Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

60

 


MOODY’S ขยี้SENTIMENT ตลาด
TOP PICK CPN / CK / PLANB


EXTERNAL FACTOR
GLOBAL INDICES

• MOODY’S RATINGS ได้ปรับลดอันดับเครดิตสหรัฐฯ เหลือ จาก เป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี หลังการขาดดุลงบประมาณที่ต่อเนื่องและมีขนาดใหญ่จะ
ผลักดันให้ภาระหนี้และดอกเบี้ยของรัฐบาลเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกดดันตลาดหุ้นได้
• ในแง่มุมของดอกเบี้ย ปธน. ทรัมป์ ยังคงเรียกร้องให้ FED โดยเร็ว ซึ่งสวนทางกับท่าทีของ FED
• ความคืบหน้าการเจรจาการค้า สหรัฐฯ จะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสำหรับประเทศคู่ค้า “ภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า”


INTERNAL FACTOR
• เช้านี้ จับตาการประกาศตัวเลข GDP ไทยใน 1Q68 คาด +2.9%YOY ผ่านการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ 16 คน(กรอบล่าง +2.5% / กรอบบน +3.5%)อย่างไรก็ตามไตรมาสถัดๆไป BLOOMBERG คาด GDP จะอยู่ระดับ 2.7%, 2.0%,2.2% ซึ่ง HIGHLIGHT ที่ต้องติดตามคือ ไตรมาส 3-4
• ประเด็นดังกล่าว กระทบต่อตัวเลขส่งออก-นำเข้าประจำเดือน เม.ย.68 เช่นกัน โดยBLOOMBERG คาดส่งออก +9.6%YOY(เดือน+17.8%YOY) นำเข้า +7.8%YOY(เดือน+10.2%YOY)

 

INVESTMENT STRATEGY
• ฝ่ายวิจัยฯ รวบรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 1Q68 ทำได้ 2.73 แสนล้านบาท (เติบโต 69%QOQ และ3.4%YOY) และดีกว่าที่ตลาดคาด 3% โดย SECTOR ที่กำไร 1Q68 เติบโตเด่น คือ CONS, ICT, ETRON,TRANS, AGRI, FOOD, BANK เป็นต้น ส่วนรายชื่อหุ้นที่กำไร 1Q68 เติบโตเด่น คือ TRUE, CK, EGCO,DOHOME, OR, BCH, KBANK, BBL, KTB, ADVANC, GPSC, CPN, CPALL, GULF, BEM
• กลยุทธ์แนะนำทยอยสะสมหุ้นที่มีโอกาสเติบโตต่อในช่วง 2Q68 และน่าลงทุนในช่วงนี้ อย่าง กลุ่ม CONMATเลือก SCC, กลุ่ม ETRON เลือก DELTA, KCE กลุ่ม FOOD เลือก OSP, ICHI, กลุ่ม PKG เลือก SCGP, กลุ่มขนส่งเลือก BEM และหุ้นอื่นๆ อย่าง BH, CKP, IVL, PLANB

 

ปัจจัยแวดล้อมยังดูคลุมเครือ
ศุกร์ที่ผ่านมา MOODY’S RATINGS ได้ปรับลดอันดับเครดิตสหรัฐฯ เหลือ จาก เป็นครั้งแรกในรอบ100 ปี หลังการขาดดุลงบประมาณที่ต่อเนื่องและมีขนาดใหญ่จะผลักดันให้ภาระหนี้และดอกเบี้ยของรัฐบาลเพิ่มขึ้นโดย MOODY คาดว่า ภาระหนี้ของรัฐบาลกลางจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 134% ของ GDP ภายในปี 2578 (เทียบกับระดับ 98% ในปี 2567) ขณะที่การชำระดอกเบี้ยของรัฐบาลกลางอาจใช้สัดส่วนถึงประมาณ 30% ของรายได้รัฐบาลภายในปี 2578 (เพิ่มขึ้นจาก 18% ในปี 2567)


เมื่อพิจารณาข้อมูลในอดีต การปรับลดเครดิตเรทติ้งสหรัฐฯ ในเหตุผลที่คล้ายคลึงกัน (กังวลหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ พุ่ง) S&P ได้ DOWNGRADE ในปี 2011 ส่วน FITCH ได้ DOWNGRADE ในปี 2023 กดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากนั้น 1 เดือน ร่วงลงราว -1.3% ถึง -2.1%

 

 

ในแง่มุมของดอกเบี้ย ปธน. ทรัมป์ ยังคงเรียกร้องให้ FED โดยเร็ว ซึ่งสวนทางกับท่าทีของ FED โดยล่าสุดประธานFED สาขาแอตแลนตา คาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เข้าสู่ภาวะ RECESSION และในปี 2025 อาจเห็นการลดดอกเบี้ยแค่ 1 ครั้ง ขณะที่ตลาดฯ ให้น้ำหนักน้อยกว่า 50% คาด FED ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีน

 


สำหรับความคืบหน้าการเจรจาการค้า สหรัฐฯ จะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสำหรับประเทศคู่ค้า “ภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า” โยรัฐมนตรีคลัง SCOTT BESSENT และรัฐมนตรีพาณิชย์ HOWARD LUTNICK จะส่งจดหมายแจ้งประเทศต่างๆ ว่าจะต้องจ่ายภาษีเท่าใดในการทำธุรกิจในสหรัฐฯสรุป ปัจจัยแวดล้อมยังเต็มไปด้วยความไม่นอน ส่งผลให้ราคาทองคำขยับขึ้น กดดันให้ดอลลาร์อ่อนใกล้หลุด 100 ซึ่งน่าจะหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

