Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

125

 

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 5 มิ.ย.68 ปิด +8.61 จุด อยู่ที่ 1,140.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,207 ลบ. สถาบันขาย 259 ลบ. ต่างชาติขาย 116 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 33 ลบ. และรายย่อยซื้อ 342 ลบ.  NVDR มียอดซื้อสุทธิ 299 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,CPF,AOT,GULF,KTB และยอดขายหุ้น BBL,KBANK,BDMS,CPALL,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,623 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ JAPAN10001,TLI,LH  โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 9,596 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 49,459 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 3,060 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.25%, S&P500 -0.53%, Nasdaq -0.83% จากแรงชายกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย -2.47% นำโดย Tesla -14.2% หลังอีลอน มัสต์ได้วิจารณ์ร่าง กม.ภาษีของ ปธน.ทรัมป์ที่ตัดการเครดิตภาษีรถยนต์ไฟฟ้าออก แม้ว่าวานนี้จะมีข่าวบวกการเจรจากันระหว่าง ปธน.ทรัมป์กับ ปธน.สี จิ้นผิง ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.16% ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร, เหมืองแร่ ขณะที่กลุ่มอสังหาฯ, สินค้าฟุ่มเฟือยปรับลดลง หลัง ECB มีมติลดดอกเบี้ยลง 0.25% ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 2.0%  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง จากแรงขายกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย นำโดย Tesla -14.2% หลังอีลอน มัสต์ได้วิจารณ์ร่าง กม.ภาษีของ ปธน.ทรัมป์ที่ได้ตัดสิทธิ์การเครดิตภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ปัจจัยบวกวานนี้ คือการเริ่มเจรจาทางโทรศัพท์ระหว่าง ปธน.ทรัมป์ กับ ปธน.สี จิ้นผิง ที่เตรียมจะเจรจาการค้าอย่างเป็นทางการ ซึ่งลดความกังวลต่อภาวะสงครามการค้า ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 8,000 อยู่ที่ 247,000 ราย สูงสุดในรอบ 8 เดือน และยอดขาดดุลการค้าสหรัฐ เม.ย.ลดลง 55.5% อยู่ที่ 6.16 หมื่น ล.ดอลลาร์ ส่วนค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค.คาด 130,000 & เม.ย. 177,000 ราย และอัตราว่างงานคาดทรงตัวที่ 4.2%
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับขึ้น หลัง ECB มีมติปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 2.0% เพื่อลดผลกระทบจาก ม.ภาษีของสหรัฐที่มีเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์, เหล็ก, อะลูมิเนียมจากยุโรป ขณะที่ ปธ. ECB ได้ส่งสัญญาณชะลอการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หลังเงินเฟ้อยูโรโซน พ.ค.ชะลอตัวอยู่ที่ 1.9% ตามเป้าหมายที่ 2% โดย ECB คาดการณ์ GDP ยูโรโซนปีนี้ที่ +0.9% และเงินเฟ้อปีนี้ที่ 2%
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ -0.51% จากแรงขายหุ้นกลุ่มส่งออกรถยนต์ หลังค่าเงินเยนแข็งค่าอยู่ที่ 143.28 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ กอปรกับยังรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – ญี่ปุ่นรอบที่ 5 ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้วานนี้ +0.23%, ฮั่งเส็ง +1.07% หลัง Caixin เผย PMI ภาคบริการจีน พ.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ระดับ 51.1 & เม.ย. 50.7 อยู่ในโซนขยายตัว ซึ่งสอดคล้องกับที่ NBS ของจีนรายงานก่อนหน้านี้ โดยนักลงทุนยังรอผลการหารือข้อตกลงการค้าระหว่าง ปธน.สหรัฐ – จีน ซึ่งวานนี้ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ของทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว
  • SET วานนี้ +0.76% ปริมาณการซื้อขาย 32 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 259 ลบ. ต่างชาติขาย 116 ลบ. พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อ 33 ลบ. และรายย่อยซื้อ 342 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +3.1% หลัง Delta ฟื้นตัว +3.4% หลังสถาบันได้มีการปรับพอร์ตการถือหุ้น Delta จากเกณฑ์ Cap Weight หุ้นรายตัวไม่เกิน 10% ใน SET50/100 รอบใหม่ที่ประกาศในช่วงกลางเดือนนี้ ส่งผลให้เม็ดเงินที่ไหลออกจาก Delta ได้เข้าซื้อลงทุนในหุ้น Big Cap. กลุ่มอื่น ๆ เช่น PTT, PTTEP, GULF, KBANK, ADVANC, CPF โดยภาพรวมดัชนี SET ยังทรงตัวรอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ –จีน, การประชุม ธ.กลางหลัก ๆ ในช่วงกลางเดือนนี้ และความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทย ส่วนวันนี้ช่วงบ่าย ก.พาณิชย์จะรายงานดัชนี CPI ไทย พ.ค. คาด -0.83% & เม.ย. -0.22% YoY ซึ่งมีผลต่อคณะกรรมการ กนง.ในการประชุมวันที่ 25 มิ.ย. ว่าจะปรับลดดอกเบี้ยหรือไม่   

