ภาวะตลาด : SET Index วานนี้มีเด้งตามคาด โดยขึ้นไปสูงสุด 1173.68 (+10.26 จุด) แต่ไม่สามารถยืนได้ และถอยลงมาปิดในระดับเกือบต่ำสุดของวันที่ 1160.74 (-2.68 จุด) แรงขายอยู่ในหุ้นใหญ่ เช่น DELTA, KBANK, GULF, BTG เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ช่วยพยุงตลาดเป็น SCC, AOT, CPALL, PTTGC, SCGP เป็นต้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ +355 ลบ. สถาบันในปท.ซื้อ-ขายใกล้เคียงกัน

ปัจจัยต่างประเทศ
• ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐในนิวยอร์กมีคำสั่งวานนี้ (28 พ.ค.) ให้ระงับใช้มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ โดยศาลตัดสินว่าปธน.ทรัมป์ ใช้อำนาจเกินขอบเขตด้วยการกำหนดภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศเกินดุลการค้าสหรัฐ...แต่หลังจากมีคำตัดสินดังกล่าว ฝ่ายบริหารของทรัมป์ ก็ยื่นได้อุทธรณ์ในไม่กี่นาทีต่อมาอย่างไรก็ตามระยะสั้นเป็น Sentiment บวกก่อน โดยเฉพาะกับหุ้นกลุ่มอิเลคทรอนิกส์ (DELTA, HANA, KCE, SVI) กลุ่มนิคม (AMATA, WHA, ROJNA) เป็นต้น
• ในรายงานการประชุมฯระบุ เฟดเตือนสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากความตึงเครียดทางการค้าโลก และเฟดตัดสินใจยากลำบากขึ้น เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ขณะที่การว่างงานก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐล่วงหน้าพุ่ง รับข่าวศาลฯระงับใช้มาตรการภาษีศุลกากรทรัมป์ ราคาน้ำมันดิบ WTI & BRENT เด้งขึ้นเป็น 62.65 US$/bbl จับตาผลประชุมโอเปกพลัส 1 มิ.ย.นี้ ด้าน US bond yield 10 ปีปรับขึ้นเป็น 4.5% ดัชนีค่าเงิน US$ แข็งขึ้นสู่ 100.3 ด้านเงินบาทอ่อนเป็น 32.8 บาท/ดอลลาร์ ดัชนีราคาถ่านหิน(NC) ถอยสู่ 107.6 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index เด้งเป็น 1303 (สูงสุดอยู่ที่ 1669)
• ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ติดตาม: 29 พ.ค.-จีดีพีสหรัฐ 1Q68 (ประมาณการครงั้ ที่ 2), 30 พ.ค.-ดัชนี PCE และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากม.มิชิแกน

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ค่าการกลั่นฟื้นตัวแข็งแกร่งใน 2Q25 ซึ่ง SPRC ได้อานิสงค์เต็มที่ เพราะทำธุรกิจโรงกลั่นอย่างเดียว และไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น ขณะที่ต้นทุนน้ำมันดิบก็มีโอกาสถูกลงหากกลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มปริมาณการผลิตในเดือนก.ค.อีก (หลังเพิ่มเกินคาดในเดือนพ.ค.-มิ.ย.) เนื่องจากใช้น้ำมันดิบจาก ME สูงที่ 96% แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 7.80 บาท นอกจากนั้นเราชอบ BCP ที่มีทั้งธุรกิจโรงกลั่น ธุรกิจต้นน้ำโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน แต่เน้นลงทุนระยะกลาง-ยาว
• การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ประกาศปรับลดค่ารับซื้อไฟฟ้า โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับโครงการที่ COD หลังเดือนมิ.ย.2019 แต่ก่อนเดือนธ.ค. 2022 และโครงการพลังงานลม ที่ COD หลังเดือนพ.ย.2021...ซึ่งโรงไฟฟ้าที่คาดว่าจะได้รับลบคือ BPP, SUPER, BGRIM (กำลังเจรจาต่อรอง) ส่วนโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้รับผลกระทบ คือ GUNKUL
• MSCI Rebalancing พ.ค.25 - ถอด 3 หุ้นไทย คือ BEM, CRC, KTC ออกจาก MSCI Global Standard Index โดยไม่มีหุ้นเข้า และถอด 8 หุ้นออกจาก MSCI Small Cap Index คือ AURA, BANPU, DOHOME, GUNKUL, JAS, JMART, PRM, M และมี 2 หุ้นเข้า คือ AWC, BEM (ย้ายมา) มีผล ณ ราคาปิด 30 พ.ค.25
• ติดตามการประชุมสภาผู้เทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ในวันที่ 28-31 พ.ค.นี้

กลุยทธ์ : เลือกซื้อ สัญญาณเทคนิคยังเป็นลบ (ยังอยู่ใต้เส้น SMA10) แต่ด้วย Sentiment ตลาดที่ดีขึ้นน่าจะทำให้รีบาวด์ได้ กรอบแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1160+/-,1155 กรอบแนวต้าน 1170, 1180-1185, 1200 การลงทุนระยะยะกลาง-ยาว แนะเลือกและทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ Valuation ไม่แพง จ่ายปันผลดี สม่ำเสมอ ซึ่งหุ้น Top Picks ของเดือนพ.ค.เป็น ADVANC, BDMS, BJC, CPALL และ KTB

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : ADVANC– แนวโน้มกำไร 2Q68 ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องจาก 1Q68 เป็นผลจาก รายได้เฉลี่ยต่อเครื่องต่อเดือน (ARPU) ของธุรกิจสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น, จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงมากขึ้นและ ARPU เพิ่มขึ้นจากการซื้อแพจเกจมูลค่าสูงมากขึ้น บริษัทควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้ดี ราคาอ่อนที่อ่อนตัวลงเป็นจังหวะซื้อสะสม โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 315 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829