สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 8 พฤษภาคม 2568)------ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) LPN รายงานงบการเงินรวมไตรมาส1/68 มีกำไรสุทธิ 20.41 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 83.55 ล้านบาท

ในไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทจำนวน 20.42 ล้านบาท แม้ว่าจะลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 83.55 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลงร้อยละ 75.56 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 115.55 ล้านบาท บริษัทสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงการฟื้นตัวของผลประกอบการในระยะสั้น

รายได้รวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1,532.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,413.22 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.45 แต่ลดลงจาก 2,033.60 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หรือลดลงร้อยละ 24.64 การลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเป็นผลจากลักษณะการรับรู้รายได้ที่กระจุกตัวจากการส่งมอบโครงการอสังหาริมทรัพย์บางส่วนในช่วงปลายปีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 895.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.96 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ลดลงร้อยละ 36.00 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า รายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการอยู่ที่ 88.34 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8.15เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 2.57 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าออกไปในช่วงปี 2567 เพิ่มเสริมสภาพคล่อง ขณะที่รายได้จากการรับจ้างบริหารจัดการอยู่ที่ 545.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.23จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 0.71 จากไตรมาสก่อนหน้า

อัตรากำไรขั้นต้นรวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ร้อยละ 21.39 ลดลงจากร้อยละ 25.80 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 14.27 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า การฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นสะท้อนถึงการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น แม้บริษัทยังคงใช้นโยบายด้านราคาที่แข่งขันได้เพื่อเร่งระบายสินค้าคงเหลือ

ค่าใช้จ่ายขายและบริหารรวมอยู่ที่ 262.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 231.14 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.38 แต่ลดลงจาก 366.02 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้าหรือลดลงร้อยละ 28.40 โดยการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีสาเหตุมาจากค่าใช้จ่ายขายที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.09 ขณะที่ค่าใช้จ่ายบริหารลดลงร้อยละ 4.97 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การลดลงของค่าใช้จ่ายเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าสะท้อนถึงการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังจากมีการใช้จ่ายสูงในช่วงปลายปี

บริษัทมีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 5.88 ล้านบาท ลดลงจาก 12.82 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลงร้อยละ 54.11 และลดลงจาก 8.28 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า หรือลดลงร้อยละ 28.96 ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของผลประกอบการในบริษัทร่วม

กำไรจากการดำเนินงาน (EBIT) อยู่ที่ 62.70 ล้านบาท ลดลงจาก 125.18 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นลดลงร้อยละ 49.91 แต่ปรับตัวดีขึ้นจากการขาดทุน EBIT 82.14 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 67.96 ล้านบาท ลดลงจาก131.13 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลงร้อยละ 48.17 แต่พลิกกลับจากการขาดทุน EBITDA 77.03 ล้านบาทในไตรมาสก่อนอัตรากำไรสุทธิรวมอยู่ที่ร้อยละ 1.43 ลดลงจากร้อยละ 6.05 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรสุทธิส่วนของบริษัทต่อรายได้รวมอยู่ที่ร้อยละ 1.33 ลดลงจากร้อยละ 5.91 แต่ทั้งสองตัวชี้วัดฟื้นตัวจากการขาดทุนสุทธิร้อยละ 5.52 และ 5.68ตามลำดับในไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับยอดขายรวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ประมาณ 1,554 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนร้อยละ 76 จากโครงการอาคารชุดพักอาศัย และร้อยละ 24 จากโครงการบ้านพักอาศัย ณ สิ้นไตรมาส บริษัทมี Backlog จำนวน 1,529 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2568 ถึง2569 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 4 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยและสร้างการเติบโตในระยะยาว

ด้านยอดขายรอโอน (Backlog) จำนวน 1,529ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2568-2569