ภาวะตลาด : SET Index วานนี้แกว่งในวัน ปิดตลาด +2.08 จุด ที่ 1189.14 ตอบรับ Sentiment บวกจากทางการจีนลดดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีและ 5 ปีลง 0.10% โดยเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 7 เดือน รวมทั้งแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงค์ ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายเงื่อนไขมาตรการ คุณสู้ เราช่วยอย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นจำกัด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยกระตุ้นใหม่ นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิ -323 ลบ. ต่างชาติซื้อสุทธิ +896 ลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• ติดตามการผ่านร่างกม.ลดภาษีของทรัมป์ ซึ่งขณะนี้ทรัมป์ กำลังโน้มน้าวสมาชิกรีพับลิกันให้ผ่านร่างกม.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าการลดภาษีครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลมีหนี้เพิ่ม 3-5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์
• มูดีส์ปรับลดเครดิตธนาคารใหญ่สหรัฐ ตามการลดเครดิตประเทศ ได้แก่ เจพี มอร์แกน เชส, แบงค์ออฟอเมริกา, เวลล์ ฟาร์โก หลังสหรัฐถูกมูดีส์ลดเครดิตจาก Aaa เป็น Aa1…ตลาดเงินสหรัฐผันผวน นักลงทุนขายพันธบัตร; bond yield อายุ 10 ปีเพิ่มแตะ 4.48% ส่งผลให้ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน รถ บัตรเครดิต สูงขึ้น
• สัญญาทองคำ COMEX ปรับขึ้นต่อ 51.10 ดอลลาร์ เป็น 3284.60 US$/ออนซ์ ขณะที่ดัชนีค่าเงิน US$ อ่อนลงเป็น 99.93 เงินบาทแข็งขึ้นเป็น 32.81 บาท/ดอลลาร์ ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนทางลบ ราคาน้ำมันดิบ WTI & BRENT ทรงที่ 62-65 US$/bbl ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ขยับขึ้นเป็น 100.55 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index อ่อนสู่ 1340 (สูงสุดอยู่ที่ 1669)
• EU และ UK ประกาศคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย ขณะที่การเจรจาทรัมป์ -ปูตินยังไม่มีคำมั่นหยุดยิงในยูเครน
• จับตาความเห็นเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ ซึ่งผลสา รวจล่าสุดคาดเฟดลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งๆละ 0.25% ใน 2H68

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ครม.อนุมัติแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กรอบวงเงิน 1.57 แสนลบ. เน้นด้านโครงสร้างพื้นฐาน-พัฒนาท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมืองรอง-ลดผลกระทบด้านการส่งออก-พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน (รวมกองทุน SML)...กลุ่มที่ได้อานิสงค์ เช่น รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง, ขนส่ง, ค้าปลีก, แบงค์ & ไฟแนนซ์ เป็นต้น
• ปัจจัยที่ติดตาม 1. อัตราภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าไปสหรัฐของไทย, 2. ประชุมสภาอภิปรายงบประมาณปี 69 (28-30 พ.ค.) ซึ่งวานนี้ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านลบ.แล้ว, 3. สถานการณ์การเมืองไทย
• หุ้นที่คาดว่ากองทุน TESGX จะให้ความสนใจ ได้แก่ ADVANC (SET ESG Ratings: AAA), BEM (AAA), CPALL (AAA), CPN (AAA), GULF (AAA), KTB (AAA), KBANK (AAA), PTT (AAA), SCC (AAA), AOT (A), DELTA (A), BDMS (A) เป็นต้น

กลุยทธ์ : ระยะสั้นดัชนีมีแนวรับ 1185, 1175 หรือต่ำกว่า ส่วนแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1190, 1200, 1210 สำหรับการลงทุนระยะยะกลาง-ยาว แนะเลือกลงทุนหุ้นพื้นฐานดีที่ Valuation ไม่แพง และหุ้น Big Cap ที่กองทุน TESGX ให้ความสนใจ ซึ่งหุ้น Top Picks ของเดือนพ.ค.เป็น ADVANC, BDMS, BJC, CPALL และ KTB

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : GULF – ผู้บริหารคาดรายได้ปี 68 โต 25% จากทยอย COD โรงไฟฟ้าใหม่ราว 1,500 MW และนำเข้า LNG รองรับการผลิตไฟฟ้าและบริหารต้นทุนก๊าซให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัททยอยเปิด Data center เฟสแรกเปิดเดือนพ.ค.68 และมีแผนขยายเป็น 100-200 MW ภายใน 3 ปีข้างหน้า และจับมือกับ Google ให้บริการ Cloud ซึ่งจะเปิดใน 2H68 บริษัทลงทุนเพิ่มใน KBANK (ล่าสุดถือ 5.23%) ที่คาดว่าจะได้ผลตอบแทนปันผลที่ดี และมี Synergy ทางธรกิจ ราคาเป้าหมายเฉลี่ย IAA consensus อยู่ที่ 61.50 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829