Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

KBank Private Banking ร่วมกับ Lombard Odier แนะให้บริหารความเสี่ยง พร้อมสร้างโอกาสในช่วงตลาดผันผวนไปกับกองทุน K-ALLROADS Series

95


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(27 พฤษภาคม 2568)----------จะดีแค่ไหนหากมีกลยุทธ์การลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอได้ในระยะยาว ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง KBank Private Banking เชื่อในหลักการลงทุนแบบ Risk-Based Asset Allocation ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน อีกทั้งยังกำหนดความเสียหายให้อยู่ในกรอบที่กำหนด และสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอในทุกสภาพเศรษฐกิจ ผ่านการลงทุนในกองทุน K-ALL Roads Series ซึ่งเป็นนวัตกรรมการลงทุนที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนในสภาวะตลาดที่คาดเดายาก

KBank Private Banking ร่วมกับ Lombard Odier เผยมุมมองต่อเศรษฐกิจโลก โดยมองว่าอาจเกิดได้ใน 2 กรณี ได้แก่

1.เศรษฐกิจได้รับผลกระทบแบบจำกัด มีโอกาสเกิดขึ้น 70% (Base Case) โดยมองว่าในที่สุดสหรัฐฯ จะประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 30% และจากประเทศอื่น ๆ อีก 10% ทำให้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในวงจำกัด เศรษฐกิจอาจเกิดการชะลอตัวแต่ไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยคาดว่า GDP สหรัฐฯ ปีนี้จะเติบโต 1.2% และ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ 3.75% ภายในปีนี้
2.เศรษฐกิจถดถอยรุนแรง / เกิดภาวะที่เศรษฐกิจซบเซาและมีเงินเฟ้อสูงพร้อมกัน หรือที่เรียกว่า Stagflation มีโอกาสเกิดขึ้น 30% (Risk Case) คือการที่สหรัฐฯ เดินหน้าเก็บภาษีเต็มรูปแบบตามที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ไม่มีการผ่อนปรน ส่งผลให้ GDP สหรัฐฯ โตได้เพียง 0.5% ขณะที่เงินเฟ้อยังคงสูง Fed อาจต้องลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่อง เหลือเพียง 2.0% ในปีนี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจในภาวะ Stagflation

 

จากความไม่แน่นอนนี้ Lombard Odier ผู้จัดการกองทุนหลักของกองทุน K-ALL Roads series ได้กำหนดเป้าหมายหลักในการบริหารกองทุนไว้ 3 ข้อ คือ สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ปกป้องความเสียหายของเงินลงทุน และต้องมีสภาพคล่อง โดยมีวิธีการบริหารพอร์ต ดังนี้
1. -ลงทุนเฉพาะในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง
2. -กระจายความเสี่ยง
3. -ปรับพอร์ตอย่างต่อเนื่อง (รายวัน)
4. -ควบคุมการขาดทุนสะสม


ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทุน K-ALL ROAD Series ได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอและทันท่วงที เช่น ในช่วงต้นปี ที่ตลาดส่งสัญญาณเป็นบวก กองทุนมีสัดส่วนการลงทุนที่ 140% ผ่านการ Leverage ในทางกลับกัน หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษี ในช่วงวันที่ 2-9 เมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ความเสี่ยงในตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก กองทุนจึงได้ปรับลดการลงทุนในสินทรัพย์ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว เหลือเพียง 60% เเพื่อลดความเสี่ยง จากนั้นกองทุนก็กลับมาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น และหุ้นกู้ มากขึ้น จากสัญญาณบวกที่ได้รับจากเครื่องมืองต่างๆ โดยสัดส่วนการลงทุนในปัจจุบันของกองทุน ได้ให้น้ำหนักในพันธบัตรรัฐบาลและพันฐบัตรที่อ้างอิงกับเงินเฟ้อ (Inflation-linked Bonds) สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และ ให้น้ำหนักในหุ้นกู้และหุ้น ทั้งในตลาดพัฒนาแล้ว (Developed Market) และ ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต


โดย KBank Private Banking ยังคงแนะนำให้ลงทุนในกองทุน K-ALL ROAD Series เป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดของพอร์ต (50-70%) เพื่อกระจายความเสี่ยง ซึ่งสามารถลงทุนได้ในระยะยาว และไม่ต้องกังวลต่อความไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่อาจคาดเดาซึ่งส่งผลให้ตลาดผันผวน โดยนักลงทุนสามารถลงทุนใน กองทุน K-ALL ROAD Series ได้ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของนักลงทุนแต่ละท่าน โดยสามารถทยอยเข้าลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่กองทุนได้มีการปรับลดสัดส่วนการลงทุนลง และถือเงินสด เพื่อลดความเสี่ยง นับเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ไร้ปัจจัยบวก By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ค่ำคืนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดทำการ และสินค้าโภคภัณฑ์ปิดทำการเนื่องในวัน Memorial Day...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้