Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

126


SET เตรียมสยายปีก
TOP PICK TOP / WHA / DELTA


EXTERNAL FACTOR

 

• เช้านี้ ตลาดหุ้น FUTURE สหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นแรงมากกว่า 1% ขณะที่ดันชีความผันผวน (VIX INDEX) ร่วงลงราว 2.6% หลังมีกระแสข่าวศาลการค้าสหรัฐฯ มีคำสั่งให้การเก็บภาษีวันปลดแอก “เป็นโมฆะ” ขณะที่ล่าสุด มีรายงานว่า รัฐบาลทรัมป์ได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินแล้ว
• อ้างอิงจาก THE NEW YORK TIMES เผยว่าฝ่ายบริหารมีเวลา 10 วันในการระงับการจัดเก็บภาษีตามคำสั่งศาลฯ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าการระงับจะมีผลในทางปฏิบัติเมื่อใดจึงยังต้องจับตาความคืบหน้าต่อไป


INTERNAL FACTOR
• ที่ประชุม ครม.วานนี้อนุมัติร่าง พรบ รฟม. ปูทางนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายทันตามเป้าหมายในเดือน ก.ย.นี้ ประเมินว่ารัฐบาลจะต้องใช้เงินสนับสนุนมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ประมาณ 7-8 พันล้านบาท/ปี
• ในเชิง SENTIMENT อาจสร้างความกังวลต่อ BTS และ BEM ช่วงสั้น เนื่องจากปริมาณผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นหลังการปรับลดค่าโดยสาร จะถูกใช้เป็นหนึ่งในเงื่อนไขการเจรจาระหว่างภาครัฐกับผู้ประกอบการเดินรถเพื่อขอลดการจ่ายเงินชดเชย แต่ ASPS ยังมอง BEM มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ให้น้ำหนักมากกว่าตลาดฯ

 


INVESTMENT STRATEGY
• ตั้งแต่5 พ.ย. 67 –28 พ.ค. 68 ทรัมป์ถูกรับเลือกเป็น ปธน. หุ้นไทยลง -20% ต่ำสุดอันดับ 2 ของโลก โดยนักลงทุนกังวลประเด็นการขึ้นภาษีตอบโต้ไทย 36% จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่พึงพิงการส่งออกเป็นหลัก และในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ยังถูก SHORT SELL สูงกว่ปกติถึง 6% ของมูลค่าซื้อขาย
• แต่เช้านี้ SURPRISE!!! ศาลสหรัฐฯ ระงับนโยบายภาษีตอบโต้ หนุนให้ SET มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น พร้อมกับมีแรงหนุนจากการ COVER SHORT เพิ่มเติม แนะนำ หุ้น GLOBAL PLAY ที่ลงลึกมีโอกาสฟื้นแรง SAPPE,ICHI, KCE, HANA, DELTA, ITC, TU, AMATA, WHA และหุ้นที่มีปริมาณ SHORT SELL คงค้างสูงมีโอกาส
ฟื้นแรง HANA, KCE, SCC, MTC, BH, JMT

 


