PTT Global Chemical (PTTGC TB)
ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง
ปรับลดคำแนะนำเป็น “ขาย” ราคาเป้าหมาย 16 บาท
เราปรับลดคำแนะนำหุ้น PTTGC เป็น “ขาย” แต่ยังคงราคาเป้าหมายที่ 16 บาท เราเชื่อว่าตลาดมีความคาดหวังมากเกินไปจากแนวโน้มความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีขึ้นระหว่างสหรัฐฯ-จีน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยพื้นฐาน โดยภาวะขาลงของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีคาดว่าจะยาวนานอย่างน้อยถึงปี 2571 หรืออาจนานกว่านั้น เราไม่มองว่า PTTGC มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการซื้อขายที่ระดับ ราคา/มูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี (P/Tangible BV) ที่ 0.68 เท่า ซึ่งถือว่าแพงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีปลายน้ำของไทย เราแนะนำให้เน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น SPRC (SPRC TB, คำแนะนำ “ซื้อ”, ราคาเป้าหมาย 9.10 บาท) ซึ่งเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้
แนวโน้มขาลงของปิโตรเคมียังยืดเยื้อ
เราคาดว่าวัฏจักรขาลงของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีจะยังคงยาวนาน เนื่องจากมีการเพิ่มกำลังการผลิตจำนวนมาก แต่มีการปิดกำลังการผลิตน้อยมาก โดยในช่วงปี 68-70 เราคาดว่าอัตราส่วนของกำลังการผลิตใหม่ต่อการปิดโรงงานในสายผลิตภัณฑ์เอทิลีนอยู่ที่อย่างน้อย 3:1 ส่วนสายโพรพิลีนอยู่ที่อย่างน้อย 5:1 ทั้งนี้ เรามองเห็น 3 ปัจจัยที่ทำให้การปิดโรงงานมีจำกัด แม้ว่าสภาพแวดล้อมของอัตรากำไรจะแย่มากก็ตาม ได้แก่ 1) หลายประเทศใช้มาตรการกีดกันทางการค้า เช่น การตั้งกำแพงภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดเพื่อรักษาการดำเนินงานของโรงงานที่อาจไม่มีความสามารถในการแข่งขัน 2) ผู้ประกอบการมีการปรับเปลี่ยนโรงงานให้สามารถใช้วัตถุดิบที่มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น เช่น อีเทน (ethane) ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ และ 3) ผู้ประกอบการยังสามารถขายสินทรัพย์ที่ไม่ต้องการให้กับผู้ซื้อรายใหม่ได้ ในด้านอุปสงค์ แนวโน้มประชากรที่เปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอนทางการค้า และกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ผลักดันให้ใช้พลาสติกรีไซเคิล อาจทำให้อัตราการเติบโตของความต้องการพลาสติกใหม่ชะลอตัวลง
แนวโน้มธุรกิจโรงกลั่นมีทิศทางดีขึ้น
ต่างจากธุรกิจปิโตรเคมี เรายังคงเห็นการประกาศปิดกำลังการผลิตของโรงกลั่น โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว (สหรัฐฯ และยุโรป) ซึ่งการปิดโรงกลั่นเหล่านี้อาจทำให้กำลังการกลั่นสุทธิที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในปี 68 อยู่ที่เพียง 2.66 แสนบาร์เรลต่อวัน ต่ำกว่าการเติบโตของความต้องการที่คาดไว้ที่ 7.5 แสนบาร์เรลต่อวัน ในระยะยาว มีกำลังการกลั่นทั่วโลกถึง 21% ที่อาจมีความเสี่ยงต่อการปิดดำเนินการภายในปี 78
ไม่ถือว่าถูกนัก หากวัดจาก P/Tangible BV
แม้ PTTGC จะซื้อขายที่ระดับ P/BV เพียง 0.35 เท่า แต่เมื่อปรับด้วยการหักค่าความนิยม (Goodwill) และสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่น ๆ แล้ว เราคาดว่าหุ้นมีการซื้อขายที่ระดับ P/Tangible BV ที่ 0.68 เท่า ซึ่งถือว่าแพงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีปลายน้ำของไทย และแพงกว่าหุ้น SPRC ซึ่งเป็นหุ้นเด่นของเรา (0.62 เท่า)
Chak Reungsinpinya
chak.reungsinpinya@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1399