AT THE OPEN (#ATO)
SET Index พักฐาน
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว
Market Strategy
SET Index คาดยังอยู่ในโหมดสร้างฐานตามกรอบ 1170-1190 จุด แรงกดดันวันนี้จะมาจาก U.S. Bond Yield สหรัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้น จากตลาดกังวลต่อแผนการขาดดุลงบประมาณสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวของ Fund Flow ต่างชาติ หุ้นเด่นวันนี้เลือก TLI และ PR9
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปรับลงในช่วง 1.4%–1.9% กดดันจาก Bond Yield รุ่นอายุ 10 ปี เร่งตัวขึ้นเร็ว 11 bps มาที่ 4.6% จากตลาดกังวลต่อเรื่องการขาดดุลงบประมาณจากแผนภาษีนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาของคุณทรัมป์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงต่อรองภายในของ ส.ส.ของรีพับลิกันบางส่วนที่ต้องการลดภาษีเพิ่มเติมในส่วนของภาษีรัฐฯและภาษีท้องถิ่น ภายใต้สถานการณ์ที่ยังไม่ชัดเจนข้างต้น จะกระทบต่อทิศทาง Fund Flow ต่างชาติที่ขาดความต่อเนื่อง ส่วนผลต่อตลาดหุ้นจะสร้างผันผวนต่อหุ้นกลุ่ม Yield Sensitive โดยเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มธนาคาร (ชอบ KBANK KTB) กลุ่มประกัน (ชอบ TLI) ในทางกลับกันจะเป็นลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มไฟแนนซ์ เป็นต้น
ด้านราคาน้ำมันดิบวานนี้ปรับลง -0.7% จากรายงานสต๊อคน้ำมันดิบของ EIA ที่เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลมากกว่าตลาดคาดจะลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล อาจทำให้เป็นแรงขายทำกำไรต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่อย่างไรก็ตามสำหรับหุ้นกลุ่มโรงกลั่นหากราคาปรับลงมาเรามองเป็นจังหวะตั้งรับจากแนวโน้ม ค่าการกลั่นที่เร่งตัวขึ้น โดย 2Q68TD เฉลี่ย 4.87 เหรียญฯ เร่งตัวขึ้น 53.6%QoQ และ 39%YoY ขณะที่ระยะถัดไปเตรียมเข้าสู่ฤดูกาลขับขี่ในสหรัฐฯ เป็นปัจจัยหนุนค่าการกลั่นปรับขึ้นต่อ โดยเราชอบ SPRC เนื่องจาก Valuation ที่ถูก P/E 7 เท่า Dividend Yield สูงเฉียด 8%
ด้านปัจจัยในประเทศหลังจากผ่านเรื่อง ครม.เห็นชอบโครงการโยกงบ 1.57 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นด้านการลงทุนอื่นๆ ถัดไปจะให้น้ำหนักไปที่การพิจารณาร่างงบประมาณปี 69 ในสภาฯ วันที่ 28-30 พ.ค. รวมถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐฯ ต่อไป
Market Summary
SET Index ปรับลง 9.33 จุด แรงกดดันหลักมาจากกลุ่มค้าปลีก CPALL -4.4% CPAXT -9.5% จากการเลื่อน Digital Wallet เปลี่ยนเป็นโครงการลงทุนและมุมมองภาคบริโภคในประเทศที่ชะลอลง กลุ่มอสังหาฯ SC -5.2% LH -1.5% AP -1.5% กลุ่มท่องเที่ยวโรงแรม ERW -2.45% CENTEL -2.9% ตามตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ฟื้นช้า สวนทางกลุ่ม Global Play จาก PTTGC +8.1% ตอบรับเชิงบวกจากแผนลดต้นทุนและขายสินทรัพย์ IVL +1.5% และ SCGP +3.75% จากเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นของจีน กลุ่มน้ำมัน PTTEP +2.5% ที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบหนุน
DAILY Stock Pick
TLI
หนุนจากทั้ง Bond yield ปรับตัวขึ้น
และ valuation น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 16.00 บาท
Bond yield 10 ปี ของสหรัฐปรับตัวขึ้นอยู่ในระดับ 4.6% หลังจากมูดี้ส์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐก่อนหน้านี้ และร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล กดดันให้รัฐบาลสหรัฐขาดทุนมากขึ้น โดย Bond yield ที่ปรับตัวขึ้น ส่งผลให้มูลค่าหนี้สินของ TLI ลดลงเร็วกว่าสินทรัพย์
กำไรปกติของ TLI เติบโตในปี 68-70 หนุนจาก การขายประกันที่มีอัตรากำไรสูง ในขณะที่มีโอกาสจ่ายเงินปันผลมากขึ้นตามกำไร และ งบดุลที่แข็งแกร่ง (CAR >100%) ส่วน valuation P/EV 0.75 เท่า เท่ากับ AIA ที่ 1 เท่า อยู่ในระดับที่น่าสนใจ
KEY FACTOR
ตลาดกลับมาให้น้ำหนักต่อทิศทางนโยบายการคลังของสหรัฐฯ หลังมีการเสนอร่างกฎหมายภาษีฉบับใหม่ (Big Beautiful Bill) ที่สร้างความกังวลต่อภาวะขาดดุลการคลังในระยะยาว โดยเฉพาะประเด็นการขยายเพดาน หักลดหย่อน SALT และการต่ออายุมาตรการลดภาษี TCJ ที่อาจทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้รวมกว่า 6.5 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะกลางถึงยาว ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรผันผวน โดยเฉพาะ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เร่งตัวทะลุระดับ 4.5%
นอกจากนี้มีประเด็นความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์กลับมาอีกครั้ง หลังมีกระแสข่าวว่าอิสราเอล อาจกำลังเตรียมการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ผันผวนก่อนปิดลบ -0.47% ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาในระยะถัดไป
EYES ON
ในสัปดาห์ : ตัวเลขส่งออกไทย เดือน เม.ย.
20 พ.ค. : ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน เดือน พ.ค.
22 พ.ค. : ดัชนี PMI ภาคการผลิต/บริการ ยูโรโซน เดือน พ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 10 พ.ค.
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