Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

อินโดรามา เวนเจอร์ส รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 ปรับตัวลง โดยมีผลการดำเนินงานที่หลากหลายในแต่ละกลุ่มธุรกิจ ท่ามกลางภาวะซบเซาที่ต่อเนื่องของตลาดเคมีภัณฑ์ทั่วโลก

63

 สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(13 พฤษภาคม 2568)---------บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างต่อเนื่องยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะเดียวกันการปิดซ่อมบำรุงตามแผนและสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยส่งผลกระทบต่อการผลิตในโรงงาน olefin ในประเทศสหรัฐอเมริกาภายใต้กลุ่มธุรกิจ Combined PET (CPET) ส่วนกลุ่มธุรกิจ Indovinya, Fibers และ Indovida (ธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ที่ก่อตั้งใหม่) ซึ่งเป็นธุรกิจเฉพาะทางและมุ่งเน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีผลการดำเนินงานที่น่าพึงพอใจ


อินโดรามา เวนเจอร์ส รายงาน Adjusted EBITDA1 อยู่ที่ 276 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ลดลงร้อยละ 23 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และร้อยละ 30 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยตัวเลขนี้ได้ปรับผลกระทบมูลค่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐ จากพายุฤดูหนาวในสหรัฐฯ แล้ว ผลลัพธ์นี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของธุรกิจ olefins สำหรับโรงงานที่ Lake Charles และ Clear Lake ในสหรัฐฯ ทำให้ปริมาณการผลิตลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และลดลงร้อยละ 6 เมื่อเทียบปีต่อปี ในภาพรวมปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงกดดันต่ออุปสงค์ ขณะที่อัตราค่าระวางเรือระหว่างประเทศที่ลดลงในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาทำให้ราคาสมดุลการนำเข้าลดลงตามไปด้วย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของโมเดลธุรกิจแบบท้องถิ่นเพื่อท้องถิ่น (local-for-local) ของเรา ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจ Combined PET (CPET) มี Adjusted EBITDA ลดลงร้อยละ 43 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และร้อยละ 50 เมื่อเทียบปีต่อปี อยู่ที่ 126 ล้านเหรียญสหรัฐ


ผลประกอบการโดยรวมของกลุ่มบริษัทยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการดำเนินงานที่ยืดหยุ่นของกลุ่มธุรกิจ Indovinya และกลุ่มธุรกิจ Fibers โดยกลุ่ม Indovinya มี Adjusted EBITDA อยู่ที่ 89 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และร้อยละ 18 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยได้รับแรงหนุนจากการประหยัดต้นทุนคงที่และค่าเงินที่อ่อนค่าลงในประเทศบราซิล สำหรับกลุ่มธุรกิจ Fibers มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมี Adjusted EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และร้อยละ 22 เมื่อเทียบปีต่อปี อยู่ที่ 47 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากปริมาณการขายและอัตรากำไรที่สูงขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการของฝ่ายบริหารเพื่อลดต้นทุนและการปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Indovida ซึ่งแยกตัวอิสระออกมาจากกลุ่มธุรกิจ CPET มาเป็นกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ รายงาน Adjusted EBITDA อยู่ที่ 21 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 6 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และร้อยละ 1 เมื่อเทียบปีต่อปี


แม้ว่าอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์จะยังคงเผชิญกับภาวะถดถอยที่รุนแรงที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อินโดรามา เวนเจอร์ส ยังคงได้รับประโยชน์จากมาตรการ ‘พึ่งพาตนเอง’ (self-help) ที่เข้มงวดภายใต้การปรับโครงสร้างตามกลยุทธ์ IVL 2.0 ที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจและใช้ประโยชน์จากขนาดและความเป็นผู้นำของบริษัทฯ เพื่อคว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างระยะยาวในอุตสาหกรรม โดยมาตรการเหล่านี้ช่วยลดต้นทุนคงที่ได้ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และ 28 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบปีต่อปี โดยส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มประสิทธิภาพของสินทรัพย์และมาตรการบริหารจัดการอื่นๆ ส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 416 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้บริษัทสามารถลดหนี้สินสุทธิได้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดือนธันวาคม 2567 ตอกย้ำวินัยทางงบดุลที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ โครงการด้านดิจิทัลของอินโดรามา เวนเจอร์ส ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน ร้อยละ 95 ของข้อมูลถูกรวบรวมไว้บนแพลตฟอร์มและภูมิภาคต่างๆ การสนับสนุนการใช้ AI และเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัยเพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำในด้านซัพพลายเชน การจัดซื้อ และการบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียน


ตามที่ได้ประกาศในงานประจำปี Capital Markets Day ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อินโดรามา เวนเจอร์ส กำลังปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อสร้างเส้นทางการเติบโตครั้งใหม่ในระยะยาว ภายใต้ภูมิทัศน์อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยกลยุทธ์นี้รวมถึงการสร้างพันธมิตรเชิง

กลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากตำแหน่งผู้นำร่วมกันเพื่อรวมตลาดที่อิ่มตัว หรือขยายกำลังการผลิตในตลาดเกิดใหม่ที่มีการเติบโตที่น่าสนใจในประเทศแอฟริกา และประเทศอินเดีย ขณะที่ยังคงรักษาวินัยทางการเงินผ่านการลดหนี้และบริหารเงินทุนอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะเสร็จสิ้นการเข้าถือหุ้นร้อยละ 24.9 ในบริษัท EPL ภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ความสามารถของอินโดรามา เวนเจอร์ส ในการเป็นผู้ผลิตในท้องถิ่นของตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการค้าแบบข้ามพรมแดน และเป็นเกราะป้องกันจากมาตรการภาษีนำเข้าใหม่

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า “เราจะยังคงมุ่งเน้นในการดำเนินมาตรการแบบพึ่งพาตนเองที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และเพิ่มประสิทธิภาพของฐานการผลิตชั้นนำของเราในทุกตลาด ผมมั่นใจว่ามาตรการเชิงรุกเหล่านี้ ไม่เพียงช่วยให้เราผ่านวัฎจักรขาลงในครั้งนี้ แต่ยังวางรากฐานให้เราคว้าโอกาสการเติบโตในระยะยาวจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างได้อีกด้วย”

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

วันขาย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ขายเมื่อมีข่าวดี วันนี้ วันขาย ท่ามตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น ตอบรับข่าวดี สหรัฐกับจีน ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้