สรุปประชุมนักวิเคราะห์ (04/06/2025)
ผู้บริหารยังคงเป้าหมายนักเรียนปีนี้ 5,000 คน หรือเพิ่มขึ้น 380 คน
เป้าหมายจำนวนนักเรียนอาจจะมีการปรับหรือไม่นั้น บริษัทอยู่ระหว่างรอดูสถานการณ์หลังจากจบไตรมาส 2 โดยจำนวนนักเรียนล่าสุดอยู่ที่ 4,643 หรือ เพิ่มขึ้น 23 คนจากสิ้นปี 2024 โดยจำนวนนักเรียนสาขานนทบุรีที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก สำหรับสาขาประชาอุทิศลดลงจากความผันผวนของนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะนักเรียนจีน ในขณะที่สาขาธนบุรีทรงตัวจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของโรงเรียนใหม่ที่เปิดใกล้เคียงและมีการลดราคาเพื่อดึงเด็กนักเรียน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเชื่อมั่นจากจุดเด่นของ SISB ที่เป็นหลักสูตรสิงค์โปรที่แตกต่างมี 3 ภาษา ในขณะที่สาขาอื่นๆ มีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยได้แก่ เชียงใหม่ และระยอง และขึ้นค่าเทอมปีนี้ 3% จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว บริษัทมั่นใจกำไรปีนี้แตะ 1,000 ล้านบาทได้
บริษัทเลื่อนการเปิดสาขาใหม่แห่งที่ 7 ไปปี 2027 สาขารังสิตโครงการ Halving Project จากการก่อสร้างมีความล่าช้า และคาดจะเริ่มเปิดได้ ส.ค.27 จากเดิม ส.ค.26 โดยเป้าหมายนักเรียนเดิมของสาขานี้ 200 คน
ยังคงประมาณการเดิม คาดกำไรเติบโตเฉลี่ย 10% (2Y CAGR)
เราคาดกำไรสุทธิ 2Q25F จะอยู่ที่ 235 ล้านบาท (+12%YoY, -1%QoQ) เพิ่มขึ้น YoY จากฐานนักเรียนที่เพิ่มขึ้น และคาดอ่อนตัวลง QoQ จากไตรมาส 2 ไม่มีรายได้กิจกรรม และคาดจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นประมาณ 43 คนมาอยู่ที่ประมาณ 4650 คน จากสาขานนทบุรีที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก และสาขาธนบุรีทรงตัวโดยส่วนใหญ่นักเรียนเป็นคนในประเทศ ยกเว้นสาขาประชาอุทิศที่ลดลงจากความผันผวนของนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะนักเรียนจีน ในขณะที่สาขาอื่นๆ มีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยได้แก่ เชียงใหม่ และระยอง คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นและค่าใช้จ่ายใกล้เคียง QoQ จากต้นทุนส่วนใหญ่เป็นบุคลากรครูเป็นหลัก
เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-26F คาดยังเติบโตได้อยู่ที่ปีละ 10% จากคาดจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น 200 คน และ 300 คน ตามลำดับ และคาดอัตราการขึ้นค่าเทอม 3% และ 5% ตามลำดับ โดยการเติบโตมาจากการขยายสาขาเดิมในช่วงปี 2024-25 จำนวน 1,800 ที่นั่งหรือเพิ่มขึ้น 27% และสาขาใหม่นนทบุรีที่มีจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก และปี 2026F เราคาดนักเรียนเพิ่มขึ้นสุทธิ 300 คน โดยรวมสาขารังสิต 100 คน (เรายังไม่ได้ปรับประมาณจากการเลื่อนเปิดไปปี 2027F) ในขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่คงที่จากบุคลากรครูเป็นหลัก เราคาดอัตราทำกำไรเพิ่มขึ้น จากสัดส่วนนักเรียนต่อครูที่ 8:1 และคาดอัตราส่วนจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตราทำกำไรเพิ่มขึ้นจากการเกิดการประหยัดขนาด (economy of scale)
เรายังคงคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากคาดผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากการเติบโตของโรงเรียนทุกสาขาที่มีทำเลดีและค่าเทอมอยู่ระดับกลางในกลุ่มโรงเรียน Inter Premium รวมถึงมีหลักสูตรสิงคโปร์ 3 ภาษา ที่มีภาษาจีนเพิ่มขึ้นตอบโจทย์ผู้ปกครอง ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 25 บาท อ้างอิงวิธี DCF (WACC 8.9%, T-growth 1%) บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ (net cash) ความเสี่ยง : 1) การแข่งขันของโรงเรียนนานาชาติ 2) การขาดแคลนบุคลากร