คาด SET Index แกว่งตัว Sideways up : แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ดีขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังว่าสงครามการค้าจะผ่อนคลายลง รวมถึงความกังวลต่อเสถียรภาพการเมืองไทยได้ลดลง หากแต่ภาพการท่องเที่ยวไทยยังน่ากังวล

แนวรับ-ต้าน

1,155-1,175

กลยุทธ์การลงทุน
1) โครงการ+มาตรการภาครัฐ : CK, KTB, SEAFCO ,STECON, UNIQ, WHA
2) ส่งออก : DELTA, GFPT, ITC, STA
3) Thai ESGX : BBL, GULF, KBANK, PTT, SCB
4) เก็งเข้า SET 50/100 (ข้อมูลเบื้องต้น) SET50 : BCP, KKP, TCAP SET100 : AURA, JTS, PTG, TFG, TOA
5) Short sell :AAV, BA, BEM, CRC, GLOBAL, DOHOME, ERW

ลดกังวลสงครามการค้าและการเมืองไทย

 หวังสงครามการค้าผ่อนคลายลง : คาด Sentiment เชิงบวกมาจากการเปิดรับสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน สอดรับกับ Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ที่ปรับตัวขึ้น 1.78% 2.05% และ 2.47% ตามลำดับ เมื่อคืนที่ผ่าน สวนทางกลับราคาทองคำ COMEX ที่ปรับตัวลง 1.94% ปิดที่ 3,300.4 ต่อออนซ์ ท่ามกลางความคาดหวังว่าสงครามการค้าจะผ่อนคลายลง ทั้งจากการที่ ปธน.ทรัมป์ ประกาศเลื่อนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 50% จากสหภาพยุโรป อีกทั้ง ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวยังเผยว่า ปธน.ทรัมป์ อาจประกาศข่าวดีเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับหลายประเทศในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ การเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯจาก Conference Board ยังนับเป็นอีกสัญญาณเชิงบวก หลังปรับตัวขึ้น สู่ 98.0 ในเดือนพ.ค.68 จาก 85.7 ในเดือนเม.ย.68 และสูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 87.1 โดยได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐฯและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการปรับลดอัตราภาษีศุลกากร ขณะที่ปัจจัยอื่นๆในฝั่งสหรัฐฯคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงการเผยงบ 1QFY69 ของ NVIDIA หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปิด ตลาดคาดรายได้และ EPS (GAAP) ขยายตัว 66% y-y และ 25% y-y ตามลำดับ

ลดความกังวลการเมืองไทย : คาด SET Index จะได้ Sentiment หนุนจากความกังวลที่ลดลงต่อเสถียรภาพการเมืองไทย หลังวานนี้คุณทักษิณได้ปรากฎตัวเป็นครั้งแรกหลังแพทยสภาลงโทษแพทย์กรณีชั้น 14 และยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่สั่นคลอน ทุกวันนี้ยังกอดคอกันดี จะอยู่ทำงานร่วมกันจนครบวาระแน่นอน ไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯกลางคัน ไม่มีการยุบสภา นอกจากนี้ ติดตามสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างงบฯ 69 วาระที่ 1 ในวันที่ 28-30พ.ค.68 หากผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยลดความกังวลเสถียรภาพการเมืองไทย

 นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยลดลง : อย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นถูกลดทอนลง ด้วยความกังวลต่อสถานการณ์การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญทางเศรษฐกิจไทย หลังจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม Ytd วันที่ 1 ม.ค.-25 พ.ค.68 หดตัว 2.55% y-y แย่ลงจากการตัว 1.75% y-y ในข้อมูลสะสมถึงวันที่ 18 พ.ค.68 และนับเป็นการหดตัว Ytd เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

ปัจจัยเพิ่มเติม

 (+) ผอ.สำนักงบฯ เผยถึงความคืบหน้าการเสนอโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.57 แสนล้าน ว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนนำเสนอและรวบรวม ส่วนมีกี่หน่วยงานที่เสนอโครงการเข้ามานั้น ตนยังไม่ได้ตรวจสอบดู แต่ยอมรับว่ามาก

(-) กรมพัฒฯเผยการจัดตั้งธุรกิจในช่วง 4M68 ลดลง 4.39% y-y ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ภาคธุรกิจในช่วงเวลานี้ต้องเผชิญกับสถานการณ์และแรงกระทบต่างๆจากภายในและภายนอกประเทศ ส่งผลให้ภาคธุรกิจชะลอการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงการจดทะเบียนธุรกิจต่างๆ

(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 1.04% ปิดที่ 60.89 ต่อบาร์เรล โดยถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าโอเปกพลัสจะตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมสัปดาห์นี้ รวมถึงความคืบหน้าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน

 (-) BIS เผยรัฐบาลทั่วโลกต้องเร่งควบคุมการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะที่ไม่หยุดยั้ง เพราะดอกเบี้ยที่สูงขึ้นกำลังทำให้เส้นทางการคลังของหลายประเทศไม่ยั่งยืน

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์