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,130 – 1,150 จุด หลังข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ – จีนมีแนวโน้มลดลง โดยยังรอการเริ่มเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทย และการใช้งบ 1.57 แสน ลบ. เพื่อลดผลกระทบจาก ม.ภาษีของสหรัฐ แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่ม Global Play เช่น PTT,PTTEP,PTTGC,SCC,TOP,SPRC,PSL,RCL ได้ประโยชน์จากการเปิดเจรจาการค้าสหรัฐ – จีน /  CENTEL,ERW จาก ม.กระตุ้นท่องเที่ยวในช่วง Low Season / กลุ่มหุ้นมีโอกาสเข้า SET50 เช่น BCP,KKP,TCAP และ SET100 เช่น MBK,TFG,JTS
  • CENTEL* (ทยอยซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 36.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q68-3Q68 จะอ่อนตัว QoQ ลงตามปัจจัยฤดูกาลที่เข้าช่วง low season ท่องเที่ยวไทยและมัลดีฟส์ แต่คาดยังเห็นการเติบโต YoY จากธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่น และโรงแรมพัทยาและภูเก็ตกลับมาเปิดหลังรีโนเวต ภาพรวมปี 68 บริษัทวางเป้ารายได้ธุรกิจโรงแรม +17-20%YoY เป็น 3 หมื่นล้านบาท โดยมี RevPAR ที่ 4.3-4.6 พันบาท ส่วนธุรกิจอาหารรายได้ +4-6%YoY เป็น 1.35-1.4 หมื่นล้านบาท และเน้นการขยายผ่าน JV ที่มีอัตรากำไรดีอย่าง Shinkanzen ทั้งนี้คาดราคาลงมาตอบรับปัจจัยลบเรื่อง low season จำนวนนักท่องเที่ยวจีน และแผ่นดินไหวไปแล้ว ล่าสุดมีประเด็นหนุน sentiment กลุ่มท่องเที่ยวจาก entertainment complex อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ไว้ที่ 1.94 พันล้านบาท (+10%YoY) และ 2.23 พันล้านบาท (+15%YoY)

CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 8,549 ลบ.(+642%YoY, +105%QoQ,) ปัจจัยหนุนกำไรหลักๆมาจาก GPM สูงอยู่ที่ 18.50% +649bsp YoY, +282bsp QoQ ตามราคาขายสุกรในไทยและภูมิภาค(เวียดนาม ,ฟิลิปปินส์, กัมพูชา) ที่ปรับตัวสูงขึ้นตอบรับ Supply ที่หายไปจากโรคระบาดสุกรในช่วงปีก่อน ส่วนแนวโน้มระยะสั้น กำไรในช่วง 2Q68 เราคาดว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องหนุนด้วยราคาเนื้อสัตว์ในประเทศโดย เดือนเม.ย.68 ราคาสุกรไทยอยู่ที่ 87 บาท/กก.(+28%YoY, +6%MoM)/เดือนพ.ค.68 อยู่ที่ 88 บาท/กก.(+22%YoY, +1%MoM)  ขณะที่ในส่วนของต้นทุนเลี้ยง(เช่น ข้าวโพด, ถั่วเหลือง) ราคายังประคองตัวในโซนค่อนข้างต่ำต่อเนื่อง

 

 

 

 

 

 

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ก.ค.+$0.52 อยู่ที่ $63.37 / บาร์เรล, Brent ส.ค. +$0.48 อยู่ที่ $65.34/บาร์เรล หลัง ปธน.สหรัฐ – จีนได้พูดคุยทางโทรศัพท์ ซึ่งจะเริ่มการเจรจาการค้าผ่านผู้แทนการค้าอย่างเป็นทางการ รวมถึงนายก ฯ แคนาดาได้หารือกับ ปธน.ทรัมป์เพื่อขอให้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลากากร

 

Gold Update(-) Comex Gold ส.ค.-$24.10 อยู่ที่ $3,375.10 /ออนซ์ หลังมีความคืบหน้าการเริ่มเจรจาการค้าระหว่าง ปธน.ทรัมป์ กับ ปธน.สี จิ้นผิง

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -46.33ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -3.55 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด ฯ -44.32 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +1.55 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 32.63 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.389 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +137 จุด อยู่ที่ 1,626

(-) BitCoin เช้านี้ -2.77% อยู่ที่ 101,880 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย

 

ต่างประเทศ

02 มิ.ย.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( พ.ค.)

03 มิ.ย.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( พ.ค.) 

US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (เม.ย.)

US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ       

04 มิ.ย.     US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(พ.ค.)

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( พ.ค.)

05 มิ.ย.     EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (มิ.ย.)

                EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป 

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

06 มิ.ย.     US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)

            US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ( พ.ค.)

                US อัตราการว่างงาน ( พ.ค.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: PLANB*, TASCO*, TFG*, STECON, IVL*

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

"พาณิชย์"จับมือ 4 ปั๊มน้ำมัน ซื้อมะม่วงแฟนซีภาคเหนือ นำแจกเป็นของสมนาคุณผู้เติมน้ำมัน

"พาณิชย์"จับมือ 4 ปั๊มน้ำมัน ซื้อมะม่วงแฟนซีภาคเหนือ นำแจกเป็นของสมนาคุณผู้เติมน้ำมัน

PCE ลุย! ส่งออกกะลาปาล์มคุณภาพสูง

PCE ลุย! ส่งออกกะลาปาล์มคุณภาพสูง

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้