14 พ.ค. 2568 14:05:57 72
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (14 พฤษภาคม )-------บมจ. ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย (TATG) ผลงาน Q1/68 กวาดรายได้ 676.50 ลบ. กำไรสุทธิพุ่ง 31% แตะ 13.32 ลบ. สวนทางอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ชะลอตัว รับอานิสงส์การควบคุมต้นทุนและรายได้กลุ่ม Tooling โตเด่น ควบคู่การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เดินหน้าเสริมแกร่งด้วยการลงทุนเครื่องจักรอัตโนมัติรองรับดีมานด์ชิ้นส่วน EV และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม พร้อมตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 68 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% และรักษาอัตรากำไรที่ดีต่อเนื่องดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) หรือ TATG ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ (Tooling) ครอบคลุมถึงการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์สำหรับปั๊มขึ้นรูปโลหะ (Stamping Dies) อุปกรณ์จับยึดเพื่อการตรวจสอบ (Checking Fixtures) อุปกรณ์จับยึดเพื่อการประกอบ (Assembly Jigs) และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แบบปั๊มขึ้นรูปโลหะ (Automotive Press Parts) แบบ One Stop Service เปิดเผยผลการดำเนินงานของ TATG ในงวดไตรมาส 1/68 บริษัทฯ มีรายได้รวม 676.50 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 3.54 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.52 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากลดลงของรายได้ในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จำนวน 2.51 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.44 ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังชะลอตัว และสถาบันการเงินเข้มงวดในการพิจารณาการปล่อยสินเชื่อ ส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องมือ ปรับเพิ่มขึ้นจำนวน 7.63 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.15 ซึ่งเกิดจากมีคำสั่งซื้อของกลุ่มยานยนต์ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 3.16 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเกิดจากการบริหารจัดการที่ดีและสามารถลดลงของต้นทุนทางการเงิน ประกอบกับการควบคุมต้นทุนขาย ต้นทุนบริการ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของต้นทุนวัตถุดิบ ค่าจ้างค่าแรง และต้นทุนเกี่ยวกับพนักงาน รวมทั้ง การลดลงของค่าใช้จ่ายในการขาย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยอดขายที่ปรับตัวลดลงจากหลายปัจจัย สำหรับภาพรวมของยอดการผลิตรถยนต์ในไตรมาส 1/68 จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของกลุ่มรถยนต์นั่งแบบไฟฟ้า ที่มีจำนวนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ BOI ที่ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังวางเป้าหมายในการตั้งให้ประเทศไทยเป็น EVs Hub. และยังคงให้การสนับสนุนกลุ่มรถยนต์แบบ Hybrid (HEV), Plug-in Hybrid (PHEV) และรถยนต์สันดาป (ICE) ที่มีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ตั้งฐานการผลิตอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และมีการแข่งขันในตลาดค่อนข้างสูงกลุ่มบริษัทยังคงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง และได้เตรียมความพร้อมในส่วนของการผลิต เพื่อรองรับการผลิตชิ้นส่วนของรถ EVs ตามการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ด้วยการเตรียมความพร้อมในส่วนของการลงทุนเทคโนโลยีและเครื่องจักรอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ควบคุมต้นทุน รวมถึงเสริมคุณภาพของสินค้าให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทฯ อย่างไรก็ดี ในสภาวะอุตสาหกรรมยังคงมีการแข่งขันที่สูงและต้องการความรวดเร็วแม่นยำในการผลิต การยกระดับมาตรฐานการผลิตจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้นำเข้าเครื่องปั๊มอัตโนมัติ (Progressive) ขนาด 200 ตัน, เครื่อง Laser Cutting จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องจักรอัตโนมัติ (CNC) จำนวน 3 เครื่อง เพื่อรองรับดีมานด์ของงานที่จะมีเข้ามาในอนาคต และรองรับการผลิตที่มีความซับซ้อน อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนจากการผลิตได้เป็นอย่างดี ควบคู่ การมุ่งพัฒนาอย่างยั่งยืน ติดตั้ง Solar Rooftop ขนาด 999.44 KW ครอบคลุม 4 โรงงาน และสามารถลดการปล่อยคาร์บอนรวมได้กว่า 593 ตัน CO2e ในไตรมาสเดียว"TATG มั่นใจในศักยภาพของการบริหารจัดการ คุณภาพของสินค้า และกำลังการผลิต ที่ได้รับมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล สะท้อนจากการรักษาความสามารถของการทำกำไรในไตรมาสแรก ปี 68 ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเติบโตของกลุ่ม Tooling ท่ามกลางความท้าทายของภาพรวมอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ที่กำลังอยู่ในช่วงชะลอตัว บริษัทฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะยาว TATG จะไม่หยุดพัฒนา พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมแม่พิมพ์โลหะ อุปกรณ์จับยึด และชิ้นส่วนยานยนต์ในภูมิภาคเอเชีย เพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้า และมีส่วนแบ่งของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น เตรียมความพร้อมรับดีมานด์ EV คือ S-Curve ใหม่ ของ TATG โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%" ดร.พยุง กล่าวทิ้งท้าย
: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ พรุ่งนี้ ประเทศไทย เข้าสู่ฤดูฝน ตอนนี้แถว รัชดาฯฝนตก อากาศเย็นสบาย นั่งมองหุ้นหลาย....
NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68
Hooninside
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้
ชื่อหรือรหัสของคุณไม่ถูกต้อง
Please, check your email format before submit.
Please, Enter you password.
Please, Enter minimum 3 character.
Please, Enter minimum 6 character.
กรุณากรอกอีเมล์ที่คุณใช้สมัครสมาชิกแล้วกดส่งเมล์