ปัจจัยในประเทศ ติดตามตัวเลข GDP / ส่งออก-นำเข้า และการเร่งฟื้นเชื่อมั่นลงทุนของ รมต.คลัง
เช้านี้จับตาการประกาศตัวเลข GDP ไทยใน 1Q68 คาด +2.9%YOY ผ่านการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ 16คน(กรอบล่าง +2.5% / กรอบบน +3.5%) อย่างไรก็ตามไตรมาสถัดๆไป BLOOMBERG คาด GDP จะอยู่ระดับ2.7%, 2.0%, 2.2% ซึ่ง HIGHLIGHT ที่ต้องติดตามคือ ไตรมาส 3-4 ที่มีความเสี่ยงจากผลกระทบ TRADE TARIFF
2.0 ซึ่งทำให้ประมาณการ GDP ปีนี้ ยังคงอยูในช่วง +1.0%-2.1%(มีค่าเฉลี่ย +1.5%) ซึ่งกระทบต่อตัวเลขส่งออกนำเข้าประจำเดือน เม.ย.68 เช่นกัน โดย BLOOMBERG คาดส่งออก +9.6%YOY(เดือน+17.8%YOY) นำเข้า+7.8%YOY(เดือน+10.2%YOY)

 


ส่วนประเด็นอื่นที่ต้องติดตาม คือ รมต.คลังเร่งฟื้นเชื่อมั่นการลงทุนหุ้นไทย โดยบ่งชี้ว่าช่วงเวลานี้คือ โอกาสของการลงทุน ทั้งในมุมของเศรษฐกิจไทยที่มีโอกาสเติบโตผ่าน 5 ด้าน ดังนี้
• (+ DATA CENTER, SEMICONDUCTOR, ใช้ไฟฟ้า) ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่ยุคดิจิทัล
• (+ LOGISTIC) รัฐบาลทำโครงการรถไฟทางคู่ไปแล้วเกือบ 1,000 KM. และตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 2,000 KMในเฟส 2, LAND BRIDGE
• (+ อสังหา) เพิ่มสิทธิเช่าที่ดิน 99 ปี
• (+ ส่งออก) เสนอเจรจาภาษีศุลกากรไทย-สหรัฐฯ จาก 5 เป็น 7 ข้อ
• (+ท่องเที่ยว) เล็งออกวีซ่านักท่องเที่ยวระยะยาว 10 ปี

ขณะที่มุมตลาดหุ้นไทยก็มีแรงขับเคลื่อนในอนาคต อาทิ
• จัดตั้ง “กองทุนรวมวายุภักษ์”
• โครงการ THAI ESGX
• โครงการ JUMP+ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปิดตัว ในเดือน มิ.ย.68
• สนับสนุนธุรกิจใหม่ ๆ ที่เข้ามาลงทุนในไทยตลท. และ BOI อยู่ระหว่างการหารือ ในการ
• นโยบาย “TISA” ตลท. และ กลต. กำลังร่วมกันศึกษาความเหมาะสมของการนำแนวคิดนี้มาปรับใช


กำไรงวด 1Q68 ออกมาดีระดับ 2.7 แสนล้านบาท โต YOY และ QOQ
ฝ่ายวิจัยฯ รวบรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 1Q68 ทำได้ 2.73 แสนล้านบาท (เติบโต 69%QOQ และ 3.4%YOY)และดีกว่าที่ตลาดคาด 3% โดย SECTOR ที่กำไร 1Q68 เติบโตเด่น คือ CONS, ICT, ETRON, TRANS, AGRI,FOOD, BANK เป็นต้น ส่วนรายชื่อหุ้นที่กำไร 1Q68 เติบโตเด่น คือ TRUE, CK, EGCO, DOHOME, OR, BCH,KBANK, BBL, KTB, ADVANC, GPSC, CPN, CPALL, GULF, BEM

 


เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ ประเมินหาต่อว่าจะมี SECTOR ไหน และหุ้นตัวไหนที่มีโอกาสเติบโตต่อในช่วง 2Q68 และน่าลงทุนในช่วงนี้ อาทิ กลุ่ม CONMAT เลือก SCC, กลุ่ม ETRON เลือก DELTA, KCE กลุ่ม FOOD เลือก OSP, ICHI, กลุ่ม PKG เลือก SCGP, กลุ่มขนส่งเลือก BEM และหุ้นอื่นๆ อย่าง BH, CKP, IVL, PLANB

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ขุดหุ้น มาเก็งกำไร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย เช้าวันนี้ ปรับตัวลดลง ตามตลาดต่างประเทศ ด้วยมูดี้ส์.....

LEO จับมือพันธมิตรจีน พัฒนาระบบโลจิสติกส์ส่งออกทุเรียนไทย

LEO จับมือพันธมิตรจีน พัฒนาระบบโลจิสติกส์ส่งออกทุเรียนไทย

SNNP รับประกาศนียบัตรรับรองจาก CAC ครั้งแรก ตอกย้ำองค์กรโปร่งใส

SNNP รับประกาศนียบัตรรับรองจาก CAC ครั้งแรก ตอกย้ำองค์กรโปร่งใส

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้