เซอร์ไพร์สใหม่เข้ามาหนุนตลาดหุ้น
เช้านี้ ตลาดหุ้น FUTURE สหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นแรงมากกว่า 1% ขณะที่ดันชีความผันผวน (VIX INDEX) ร่วงลงราว 2.6%หลังมีกระแสข่าวศาลการค้าสหรัฐฯ (US TRADE COURT) มีคำตัดสินว่า ทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขต ภายใต้กฎหมายฉุกเฉินปี 1977 (INTERNATIONAL EMERGENCY ECONOMIC POWERS ACT) และมีคำสั่งให้การเก็บภาษีวันปลดแอก “เป็นโมฆะ” ขณะที่ล่าสุด มีรายงานว่า รัฐบาลทรัมป์ได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินแล้วสำหรับการดำเนินการของฝ่ายบริหาร (รัฐบาลทรัมป์) หลังคำตัดสิน อ้างอิงจาก THE NEW YORK TIMES เผยว่าฝ่ายบริหารมีเวลา 10 วันในการระงับการจัดเก็บภาษีตามคำสั่งศาลฯ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าการระงับจะมีผลในทางปฏิบัติเมื่อใด จึงยังต้องจับตาความคืบหน้าต่อไปในส่วนของรายละเอียดแต่ละขั้นตอน:
1. COURT RULING ศาลการค้าสหรัฐฯ ตัดสินว่าภาษีทั่วโลกของทรัมป์ผิดกฎหมาย → จุดเริ่มต้นของกระบวนการทางกฎหมาย
2. APPEAL PROCESS ฝ่ายบริหารของทรัมป์ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลาง → หากไม่สำเร็จอาจยื่นต่อศาลฎีกา
3. SUPREME COURT REVIEW ศาลฎีกาสหรัฐฯ อาจรับพิจารณาคดี หากเห็นว่ามีประเด็นสำคัญระดับชาติ→ เป็นจุดตัดสินขั้นสุดท้าย

 

ราคาน้ำมันดิบดีดตัวช่วงสั้น จากหลายปัจจัย หนุนหุ้นกลุ่มโรงกลั่นสดใส
วานนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรงทั้ง BRENT และ WTI กว่า 1-1.5% จากหลายปัจจัยหนุน ซึ่งกดดันจากฝั่งSUPPLY ทั้งสิ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ที่ประชุม OPEC+ มีมติคงนโยบายการผลิตน้ำมันตามที่ได้ตกลงกันในการประชุมเดือนธ.ค. 67 โดยจะลดกำลังการผลิตรวม 2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 69 กดดัน SUPPLY น้ำมันในตลาดฯ อย่างไรก็ตามต้องติดตามการประชุมวันเสาร์นี้ของสมาชิก 8 ชาติของกลุ่ม OPEC+ ได้แก่ รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอลจีเรียอิรัก คาซัคสถาน คูเวต โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งจะจัดการประชุมแยกต่างหาก โดยคาดว่าที่ประชุมจะเห็นพ้องให้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค.68 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ค.และมิ.ย.


2. รัฐบาลของ TRUMP ไม่อนุญาตให้บริษัท CHEVRON ดำเนินงานในแหล่งน้ำมันของเวเนซุเอลา รวมทั้งไม่สามารถส่งออกน้ำมัน หรือขยายกิจกรรมใด ๆ ในเวเนซุเอลา เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้CHEVRON มีการชำระเงินใด ๆ แก่รัฐบาลของเวเนซุเอลา


ซึ่งภาพรวม SET INDEX ในช่วงสั้นคาดได้รับ SENTIMENT เชิงบวกจากประเด็นดังกล่าว โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่นเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ซึ่งมีน้ำหนัก(MARKET CAP) สูงถึง 1 ใน 3 ของน้ำหนักทั้งหมด ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์ในยามราคาน้ำมันดิบขาขึ้น ได้แก่กลุ่มผู้ประกอบการผลิตและสำรวจน้ำมันที่มีรายได้อิงกับราคาขายน้ำมัน คือ PTTEPส่วนของธุรกิจโรงกลั่น คือ TOP, PTT, PTTGC ที่ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปียัง LAGGARD ราคาน้ำมันดิบ BRENT และWTI

