Equality for All
TOP : บมจ.ไทยออยล์
2Q25 คาด GRM ฟื้นตัวและดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง : ผบห. คาดแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในช่วงที่เหลือของปีจะอยู่ระหว่าง 60-70 เหรียญ/ บาร์เรล โดยมีปัจจัยลบที่กระทบคือ OPEC มีการเพิ่มกำลังการผลิตที่เร็วกว่าคาดจากที่มีการลดกำลังการผลิตลง 2.2 ล้านบาร์เรล/ วันก่อนหน้า และคาดจะกลับไปผลิตเท่าเดิมประมาณ ก.ย. 2027 แต่จากการเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าแผนถึง 3 เท่า ทำให้จะกลับมาครบในเดือน ต.ค. 2025 นี้
ภาษีทรัมป์ : ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์การใช้น้ำมันให้ลดลง และการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์สหรัฐ-อิหร่าน หากได้ข้อสรุปจะทำให้อุปทานเพิ่มขึ้นอีกด้วย
แนวโน้ม GRM ของโรงกลั่น : คาดจะดีขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นโดยเฉพาะแก๊สโซลีนและน้ำมันเครื่องบินตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว รวมถึงโรงกลั่นในสหรัฐ และยุโรปมีปิดตัวจากกำไรโรงกลั่นหดตัว ขณะที่น้ำมันกลุ่มดีเซลและน้ำมันเตาคาดได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ลดลงเนื่องจากส่วนใหญ่จะใช้เพื่ออุตสาหกรรมและขนส่งเป็นหลัก โดย 2QTD SGRM อยู่ที่ 5.1 เหรียญจาก 3.16 เหรียญใน 1Q25
กลุ่มปิโตรเคมี : กลุ่มอะโรเมติกส์ คาด PX จะกระทบน้อยกว่า BZ จากอุปทานใหม่เพิ่มน้อยกว่าอุปสงค์ แต่ระหว่างการชะลอการขึ้นภาษีระหว่างสหรัฐ-จีน จะช่วยให้ดีขึ้นช่วงสั้น กลุ่ม Lube base นั้น Base Oil ลดลงจากอุปทานเพิ่มขึ้น ขณะที่ Bitumen สเปรดเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์เพิ่ม
ความเห็น : เราคาดแนวโน้มช่วงที่เหลือของปีธุรกิจหลักยังเห็นการฟื้นตัว เพียงแต่อาจได้รับผลกระทบจากรายการพิเศษขาดทุนสต็อกตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง q-q ซึ่งราคาเฉลี่ย 1Q25 ที่ 76.9 เหรียญ ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ 63.7 เหรียญ/บาร์เรล
ทยอยรับเงินจากการบังคับหลักประกันของโครงการ CFP : ความคืบหน้าของโครงการ CFP นั้น TOP ได้รับเงินจากการบังคับหลักประกันเพิ่มอีกในเดือน เม.ย. และ พ.ค. จำนวน 62 ล้านเหรียญ และ 20 ล้านเหรียญ ซึ่ง TOP จะนำเงินดังกล่าวมาหักต้นทุนงานระหว่างก่อสร้างใน 2Q25
ขณะที่ในส่วนของผู้รับเหมารายใหม่ที่จะมาทำงานต่อจากรายเดิมนั้น คาดจะชัดเจนใน 3Q25 ขณะที่การจัดหาเงินโครงการดังกล่าวจะมาจาก กระแสเงินสดของบริษัท และการออก Perpetual Bond รวมถึงการทำ Asset monetization ซึ่งคาดว่าจะทำในช่วง 2H25 เช่นกัน
พร้อมไปต่อหลังคลี่คลาย
“การดำเนินงาน 1Q25 ยังดีตามคาด ขณะที่แนวโน้ม 2Q25 ธุรกิจหลักคาดฟื้นตัวตาม GRM ที่ดีขึ้นแต่อาจได้รับผลกระทบจากขาดทุนสต็อกมากดดัน อย่างไรก็ตาม โครงการ CFP ที่มีความชัดเจนขึ้นหลัง TOP เดินหน้าหาผู้รับเหมารายใหม่ คาดจะทราบผลอย่างช้าใน 3Q25 นี้ทำให้ทุกอย่างดูคลายกังวลไปได้
กลยุทธ์การลงทุนยังเก็งกำไรตาม GRM ฟื้นตัว, ราคาน้ำมัน และความชัดเจนมากขึ้นในโครงการ CFP ”
ESG Snapshot : TOP เด่นในด้าน ESG ด้วยการพัฒนาโครงการ Clean Fuel Project (CFP) พร้อมสร้างคาร์บอนเครดิตสะสมกว่า 1.31 MtCO2e ผ่านโครงการ T-VER นอกจากนี้ ยังศึกษาการใช้เทคโนโลยี CCS และเชื้อเพลิงทางเลือก เช่น Biomass และ Hydrogen เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero 2060
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th