Stecon Group (STECON TB)
ฟื้นตัวต่อเนื่อง
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับหุ้น STECON โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 9.00 บาท แนวโน้มการเติบโตยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 1Q68 จะฟื้นตัวทั้ง YoY และ QoQ และคาดว่ากำไรจะเติบโต YoY ต่อเนื่องในทุกไตรมาสที่เหลือของปี 68 หนุนโดยอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ปรับดีขึ้น และไม่มีส่วนแบ่งขาดทุนอีกต่อไป เราคาดกำไรสุทธิปี 68-70 สูงกว่าคาดการณ์ตลาด 17-36% และเชื่อว่าตลาดมีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการขึ้นหลังไม่มีการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนตั้งแต่ 2Q68 เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นเพิ่มเติม ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ระดับ PBV ปี 68 เพียง 0.6 เท่า (-1.2SD จากค่าเฉลี่ย 7 ปี) ซึ่งถือว่าน่าสนใจ
คาดกำไรสุทธิ 1Q68 ฟื้นตัวทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดว่า STECON จะรายงานกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ 256 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจาก 12 ล้านบาทใน 1Q67 และขาดทุน 1,158 ล้านบาทใน 4Q67) ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการเดิมของเรา โดยการฟื้นตัว YoY ได้แรงหนุนจากรายได้งานก่อสร้างที่เร่งขึ้น GPM ฟื้นตัวจากสัดส่วนโครงการที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น ส่วนแบ่งขาดทุนลดลงจากจำนวนผู้โดยสาร MRT สายสีชมพูและเหลืองที่ดีขึ้น และมีการรับเงินปันผลจาก GULF ใน 1Q ที่ 220 ล้านบาท (ปกติรับใน 2Q) ส่วนการฟื้นตัว QoQ ได้แรงหนุนจาก GPM ที่แข็งแกร่งขึ้น ส่วนแบ่งขาดทุนที่ลดลง และรายได้จากเงินปันผล GULF
รายได้เติบโตแข็งแกร่ง พร้อม GPM ฟื้นกลับสู่ระดับปกติ
ใน 1Q68 เราคาดว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ 7.7 พันล้านบาท (+19% YoY, ทรงตัว QoQ) หนุนโดยการรับรู้รายได้จากงานในมือใหม่ (เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์) และการเร่งงานในโครงการที่ดำเนินอยู่ เช่น MRT สายสีม่วงและสีส้ม โรงไฟฟ้าของ GULF และโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์ ขณะที่ GPM คาดว่าจะปรับดีขึ้นเป็น 6.1% (เทียบกับ 5.9% ใน 1Q67 และ -13.0% ใน 4Q67) จากสัดส่วนโครงการที่มีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น และไม่มีแรงกดดันต้นทุนจากโครงการบึงหนองบอน นอกจากนี้ เราคาดว่าส่วนแบ่งขาดทุนจะลดลงเหลือ 120 ล้านบาท (จาก 146 ล้านใน 1Q67 และ 130 ล้านใน 4Q67) จากจำนวนผู้โดยสาร MRT ที่ฟื้นตัว
คาดส่วนแบ่งขาดทุนจะหมดไปตั้งแต่ 2Q68 เป็นต้นไป
STECON ระบุว่าส่วนแบ่งขาดทุนมีแนวโน้มที่จะหายไปตั้งแต่ 2Q68 เป็นต้นไป หลังจากที่ผู้บริหารได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการในโครงการ MRT สายสีเหลืองและสีชมพู ซึ่งจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนรายการลงทุนในโครงการ MRT เหล่านี้ จากการบันทึกแบบบริษัทร่วม (วิธีส่วนได้เสีย) เป็นสินทรัพย์ทางการเงิน เราคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q68 จะเติบโต YoY จาก GPM ที่กลับสู่ระดับปกติและไม่มีส่วนแบ่งขาดทุน แม้ว่ากำไรอาจลดลง QoQ เนื่องจากฐานสูงจากเงินปันผล GULF ใน 1Q ทั้งนี้ กำไร 1Q68 ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดสูงสุดของปี คิดเป็น 32% ของประมาณการกำไรทั้งปี 68 ที่ 790 ล้านบาท เราจึงคงประมาณการเดิมสำหรับทั้งปีไว้เช่นเดิม
Nontapat Sahakitpinyo
nontapat.sahakitpinyo@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 2352