Equality for All
BTS : บมจ.บีทีเอส กรุ๊ปฯ

ผลการดำเนินงานงวดปี 2024/25 (สิ้นสุด มี.ค. 25) : BTS รายงานกำไรสุทธิ 2.1 พัน ลบ. พลิกฟื้นมาจากขาดทุน -5.2 พัน ลบ. โดย 3 ธุรกิจมีพัฒนาการเชิงบวก ส่วนฐานะทางการเงินเริ่มผ่อนคลาย ทั้งจากการเพิ่มทุน และได้รับการชำระหนี้ ทำให้ Net D/E ลดจาก 2.5x เหลือ 1.3x ส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูง 4 หมื่น ลบ. เงินสดและเทียบเท่า 4.5 หมื่น ลบ. สรุปดังนี้

MOVE (รถไฟฟ้า 51% ของรายได้การดำเนินงาน) รายได้ลด -19.1% เนื่องจากรายได้ก่อสร้างรถไฟฟ้าสีชมพู-เหลือง เสร็จไปแล้ว ทว่าเริ่มมีรายได้ค่าตั๋วชมพู-เหลือง 620 ลบ.และรับจ้างเดินรถไฟแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ที่มาผลัดดันให้รายได้รับจ้างเดินรถ O&M ขยาย +4.0% y-y ทะลุ 7.3 พัน ลบ. ขณะที่ กทม. เริ่มทยอยชำระหนี้ค่าก่อสร้าง E&M และเดินรถ O&M รวม 3.7 หมื่น ลบ. (เหลืออีก 3.1 หมื่น ลบ.) ทำให้ BTS สามารถนำเงินไปเร่งชำระหนี้ได้ ฐานะการเงินจึงดูดีขึ้นมาก ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย(เมืองทอง) จะเริ่มสร้างรายได้ 17 มิ.ย. นี้

MIX (VGI 26%) รายได้ทรงตัว -0.6% y-y โดยรายได้สื่อโฆษณาเป็นตัวประคองตามการฟื้นตัวของผู้โดยสารบน BTS โดยปีนี้หลักๆเป็นเรื่องการปรับโครงสร้างด้วยการตัด KEX ออกจากงบ, เพิ่มสัดส่วนใน PLANB เป็น 19.5% พร้อมกับการเพิ่มทุน PP เพื่อเตรียมลงทุนใหญ่ ปัจจุบัน VGI มีเงินสดในมือถึง 2.1 หมื่น ลบ. (ราว 1.05 บาท/ หุ้น)

MATCH (ROCTEC และ RABBIT 23%) หลังปรับโครงสร้างกับ VGI ทำให้ ROCTEC กลายเป็นบริษัทย่อยของ BTS ขณะที่เนื้อธุรกิจทั้ง 2 (ประกัน, โรงแรม อสังหาฯ) ฟื้นตัวดี การลงทุนใน SINGER ขาดทุนลดลงแล้ว ล่าสุด ROCTEC และบริษัทร่วมดำเนินงานได้งานระบบสื่อสารของการรถไฟ 18 เดือน ขนาด 1.5 พัน ลบ.

เริ่มกลับมาน่าสนใจ
“ เรามีมุมมอง บวก ต่อการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ เนื่องจากพบว่า BTS เริ่มแก้ปัญหาการตึงตัวทางการเงินได้แล้ว ตัวเนื้อธุรกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง และอาจได้ปลดล๊อคผ่านจุดคุ้มทุนที่เร็วขึ้นของรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง ขณะที่ VGI หลังปรับโครงสร้างแล้วเริ่มมีภาพธุรกิจที่ชัดขึ้น รอเพียงการลงทุนใหม่เท่านั้น ขณะที่มีเงินสดในมือสูงมาก ส่วน ROCTEC RABBIT มีโฟกัสที่ชัดเจนมากขึ้น
แม้ว่าค่าเฉลี่ย Bloomberg consensus กว่า 83.3% จะเป็นคำแนะนำ ถือ ทว่าพัฒนาการเชิงบวกนี้ เรามองว่าตลาดจะเริ่มกลับมาพิจารณาลงทุนมากขึ้นได้แล้ว ”

เป้าหมาย :
MOVE เป้าผู้โดยสารรถไฟฟ้า 215-220 ล้านเที่ยว เพิ่ม +4.9% y-y ที่สายสีเขียว รายได้ O&M ขยายตัวต่อรับรู้เต็มปี เช่นเดียวกับ รับรู้ค่าตั๋วโดยสาร ชมพู-เหลืองที่ขยายตัวต่อเนื่องตามพฤติกรรมผู้บริโภค ขณะที่ รฟม.จะทยอยส่งเงินสนับสนุน (Subsidy) มาที่สายสีชมพู-เหลืองที่ 4.7 พัน ลบ./ ปี และคาดหวังว่าจะได้รับการชำระหนี้ต่อเนื่องจาก กทม.
MIX เป้ารายได้โต +20% y-y จากอัตราใช้ป้ายโฆษณาที่สูงขึ้นหลังร่วมมือกับ PLANB บริหารป้ายทั้งหมด ตั้งแต่เดือน พ.ค. ผบห.เชื่อว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่ม +400bps
MATCH เป้ารายได้ RABBIT 7 พัน ลบ. ROCTEC 3.4 พัน ลบ. รวมโต +140% y-y จากรับรู้รายได้เต็มปี

โครงการ 20 บาท ตลอดสาย : ล่าสุดรัฐบาลจะเริ่มให้ประชาชนทั้งระบบของ BTS และ BEM ทยอยลงทะเบียนในเดือน ส.ค. เพื่อทำให้ระบบบัตรโดยสารใช้งานโครงการนี้ได้พร้อมกัน ซึ่งรูปแบบล่าสุดมีแนวโน้มจะออกเป็นแบบ Subsidy โดย รฟม.จะกันงบประมาณไว้ปีละราว 8 พัน ลบ. ซึ่ง ผบห. คาดจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้น 30-40% หลังพบว่าเคยเพิ่มถึง 50% เมื่อครั้งเปิดให้ขึ้นฟรีเพื่อแก้ปัญหา PM2.5 ซึ่งล่าสุดแนวทางนี้ได้ผ่านสภาฯวาระ 1 ไปแล้ว
อย่างไรก็ดีในส่วนสายสีเขียว ยังคงต้องรอ กทม.เจรจาปรับโครงสร้างเพื่อเข้าร่วมโครงการนี้ ส่วนสายสีชมพู-เหลือง ในสัญญาสัมปทานสามารถปรับเข้าระบบใหม่นี้ได้เลยไม่มีปัญหา
ขณะที่รูปแบบ Buy back สัมปทานนั้น มีความซับซ้อนในหลายด้าน โดยเฉพาะราคารับซื้อ ซึ่งเรามองว่ากองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อซื้อสัมปทานนี้อาจไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนักจากนักลงทุน

จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #14076
jaroonpan.w@liberator.co.th