ภาวะตลาด : SET Index วานนี้แกว่งบวก-ลบในกรอบ 1171.76-1182.54 ปิดตลาดดัชนี -6.44 จุดที่ 1173.37 เป็นไปทิศทางเดียวกับภูมิภาค โดยยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ขณะเดียวกันมีความกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศมากขึ้น สถาบันในปท.ขายสุทธิ -955 ลบ. ต่างชาติซื้อสุทธิ +1.4 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณแบบเฉียดฉิว 215 : 214…ซึ่งตลาดกังวลว่ามีความเสี่ยงที่หนี้รัฐบาลจะเพิ่มขึ้นอย่างมากสำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ (CBO) เตือนว่าร่างกฎหมายนี้จะทำให้รัฐบาลมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ใน 10 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์
• ดัชนี PMI ภาคผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนพ.ค.ของสหรัฐดีกว่าคาด โดย PMI ภาคผลิตเบื้องต้นเพิ่มเป็น 52.3 (จาก 50.2 เดือนเม.ย.) และ PMI ภาคบริการเบื้องต้นเพิ่มเป็น 52.3 (จาก 50.8 เดือนเม.ย.)
• ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่เพิ่มขึ้น โดยยอดขายฯ -0.5%MoM (+2%YoY) เป็น 4.0 ล้านยูนิต ต่ำกว่าตลาดคาด
• กลุ่มโอเปกพลัสจะประชุม 1 มิ.ย.นี้ ติดตามว่าจะเพิ่มปริมาณการผลิตเดือนก.ค.ต่ออีกหรือไม่ หลังจากเพิ่มการผลิตมากกว่าคาดมาแล้วในเดือนพ.ค.-มิ.ย.68 ราคาน้ำมันดิบ WTI & BRENT ถอยมาที่ 61.64 US$/bbl กังวลภาวะอุปทานล้น
• ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนเ พราะกังวลงขาดดุลงบประมาณ แต่ปิดเปลี่ยนแปลงไม่มาก ด้าน US bond yield 10 ปีถอยลงมาที่ 4.53% หลังพุ่งทะลุ 4.6% ไปวันก่อนหน้า ดัชนีค่าเงิน US$ แข็งเล็กน้อยสู่ 99.8 เงินบาทอ่อนเป็น 32.83 บาท/ดอลลาร์ (จาก 32.5 วันก่อน) สัญญาทองคา COMEX ร่วงลง -18.50 ดอลลาร์ เป็น 3,295 US$/ออนซ์ ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 100.1 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index บวกเล็กๆเป็น 1341 (สูงสุดอยู่ที่ 1669)

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• นักวิเคราะห์ในตลาดคาด TCAP, BCP, KKP มีโอกาสเข้าคำนวณใน SET50 (หุ้นที่หลุดเป็น GLOBAL, BGRIM, ITC) สำหรับรอบครึ่งหลังปี 68 ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคา นวณใน SET100 เป็น MBK, TFG, JTS, AURA, TOA, WHAUP (หุ้นที่หลุดเป็น CKP, COCOCO, ROJNA, SAPPE, SKY, SNNP)
• สต็อกที่พักอาศัยของไทย ณ สิ้นไตรมาส 1/68 มีมูลค่าราว 1.57 ล้านล้านบาท ต้องใช้เวลาระบายสต็อก 3-6 ปี...กลุ่มที่พักอาศัยต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวในการถือครองหุ้น เน้นไปยังบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนต่ำกว่า 1 เท่า และจ่ายปันผลสูงได้สม่ำเสมอ เช่น AP, SPALI ฯลฯ
• การเมืองไทย – ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้คุณยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าเสียหายจำนำข้าว 10,028 ลบ. เป็น Sentiment ลบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
• ปัจจัยที่ติดตาม 1. อัตราภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าไปสหรัฐของไทย, 2. ประชุมสภาอภิปรายงบประมาณปี 69 (28-30 พ.ค.) หลังครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านลบ.แล้ว, 3. เสถียรภาพรัฐบาลและสถานการณ์การเมืองไทย

กลุยทธ์ : SET Index ยังมีสัญญาณเป็นลบทั้งในระยะสั้น-กลาง แต่ที่ระดับ 1170+/- อาจมีเด้ง แนวต้าน 1175, 1185-1190 แต่ถ้าเด้งสั้น /ลงต่อจะมีแนวรับถัดไป 1155-1150 หรือต่ำกว่า การลงทุนระยะยะกลาง-ยาว แนะเลือกสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ Valuation ไม่แพง จ่ายปันผลดี สม่ำเสมอ ซึ่งหุ้น Top Picks ของเดือนพ.ค.เป็น ADVANC, BDMS, BJC, CPALL และ KTB

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : BCP – คาดค่าการกลั่นใน 2Q68 ของบริษัทจะดีกว่าโรงกลั่นอื่น เนื่องจากมีสัดส่วนการกลั่นน้ำมันเบนซินสูง ในขณะที่ค่าการกลั่นน้ำมันเบนซินฟื้นตัวแข็งแกร่ง (+43%QTD) ขณะที่ค่าการกลั่นน้ำมัน Jet และดีเซลเพิ่มขึ้น +7% และ +6% QTD และมีค่าพรีเมียมน้ำมันดิบที่ต่ำกว่า บริษัทไม่มีธุรกิจปิโตรเคมีที่ผันผวน และได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ด้านพลังงานของไทยต่ำกว่าบริษัทพลังงานอื่น แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 43 บาท ณ ราคาปัจจุบันมี P/BV ที่ 0.7 เท่า คาด Dividend yield ปีนี้ประมาณ 5% ต่อปี

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829