ครม. อนุมัติร่าง พรบ รฟม. ปูทางนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย
วานนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยรวมไปถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ตั๋วร่วมที่จะครอบคลุมเรื่องการจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วม และนำเงินมาชดเชยส่วนต่างค่าโดยสารรถไฟฟ้ามีเป้าหมายหลักเพื่อให้ รฟม.สามารถสนับสนุนการดำเนินการเรื่องค่าโดยสาร 20 บาท และผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ทันตามเป้าหมายในเดือน ก.ย.นี้ โดยกลไกการใช้เงินเบื้องต้น กระทรวงการคลังจะนำเงินที่ รฟม. นำส่ง ปล่อยกู้ให้กับกองทุนภายใต้ พ.ร.บ ตั๋วร่วม เพื่อนำเงินไปชดเชยส่วนต่างค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการรถไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบทั้ง BTS และ BEM โดยปัจจุบันรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินของ BEM มีอัตราค่าโดยสารเฉลี่ย 30 บาท/เที่ยว ขณะที่รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวมีอัตราค่าโดยสารเฉลี่ย 34 บาท/เที่ยว เมื่อรวมกับการชดเชยส่วนต่างค่าโดยสารสำหรับรถไฟฟ้าสายอื่นๆทั้งรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สายสีชมพู สายสีม่วง และแอร์พอร์ตลิงค์ ประเมินว่ารัฐบาลจะต้องใช้เงินสนับสนุนมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ประมาณ 7-8 พันล้านบาท/ปี

ฝ่ายวิจัยมีความเห็นว่าในเชิงปัจจัยพื้นฐานไม่น่าจะส่งผลกระทบเชิงลบที่มีนัยสำคัญต่อ BTS และ BEM เนื่องจากทั้งBTS และ BEM มีสัญญาสัมปทานที่ทำกับภาครัฐอย่างชัดเจนที่ให้สิทธิปรับอัตราค่าโดยสารขึ้นตามอัตราเงินเฟ้ออย่างไรก็ตามในเชิง SENTIMENT อาจสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนในช่วงที่เงื่อนไขการจ่ายเงินชดเชยยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากปริมาณผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นหลังการปรับลดค่าโดยสาร จะถูกใช้เป็นหนึ่งในเงื่อนไข

 

การเจรจาระหว่างภาครัฐกับผู้ประกอบการเดินรถเพื่อขอลดการจ่ายเงินชดเชย ในขณะที่ผู้ประกอบการเดินรถก็จะมีค่าใช้จ่ายในการเดินรถที่มากขึ้นตามปริมาณผู้โดยสารเช่นเดียวกัน ฝ่ายวิจัยยังคงให้น้ำหนักการลงทุน BEMมากกว่าตลาด ประเมินราคาเหมาะสม 10.60 บาท มองว่าปัจจัยพื้นฐานของ BEM ยังคงแข็งแกร่ง และมีการเติบโตของผลประกอบการได้อย่างต่อเนื่อง

SET เตรียมสยายปีก แนะเก็งกำไร DELTA, WHA, TOP
ตั้งแต่ 5 พ.ย. 67 –28 พ.ค. 68 ทรัมป์ถูกรับเลือกเป็น ปธน. หุ้นไทยลง -20% ต่ำสุดอันดับ 2 ของโลก โดยนักลงทุนกังวลประเด็นการขึ้นภาษีตอบโต้ไทย 36% จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่พึงพิงการส่งออกเป็นหลักและในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ยังถูก SHORT SELL สูงกว่ปกติถึง 6% ของมูลค่าซื้อขาย

 


แต่เช้านี้ SURPRISE ศาลสหรัฐฯ ระงับนโยบายภาษีตอบโต้ หนุนให้ SET มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น พร้อมกับมีแรงหนุนจากการ COVER SHORT เพิ่มเติม แนะนำ หุ้น GLOBAL PLAY ที่ลงลึกมีโอกาสฟื้นแรง SAPPE, ICHI, KCE,HANA, DELTA, ITC, TU, AMATA, WHA และหุ้นที่มีปริมาณ SHORT SELL คงค้างสูงมีโอกาสฟื้นแรง HANA,KCE, SCC, MTC, BH, JMT โดย TOPPICK เลือก DELTA, WHA, TOP

 



Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

รอ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ยังคงรอ การปรับน้ำหนักดัชนี MSCI จะมีผล ณ ราคาปิดในวันนี้ โดย MSCI Global ....

ATLAS ลุยโรดโชว์ จ.นครราชสีมา กระแสตอบรับล้นหลาม

ATLAS ลุยโรดโชว์ จ.นครราชสีมา กระแสตอบรับล้นหลาม

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้