำมันในระยะถัดไป
ณัฐนนท์ มนต์ขลัง, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #132708