ภาวะตลาด : SET Index วานนี้ร่วงแรง โดยลงไปต่ำสุดที่ 1127.57 (-21.61 จุด) ปิดตลาดที่ 1132.02 (-17.16 จุด หรือ -1.49%) นำลงโดยหุ้น DELTA (-9.50 บาท หรือ -9.1% ฉุดดัชนีลง -9.7 จุด) ส่วนหนึ่งถูกกระทบจากการที่ตลท.จะใช้เกณฑ์ capped weight รวมถึงกังวลความไม่แน่นอนการเมืองในประเทศ ทำให้มีแรงขายหุ้น Big cap อื่นๆ เช่น GULF, KTB, AOT, PTT, SCB, SCC เป็นต้น นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิ -795 ลบ. ต่างชาติขายสุทธิ -867 ลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
• จับตาความคืบหน้าเจรจาการค้า ซึ่งจะหมดระยะเวลาผ่อนปรนของทรัมป์ ในวันที่ 8 ก.ค.25 ล่าสุดทรัมป์ ระบุว่าการเจรจากับปธน.จีนเป็นเรื่องที่ยาก ด้านเวียดนามเสนอลดยกเว้นภาษีนา เข้าให้สหรัฐ แต่สหรัฐยังมีข้อเรียกร้องจำนวนมากและเข้มงวด และให้เวียดนามคุมการเป็นทางผ่านส่งออกสินค้าจีนไปสหรัฐ
• สหรัฐ : ภาคบริการและจ้างงานภาคเอกชนชะลอตัวในเดือนพ.ค. โดยดัชนี PMI ภาคบริการ (ISM) พ.ค.ลดเป็น 49.9 (จาก 51.6 ในเม.ย.) หดตัวครงั้ แรกในรอบเกือบ 1 ปี ส่วนจ้างงานภาคเอกชนพ.ค.เพิ่มเพียง 3.7 หมื่นตำแหน่ง ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี และแย่กว่าตลาดคาด ติดตาม NFP เดือนพ.ค.ที่จะออกมา 6 มิ.ย.นี้...ทรัมป์ ออกมาเรียกร้องให้เฟดลดดอกเบี้ย หลังตัวเลขศก.เดือนพ.ค.ชะลอตัวลง
• เยอรมนี : รัฐบาลเยอรมนีอนุมัติมาตรการลดภาษีนิติบุคคลมูลค่า 4.6 หมื่นล้านยูโร (5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน หลังตัวเลขศก.ออกมาแย่กว่าคาด ส่วนสัญญาทองคา ส่งมอบส.ค.เด้งขึ้น 22.10 US$ เป็น 3399.20 US$/ออนซ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI & BRENT อ่อนลงเป็น 63-65 US$/bbl หลังสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นเพิ่มเกินคาด ดัชนีค่าเงิน US$ อ่อนเป็น 98.7 ด้านเงินบาทแข็งเป็น 32.5 บาท/ดอลลาร์ ด้าน US bond yield 10 ปีถอยมาที่ 4.36% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 104.45 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ขึ้นเป็น 1489 (สูงสุดอยู่ที่ 1669)
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• รมว.พาณิชย์ไทยได้หารือกับนายเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ในเวทีการประชุม OECD เมื่อ 3-4 มิ.ย. คาดว่าไทยและสหรัฐน่าจะได้นัดหมายเพื่อเจรจากันในเร็วๆนี้ และระบุว่าในเบื้องต้นข้อเสนอของไทยได้รับการตอบรับที่ดีจากทางสหรัฐ
• กกร.ลดเป้าจีดีพีปี 25F ของไทยลงเป็นเติบโต 1.5-2.0% โดยลดเป้าส่งออกเป็น -0.5% ถึง +0.3% (เดิม +1.3% ถึง +0.9%)...เป็นข่าวลบ แต่ไม่ได้ Surprise ตลาด
• ก.คลังหวังใช้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ดึงเงินลงทุน-หนุนท่องเที่ยว เพิ่มจีดีพี 0.2%-0.8%…คาดใช้เวลาผ่านร่างกม.ไม่น้อยกว่า 1 ปี เพราะมีความซับซ้อน
• ติดตามสถานการณ์การเมืองไทย ทั้งการปรับครม. และการนัดไต่สวนทักษิณ-ผู้ที่เกี่ยวข้องปมรักษาตัวชั้น 14 ร.พ.ตำรวจของศาลฎีกาวันที่ 13 มิ.ย.นี้
• DELTA ถูกกระทบจากการเกณฑ์ของตลท.ที่จำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัวใน SET50/SET100 ไม่เกิน 10% มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค.25 (ซึ่ง ณ 30 พ.ค.25 หุ้น DELTA มีน้ำหนัก 12.6% ใน SET50 และ 11.5% ใน SET100) ทำให้กองทุน Passive Fund ที่ลงทุนอิงกับ SET50/SET100 ต้องขายหุ้น DELTA ออกมา แต่...หุ้นที่มีน้ำหนักต่ำกว่า DELTA และไม่เกิน 10% จะได้ประโยชน์ โดยเฉพาะอันดับ 2-10 คือ PTT, ADVANC, GULF, AOT, CPALL, TRUE, SCB, PTTEP, KBANK ซึ่งคาดว่าจะได้เพิ่มน้ำหนักหุ้นละ 0.10%-0.21%
กลุยทธ์ : สัญญาณทางเทคนิคยังเป็นลบ อย่างไรก็ดี อาจมีเด้งสั้นที่แนวรับ 1130, 1122-1118 แนวต้าน 1140-1150, 1160-1170 แต่ถ้าลงต่อ/เด้งน้อย (ไม่ผ่าน 1150) ก็มีสิทธิลงไปที่ 1094-1090 ส่วนการลงทุนระยะยะกลาง-ยาว แนะเลือกและทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ Valuation ไม่แพง จ่ายปันผลดี สม่ำเสมอ โดยหุ้นเด่นของเดือนมิ.ย.25 ประกอบด้วย ADVANC, CPALL, KTB, PR9 และ STECON
หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : CPALL – เป็นหนึ่งในหุ้นที่ธุรกิจ Defensive เนื่องจากรายได้อิงกับสินค้าอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวัน ยอดขายสาขาเดิมยังเป็นบวกได้ ขณะที่กลุ่มค้าปลีกส่วนใหญ่ติดลบ ขณะเดียวกันยังคงเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง บริษัทได้อานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงจะได้เพิ่มน้ำหนักลงทุนจาก Passive fund ที่ลดน้ำหนักลงทุนหุ้น DELTA ไม่ให้เกินเพดาน 10% ของ SET50/SET100 กระแสเงินสดจากการดำเนินงานแข็งแกร่ง (ขายสินค้าเป็นเงินสด ขณะที่ได้เครดิตเทอมจากเจ้าหนี้การค้า) เราคาดการณ์กำไรหลักปีนี้โต +14% ดีกว่ากลุ่ม แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 69 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829