สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(20 พฤษภาคม 2568)------บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ Strategy Update ระบุว่าSET Index กำไร 1Q68 ดีกว่าคาด 6% แต่ยังไร้สัญญาณปรับประมาณการขึ้น

รายงานกำไรบริษัทจดทะเบียนใน SET Index (ไม่รวม PF&REIT และ THAI) งวด 1Q68 ข้อมูลถึงวันที่ 17 พ.ค. 68 คิดเป็น 92% Market Cap ทำกำไรสุทธิรวม 2.61 แสนล้านบาท ขยายตัว 58%QoQ แต่ทรงตัว 3%YoY โดยการเร่งตัวอย่างมาก QoQ มาจากกลุ่ม พลังงานที่กำไรสุทธิขยายตัว 125%QoQ (หนุนจาก PTT กำไรขยายตัว 150%QoQ จากธุรกิจปิโตรฯ โรงกลั่นและธุรกิจน้ำมันรวมถึงกำไรพิเศษจาก Fx และอนุพันธ์ BCP +126 เท่าตัว QoQ จากฐานต่ำและ EGCO พลิกกลับกำไร QoQ จากไม่มีบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ กลุ่มปิโตรฯ กำไรสุทธิขยายตัว 63%QoQ จากการขาดทุนที่ลดลงของ PTTGC ด้านกลุ่มที่กำไรสุทธิขยายตัวเด่นกว่าตลาดทั้ง QoQ และ YoY นำโดย กลุ่มอาหารกำไรสุทธิขยายตัว 68%QoQ หนุนจาก CPF TFG BTG ที่ได้ประโยชน์จากราคาหมูฟื้นตัวและต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง กลุ่ม ICT กำไรสุทธิขยายตัว 223%QoQ และ 42%YoY จากการกลับมากำไรTRUE และการเติบโตของ ADVANC กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์กำไรสุทธิขยายตัว 262%QoQ และ 18%YoY หนุนหลักมาจาก DELTA การเติบโตยอดขายและ GPM รวมถึง SG&A ที่ลดลงตาม Loyalty Fee และกลุ่มรับเหมาฯ กำไรสุทธิขยายตัว 208%QoQ และ 460%YoY มาจาก STECON จากรับรู้รายได้โครงการ GPM สูง ด้านกลุ่มที่หดตัว QoQ และ YoY มาจากกลุ่มอสังหาฯ กำไรหดตัว -19%QoQ และ -11%YoY จากกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยตามกำลังซื้อที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และกลุ่มท่องเที่ยวกำไรหดตัว -51%QoQ และ -12%YoY จาก การเข้าสู่ Low Season โรงแรมในยุโรปของ MINT

กำไร 1Q68 ดีกว่าตลาดคาด แต่ไร้สัญญาณปรับกำไรขึ้น
กำไร 1Q68 โดยหากเทียบเฉพาะบริษัทที่มีคาดการณ์งบจาก Bloomberg Consensus (ไม่รวม PF&REIT) ทั้งสิ้น 140 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน 82% Market Cap ของ SET Index ทำกำไรได้ดีกว่าตลาดคาด 6.3% โดยจำนวนหุ้นที่กำไรดีกว่าตลาดคาด 34% ใกล้เคียงคาด 49% และต่ำกว่าคาดเพียง 18% เท่านั้น โดยกลุ่มที่กำไรดีกว่าคาดมาจากกลุ่มเกษตรและอาหารที่ดีกว่าคาด 14-20% จากกลุ่มเนื้อสัตว์ CPF GFPT TFG กลุ่มวัสดุก่อสร้างดีกว่าคาด 19.3% จาก SCC กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ดีกว่าคาด 20.5% จาก DELTA และ HANA กลุ่มท่องเที่ยวดีกว่าตลาดคาด 34.8% จาก MINT และกลุ่มอสังหาฯ 18.4% จาก SIRI และ WHA ทั้งนี้แม้กำไร 1Q68 อยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่า Consensus คาด แต่กลับเห็นการปรับลด EPS68 ลง -4.2%QTD มาที่ 91.26 บาท/หุ้น ใกล้เคียงคาดการ EPS68 ของเราที่คาด 91.2 บาท/หุ้น โดยสาเหตุหนึ่งมาจากมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะถัดไปที่เผชิญความท้าทายรอบด้าน เช่น กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ที่ยังมีความเสี่ยงจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ กลุ่มท่องเที่ยวจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด กลุ่มค้าปลีกจากกำลังซื้อในประเทศที่ชะลอลง เป็นต้น

กลยุทธ์การลงทุนบน Theme Earnings Play
คาดว่าแนวโน้มการทบทวนประมาณการกำไรบริษัทฯ ยังมีอยู่จากความเสี่ยงของกำแพงภาษีสหรัฐฯ ที่ยังขาดความชัดเจน ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเราบน Theme Earnings Play แนะนำเลือกหุ้นที่แนวโน้มความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดประมาณการต่ำ ขณะที่แนวโน้มกำไร 2Q68 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ชอบ PR9 GFPT ADVANC TRUE TASCO STECON COM7 และ CPALL

Analyst
ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์
Theerasate.p@maybank.com
ชาญชัย พันทาธนากิจ
Chanchai.p@maybank.com

ออมทรัพย์ โง้วศิริ
Aomsub.ngowsiri@maybank.com

บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)
TEL : 02-658-5000