Company Note
วีจีไอ
สรุปประชุมนักวิเคราะห์ (6/6/25)
VGI ตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีงบประมาณ 2025 ไว้ที่ 6,000-6,500 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนประมาณ 15-25% โดยรายได้จะแบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลัก: ธุรกิจสื่อโฆษณา 40%, ธุรกิจดิจิทัล 35%, และธุรกิจจัดจำหน่าย 25% บริษัทตั้งเป้า Gross Margin ที่ 35-38% และคงอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายที่ 38-40% ใกล้เคียงปีก่อน ขณะที่งบลงทุน (Capex) ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ตั้งเป้าธุรกิจค้าปลีก Super Turtle ปีนี้จะเปิดเพิ่ม 10 สาขา จากปีที่ผ่านมามี 27 สาขา งบลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท/สาขา (สามารถ break-even ได้ที่ 60 สาขา)
การปรับโครงสร้างและกลยุทธ์ บริษัทดำเนินการเพิ่มทุนกว่า 13,000 ล้านบาท และขายหุ้นทั้งหมดใน ROCTEC ได้อีก 2,200 ล้านบาท รวมทุนเพิ่มกว่า 15,500 ล้านบาท แม้แผนลงทุนใน Virtual Bank จะยังไม่ชัดเจน บริษัทจึงบริหารเงินสดผ่านกลยุทธ์กระจาย maturities เพื่อรองรับโอกาสใหม่ รวมถึงอาจลงทุนในโครงการ Entertainment Complex หากมีความชัดเจน ส่วนการร่วมมือกับ PLANB ในการบริหารงานขายสื่อโฆษณา จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเปิดแพ็กเกจโฆษณาใหม่ คาดว่าจะเห็นผลในระยะยาว
ธุรกิจ Fanslink มีการปรับลด SKU จาก 3,000 เหลือ 300 ทำให้ยอดขายลดลง แต่กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นในเชิงมูลค่า และใกล้กลับมามีกำไร หลังขาดทุนกว่า 200 ล้านบาทในปีก่อน ด้านธุรกิจ Rabbit Cash ซึ่งเป็น Digital Lending จะเติบโตจากพอร์ตสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท เป็น 2,000 ล้านบาทในปีนี้ ขณะที่ Rabbit Care โตระดับกลาง (ประมาณ 10%) ส่วนกลุ่มธุรกิจ Out of Home ที่ยังคงเป็น Cash Cow จะให้ Plan B ช่วยบริหาร
บริษัทคงแผนซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP ของ Plan B ที่ราคา 7 บาทต่อหุ้น แม้ราคาตลาดต่ำกว่ามาก โดยระบุว่าเป็นไปตามที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติและไม่มีแผนเจรจาราคาต่อรองเพิ่มเติมในตอนนี้ และหลังจากซื้อหุ้นเพิ่มทุน VGI จะถือหุ้น PLANB เป็น 21%
คาดผลประกอบการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
แนวโน้ม 1Q25/26F คาดอัตราการใช้สื่อโฆษณาดีขึ้นจาก backlog ที่เพิ่มขึ้น QoQ เราคาดผลประกอบการปี 2025/26F -2026/27F เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3% และ 7% ตามลำดับ จากคาดรายได้จากสื่อโฆษณามีอัตราการใช้สื่อที่ 53-55% จากปี 2024/25 อยู่ที่ 52% คาดรายได้ธุรกิจ digital service เพิ่มขึ้นปีละ 7% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา จากกลุ่ม Rabbit Group จาก R-cash, R-care และรายได้จากธุรกิจขายสินค้าคาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยปีละ 5% สะท้อนสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว Fanslink เน้นขายสินค้าแบรนด์ตนเองเพิ่มขึ้น และการขยายสาขา Super turtle เราคาดบริษัทมีรายได้จากดอกเบี้ยหลังจากการเพิ่มทุน คาดเบื้องต้นที่ 300 ล้านบาท/ปี คาดอัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้นตามอัตราการใช้สื่อโฆษณาเพิ่มขึ้น และการเน้นขายสินค้าแบรนด์ตนเองเพิ่มขึ้นซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นดีกว่า คาด SG&A ลดลงจากการลดค่าใช้จ่ายการตลาดและการบริหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ยังคงคำแนะนำเป็น “ขาย” ราคาเป้าหมาย 2.2 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” ยังมีความไม่ชัดเจนจากการเพิ่มทุนเพื่อลงทุนธุรกิจโครงการใหญ่ Entertainment Complex ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดคุ้มทุน มูลค่าปัจจัยพื้นฐานของเราอยู่ที่ 2.2 บาทอ้างอิงวิธี sum-of- the part (SOTP) ซึ่งเราได้รวมผลกระทบจาก dilution effect จากการเพิ่มทุน PP และการใช้สิทธิ warrant ที่จะหมดอายุ 3 ก.ย.25 และมีราคาใช้สิทธิที่ 1.5 บาท ทำให้มีโอกาสจะเกิดการใช้สิทธิสูง