Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

“ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนคงอยู่ในเกณฑ์ ‘ซบเซา’ นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเงินทุนไหลเข้า ปัจจัยฉุดคือสงครามการค้าและความขัดแย้งระหว่างประเทศ”

63

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (8 พฤษภาคม )-------นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนเมษายน 2568 (สำรวจระหว่างวันที่ 21-30 เมษายน 2568)  พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้ายังคงอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ที่ระดับ 64.10 นักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการไหลเข้าของเงินทุน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สงครามการค้า รองลงมาคือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และสถานการณ์การเมืองในประเทศ

 

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) สำรวจในเดือนเมษายน 2568 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้

  • ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (กรกฎาคม 2568) อยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” (ช่วงค่าดัชนี 40-79) ที่ระดับ 10
  • ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคล กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ในขณะที่กลุ่มกลุ่มนักลงทุนสถาบัน อยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง”
  • หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดธนาคาร (BANK)
  • หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดยานยนต์ (AUTO)
  • ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
  • ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สงครามการค้า

 

            ผลสำรวจ ณ เดือนเมษายน 2568 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคลปรับเพิ่ม 9.9% อยู่ที่ระดับ 42.65 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 60.00 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับเพิ่ม 17.7% อยู่ที่ระดับ 130.77 และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศทรงตัวอยู่ที่ระดับ 66.67

 

 

            ในเดือนเมษายน 2568 ตลาดทุนไทยเผชิญกับความผันผวนอย่างมากจากทั้งการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ การที่เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวช้า ภาคการท่องเที่ยวไม่เติบโตตามคาด รวมถึงการที่ Moody’s rating ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเป็นเชิงลบ (Negative Outlook) จากเดิมที่มีเสถียรภาพ (Stable Outlook) อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงหนุนจากการที่ กนง. ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% โดย SET Index ณ สิ้นเดือนเมษายน 2568 ปิดที่ 1,197.26 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.4% จากเดือนก่อนหน้า ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนเมษายน 2568 อยู่ที่ 42,025 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 14,588 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี 2568 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 54,567 ล้านบาท

 

            ปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตามได้แก่ นโยบายการค้าของสหรัฐฯ รวมถึงมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ระหว่างสหรัฐฯและประเทศเศรษฐกิจหลัก การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศทั้งในรัสเซีย-ยูเครนที่ยังไม่คลี่คลาย และความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานในบริเวณแคว้นแคชเมียร์กลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง  ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ การเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ การเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นไทยภายในเดือน พ.ค.—มิ.ย. 2568 ผ่านการสับเปลี่ยนกองทุน LTF มายังกองทุน ThaiESGX  และเปิดให้ลงทุนเพิ่มในกองทุน ThaiESGX เพื่อลดหย่อนภาษีปี 2568 ผ่านการลงทุนใน ThaiESGX ได้สูงสุด 6 แสนบาท”

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

เฟด คงดอกเบี้ย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย พัก แบบปรับฐาน ในเช้าวันนี้ หลังจากวานนี้ ดัชนฯพุ่งแรง ประกอบกับ เฟด ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้