---รอจังหวะกลับเข้าไปรุกอีกครั้ง---
Key Point :
เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ทำให้ TCAP และบ.ในเครือชะลอการทำธุรกิจออกไป และหันมาปรับโครงสร้างภายใน และลดต้นทุน รอจังหวะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวถึงจะกลับเข้ามาอีกครั้ง การขาย บล.ธนชาตให้กับ TTB น่าจะแล้วเสร็จช่วง 3Q68 ไม่มีกำไรพิเศษ แต่ TCAP จะได้เงินประมาณ 3 พันลบ. มาใช้ในการลงทุนใหม่ ๆ ยังคงประมาณการกำไร และคงราคาพื้นฐาน 57 บาท ยังเหลือส่วนต่างพอสมควร นอกจากนี้ TCAP ยังมีปันผลน่าสนใจด้วย แนะนำ “ซื้อ”

 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ทำให้ทั้ง THANI และ TTB ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ดอกเบี้ยหลักของ TCAP มีการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ประกอบกับการชำระคืนของลูกหนี้ ทำให้สินเชื่อของทั้ง 2 แห่ง หดตัวต่อเนื่อง โดยในขณะนี้ทาง TCAP รวมถึงบริษัทในเครืออยู่ระหว่างการปรับปรุงการทำงานภายใน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และการลดต้นทุน โดยหากเศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาจึงจะกลับเข้าไปรุกธุรกิจอีกครั้ง

 TCAP ได้มีการตกลงที่จะขาย บล. ธนชาต ที่ TCAP ถือหุ้น 90% ให้กับ TTB ในขณะนี้ อยู่ระหว่างขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลาง 3Q68 ทาง TCAP อาจจะไม่มีกำไรพิเศษจากการขายครั้งนี้ แต่จะได้เงินประมาณ 3 พันลบ. ซึ่งทาง TCAP นั้นกำลังอยู่ระหว่างการมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ การขาย บล.ธนชาตจะทำให้ TCAP ไม่สามารถรับรู้รายได้จากการ Consolidate งบของ บล.ธนชาตได้เหมือนเดิม แต่จะไปรับรู้ทางอ้อมผ่านทาง TTB แทน ซึ่งอาจจะทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมลดน้อยลงได้จากสัดส่วนการรับรู้รายได้ที่ลดลง เนื่องจาก TCAP นั้นถือหุ้น TTB น้อยกว่าที่ถือหุ้น บล.ธนชาตมาก โดยถือเพียง 24.9% แต่การที่ บล.ธนชาต ไปอยู่ภายใต้ TTB จะสามารถทำให้ TTB มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ครบวงจรมากขึ้น และสามารถจะ synergy ในการทำธุรกิจมากขึ้น ซึ่งจะทำให้รายได้ที่ส่งผ่านมาให้ TCAP มากขึ้นได้

  ยังคงประมาณการกำไรปี 68 ของ TCAP ไว้ที่ 7.4 พันลบ. เพิ่มขึ้น 10.8% y-y โดยคาดว่ากำไรที่เพิ่มขึ้นทั้ง TTB THANI และ MBK จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กำไรของ TCAP เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ TCAP ยังมีจุดเด่นทางด้านเงินปันผล โดยคาดว่าจะมีการจ่าย 3.60 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 7.3% และยังคงราคาพื้นฐาน 57 บาท แนะนำ “ซื้อ”

อดิสรณ์ มุ่งพาลชล
นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ # 18577
โทร: 66 2 635 1700 # 497