สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(19 พฤษภาคม 2568)--------SINO ครบรอบ 15 ปีการดำเนินธุรกิจ เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ Sino Worldwide ขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน เตรียมปักหมุดเปิดสำนักงานสาขาในอินโดนีเซีย ต่อจากมาเลเซียและเวียดนาม เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมอาเซียนยิ่งขึ้น พร้อมรุกเพิ่มสัดส่วนรายได้จากบริการ
Air Freight และวางแผนขยายคลังสินค้าให้เช่าอีก 1 อาคาร ตอกน้ำผู้นำธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศครบวงจร เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายรายได้ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2572
นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจครบ 15 ปี โดยก้าวต่อไปได้วางแผนขยายธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์ “Sino Worldwide” ผ่านการขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด วางแผนร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์เปิดสำนักงานสาขาในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพและการให้บริการครอบคลุมภูมิภาคอาเซียนยิ่งขึ้น หลังจากได้ร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์เปิดสำนักงานสาขาที่มาเลเซียเมื่อปีที่ผ่านมาและเวียดนามในเดือนเมษายนปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจอินโดนีเซียมีศักยภาพเติบโตสูงและมีสินค้าส่งออกหลากหลายไปยังสหรัฐอเมริกาและภูมิภาคอื่นๆ อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ฯลฯ
ขณะเดียวกัน จะรุกขยายธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศอย่างครบวงจรและนำเสนอบริการที่หลากหลายยิ่งขึ้นแก่ลูกค้า ปัจจุบันการลงทุนขยายธุรกิจมีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการ Air Freight เพิ่มขึ้นเป็น 3% ในปีนี้ จาก 1% ในปีที่ผ่านมา และทยอยลดการพึ่งพารายได้จากธุรกิจบริการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) ในระยะยาว
ส่วนการให้บริการคลังสินค้าให้เช่า มีแผนขยายคลังสินค้าใหม่อีก 1 อาคาร พื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางเมตร ภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ภายในครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยเป็นคลังสินค้าปลอดอากรเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกสินค้า หากดำเนินการแล้วเสร็จบริษัทฯ จะมีคลังสินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 6 อาคาร พื้นที่รวม 33,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมรับมอบ ISO Tank Container เพิ่มเติมอีกจำนวน65 ตู้ในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการรวมประมาณ 400 ตู้ รองรับการขนส่งสินค้าที่เป็นของเหลว เช่น เคมีภัณฑ์ น้ำมันพืช และวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร-ยา เป็นต้น โดยเฉพาะการขยายการให้บริการแก่ลูกค้าในเส้นทางไทย-ยุโรป
“จากแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ จะเสริมความแข็งแกร่งและตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศครบวงจร รวมถึงสร้างการเติบโตแก่บริษัทฯ มุ่งสู่เป้าหมายรายได้แตะ 10,000 ล้านบาทภายในปี 2572 จากปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ 4,300 ล้านบาท เติบโต 16%” นายนันท์มนัส กล่าว