คาด SET Index แกว่งตัวแคบๆ : หลังทิศทางตัวเลข PPI ออกมาชะลอตัว แต่ประธานเฟดมองด้วยเงื่อนไขทางเศรษฐกิจเปลี่ยนไป และกำแพงภาษี ดอกเบี้ยระยะยาวที่สูงขึ้นอาจเป็นคำตอบ ขณะที่ภายในลุ้นบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจประชุมดัน 12 โครงการใหม่ช่วยเศรษฐกิจไทย ใน 19 พ.ค. นี้

แนวรับ-ต้าน

1,185-1,205

กลยุทธ์การลงทุน
1) Thai ESGX : ADVANC, AMATA, BBL, BTG, GULF, KBANK, KTB, PTT, TTB, WHA
2) ส่งออก : AAI, CPF, DELTA, GFPT, HANA,NER, STA, TFG
3) Domestic Play : CK, STECON, UNIQ, CPALL, BJC, BEM
4) Defensive : BCH, CHG, PR9
5) Short-sell : AAV, AEONTS, BA, CRC, JMT, KTC, SAWAD

ไม่น่าไปไหน รอกำลังใจจากบอร์ดกระตุ้น

  ตลาดแกว่งแคบ PPI สหรัฐชะลอ แต่ พาวเวลล์ ขออย่าวางใจ : ตัวเลข PPI และ Core PPI สหรัฐ ประจำเดือน เม.ย. ออกมาที่ -0.5%และ -0.4% m-m พลิกมาหดตัวหลังเดือน มี.ค. เห็นการขยายตัว แบบ m-m ที่ 0.0% และ 0.4% ตามลำดับ ขณะที่ภาพ y-y ตัวเลข PPI และ Core PPI ขยายตัว 2.4% และ 3.1% ขยายตัวลดลงจากเดือนมี.ค.ที่ 3.4% และ 4% ภาพดังกล่าวยังไม่สร้างความสบายใจในประเด็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางนัก หลังประธานเฟดออกมาให้ความเห็นวานนี้ว่าเงื่อนไขของระบบเศรษฐกิจในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เฟดจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินนโยบายให้เหมาะสม โดยอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้ระดับ 0% นั้นอาจไม่เหมาะสมอีกต่อไป และภายใต้ความไม่แน่นอนจากกำแพงภาษี อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะยาวอาจต้องปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี และ 10 ปี แกว่งตัวแคบบริเวณ 3.98% และ 4.49% ตามลำดับ ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวแคบตาม มองตลาดหุ้นไทยอาจขยับไม่มากระหว่างรอจับตาการเจรจากำแพงภาษีระหว่างไทย-ประธาน USTR ในเวที APEC

  19 พ.ค. นี้ มีทบทวนโครงการใหญ่ : บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เตรียมนัดประชุมในวันที่ 19 พ.ค. นี้ เพื่อเตรียมพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยครั้งใหญ่ เพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวหลังได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษี โดยจะทบทวนมาตรการชุดเดิม 46 โครงการที่กำลังดำเนินการ ซึ่งมีกว่า 12 โครงการใหญ่ที่ยังไม่เริ่มทำ คาดจะมีวงเงินกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยเน้นกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน การท่องเที่ยว และ ส่งเสริมการลงทุน รวมถึงเพิ่มการใช้จ่ายของภาครัฐให้มากขึ้นผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่นโครงการแลนด์บริดจ์ โครงการรถไฟรางคู่สายใต้ และ โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าที่จังหวัดหนองคาย เป็นบวกต่อหุ้น Domestic Stock

  สัปดาห์หน้าจับตา : TH- GDP1Q68, US- S&P Global Services & Manufacturing PMI (May)/ Existing Home Sales (Apr)/ New Home Sales (Apr) , CN- Industrial Production (Apr)/ Unemployment Rate (Apr)/ Retail Sales (Apr), EU- CPI & Core CPI (Apr)/ HCOB Euro Manufacturing PMI (May)

ปัจจัยเพิ่มเติม

  (+) จากกิจกรรม “ตลาดทุนพบภาครัฐ” BOI เผย 1Q68 ได้รับคำขอส่งเสริมการลงทุนรวม 822 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 431,236 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากถึง 97% y-y สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังมองเห็นศักยภาพของไทยท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

  (-) นายกฯ เผยโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟส 3 ต้องรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม ขณะที่รองนายกฯ และรมว.คลัง เผยรัฐบาลมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จาก 2 ประเด็นข้างต้น คาดสร้างความกังวลว่าโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟส 3 จะเกิดขึ้นหรือไม่

  (-) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.68 ที่ 55.4 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

  (-) กลุ่มเอเปค คาดการณ์ว่าปี 68 การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคจะอยู่ที่ 2.6% ชะลอตัวลงจาก 3.6% ในปีก่อนหน้า

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์