คาด SET Index แกว่งตัว Sideways to sidewaysup: แรงหนุนจากความหวังที่สหรัฐฯกับจีนจะมีการพูดคุยกัน และลุ้นจีนแถลงนโยบายการเงินเช้านี้อีกทั้ง ยังมีแรงหนุนจากราคาน้ามันดิบที่ฟื้นตัวหากแต่ถูกลดทอนลงด้วยนโยบายภาครัฐในประเทศและการรอติดตามผลการประชุม FOMC ในคืนนี้
แนวรับ-ต้าน
1,180 –1,200
กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งงบ 1Q68: BCH, BDMS, BEM, GFPT,OR, STECON, TRUE, TTW
2) Thai ESGX: ADVANC, AMATA, BBL, GULF,KBANK, KTB, PTT, SCB, TTB, WHA
3) ราคาสุกรมีแนวโน้มสูงข้ึน: BTG, CPF, TFG
4) Selective: BCP, BH, PR9, PT, TVO
พลิกผันกลับตาลปัตร
สัญญาณดีจากสหรัฐฯกับจีน: คาด Sentiment เชิงบวกมาจากก้าวสำคัญของ 2 เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่จะเริ่มเจรจาเพื่อคลี่คลายสงครามการค้า หลังสหรัฐฯเผยว่ารมต.คลังและผู้แทนการค้าสหรัฐฯจะพบกับผู้แทนของจีนระหว่างการเยือนสวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้เพื่อหารือเรื่องเศรษฐกิจและการค้า สอดรับกับจีนที่เผยว่ารองนายกฯเหอ หลี่เฟิง จะพบกับรมต.คลังสหรัฐฯที่สวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ติดการแถลงของ PBOC และหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของจีนในวันนี้เกี่ยวกับแพ็คเกจนโยบายการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดและความคาดหวัง ซ่งึอาจเป็นอกี Sentiment ทางบวก
ราคาน้ำมันดิบพลิกฟื้น: คาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะได้ Sentimentหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น 3.43% ปิดที่ $59.09 ต่อบาร์เรล ท่ามกลางแรงหนุนจาก 1) ความหวังต่ออุปสงค์จากจีน หลังจีนเผยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดวันแรงงาน เพิ่มขึ้น8% y-y 2) รายงานที่ว่าบริษัทพลังงานหลายแห่งของสหรัฐฯ รวมถึงDiamondback Energy และ Coterra Energy ประกาศว่าจะลดแท่นขุดเจาะน้ำมัน และ 3) สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังจากอิสราเอลใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเมืองหลวงของเยเมน
นโยบายในประเทศพลิกเป็นแรงฉุด: มองทางขึ้นถูกลดทอนลงจากความผิดหวังที่โครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟส 3 (ส าหรับกลุ่มวัยรุ่น)ยังไม่ได้เข้าสู่ที่ประชุมครม.วานนี้ แม้รมช.คลังยืนยันว่าจะเป็นไทมไลน์เดิมคือเริ่มใช้จ่ายได้ภายใน 2Q68 แต่จากนโยบายการค้าของสหรัฐฯที่มีความไม่แน่นอนสูง อาจส่งผลให้รัฐบาลต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบายทางเศรษฐกิจและส่งผลให้เกิดความกังวลว่าโครงการข้างต้น โดยเฉพาะสำหรับวัยทำงานจะเกิดขึ้นหรือไม่นอกจากนี้จากการที่ที่ประชุมกพช.สั่ง ให้เจรจากับเอกชนที่กกพ.ประกาศชื่อให้เป็นผู้ได้รับสิทธิขายไฟฟ้า2,180 เมกะวัตต์ เพื่อปรับลดอัตราการรับซื้อไฟฟ้าลง และชะลอการรับซื้อในส่วน 1,488 เมกะวัตต์คาดเป็น Sentiment ทางลบต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า จากการที่จะส่งผลให้การเพิ่มกำลังการผลิตทำได้ยากขึ้น
ติดตามทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐฯ: มองอีกแรงจำกัดทางขึ้นมาจากการที่นักลงทุนยังรอติดตามผลการประชุม FOMC และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดคืนนี้ โดยตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25-4.5%
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)ครม.อนุมัติงบฯปี FY68 งบกลาง วงเงิน 2,050 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ 17 จังหวัด
(+) ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกหนดหลักเกณฑ์และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเพิ่มจาก 50% เป็น 60% รวม 180 วัน เพื่อบรรเทาภาระการดำรงชีพของผู้ประกันตนจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
(+)ที่ประชุมกพช.เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้างวดเดือนก.ย.-ธ.ค.68 เป็น3.99 บาท/หน่วย โดยรัฐบาลจะคงอัตราการค่าไฟฟ้า 3.99 บาท/หน่วย ให้ได้จนถึงสิ้นปีเว้นแต่มีการเปลี่ยนแปลงราคาต้นทุนพลังงานอย่างมีนัยสำคัญทางฝ่ายมองเป็นการช่วยลดแรงกดดันต่อการดำรงชีพของผู้บริโภค
(-) จีนเผยช่วงวันหยุดวันแรงงาน 5 วัน นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางภายในประเทศประมาณ 314 ล้านครั้งซึ่งเพิ่มขึ้น 6.4% y-y ทางฝ่ายมองเป็นหนึ่งในภาพ
สะท้อนว่านักท่องเที่ยวหันไปท่องเที่ยวในประเทศทดแทนต่างประเทศ รวมถึงไทย
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์