สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(6 พฤษภาคม 2568)---บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)ADVANC เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2568บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,584 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปีก่อน และเติบโตร้อยละ 14 จากไตรมาสก่อน จากการด าเนินงานที่แข็งแกร่ง ค่าเสื่อมราคาที่ลดลงจากการตัดค่าเสื่อมราคาเต็มจำนวนของสินทรัพย์โครงข่าย 3Gและบริหารจัดการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ

ในไตรมาส 1/2568 กำไร EBITDA อยู่ที่ 30,051 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 7.4เมื่อเทียบกับปีก่อน และเติบโตร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้การให้บริการหลักและการบริหารต้นทุนอย่างรอบคอบอัตรากำไร EBITDA อยู่ที่ร้อยละ 53.4 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 51 ในไตรมาส4/2567 จากการมุ่งเน้นรายได้ที่สร้างกำไรและการเติบโตอย่างมีคุณภาพ

ในไตรมาส 1/2568 เอไอเอสมีรายได้รวมอยู่ที่ 56,311 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ5.7 เมื่อเทียบกับปีก่อนจากการเติบโตของทุกธุรกิจหลัก ขณะที่รายได้รวมลดลงร้อยละ -0.7 จากไตรมาสก่อนตามรายได้โทรศัพท์เคลื่อนที่และรายได้จากการขายอุปกรณ์ที่อ่อนตัวลงจากปัจจัยตามฤดูกาล

ในไตรมาส 1/2568 เอไอเอสมี ARPU เฉลี่ยเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของการสมัครใช้แพ็กเกจมูลค่าสูงและการสมัครบริการเสริม อาทิ บริการด้านวิดิโอและความบันเทิง เป็นต้น

พร้อมกันนี้ คาดการณ์รายได้จากบริการหลักยังคงเติบโตที่ระดับร้อยละ3 ถึง 5ในปี 2568 การเติบโตสำหรับรายได้จากการให้บริการหลักยังคงมุ่งเน้นที่คุณภาพ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่า ร่วมกับยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง แนวปฏิบัติดังกล่าวมุ่งเน้นที่จะช่วยรักษาแนวโน้มการเติบโตท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาคและสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อ GDP ของประเทศไทยและกำลังซื้อของผู้บริโภค ทั้งนี้ เอไอเอสมีมุมมองเชิงระมัดระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปี โดยกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนรายได้จากการให้บริการมีดังนี้

• โทรศัพท์เคลื่อนที่: มุ่งเน้นรักษาความเป็นผู้นำด้านคุณภาพของโครงข่าย ยกระดับการใช้งาน 5G อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงนำเสนอบริการเสริมและคอนเทนต์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ควบคู่ไปกับการส่งมอบบริการดิจิทัลที่เหนือระดับ ขณะที่การแข่งขันในตลาดมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ใช้บริการ

• อินเทอร์เน็ตควำมเรว็สงู: กลยุทธ์มุ่งเน้นการขยายฐานผู้ใช้บริการในพื้นที่ใหม่ ควบคู่กับการเพิ่ม ARPU ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้านนวัตกรรมและการเชื่อมต่อที่เหนือกว่าบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วไป โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อส่งมอบคุณภาพบริการที่เหนือกว่า

• บริการลูกค้าองค์กร: มุ่งเน้นการให้บริการเชื่อมต่อและคลาวด์โดยใช้ความสัมพันธ์กับฐานลูกค้าที่มีอยู่เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เสริมที่แตกต่าง โดยเฉพาะโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย 5G เพื่อตอบรับกระแสการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล กลยุทธ์นี้จะช่วยผลักดันการเติบโตอย่างมีกำไร พร้อมตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้าองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กำไร EBITDA เติบโตประมาณร้อยละ3 ถึง 5 จากการมุ่งเน้นความสามารถในกำรทำกำไร
การเติบโตของ EBITDA จะสอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากการให้บริการและการขาย ควบคู่ไปกับการควบรวม TTTBB ในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ
เอไอเอสยังคงให้ความสำคัญต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการใช้ประโยชน์จากการควบรวมกิจการ โดยอาศัยความได้เปรียบจากการประหยัดต่อขนาด(Economies of Scale) และการปรับปรุงการบริหารต้นทุน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการท าก าไร นอกจากนี้ เอไอเอสยังคงลงทุนในระบบไอที การพัฒนาโครงข่ายให้ทันสมัย

และการผสานบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้เป็นระบบเดียวภายในปี 2569 แนวทางดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาผลประกอบการที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว พร้อมส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน

ตั้งเป้างบลงทุนระหว่าง26,000 ถึง27,000 ล้านบาท เพื่อเสริมควำมแข็งแกร่งของโครงข่ายและใช้ในการควบรวมกิจกำรให้เสร็จสมบรูณ์

กลยุทธ์การลงทุนจะมุ่งเน้นที่ผลตอบแทนที่คุ้มค่า เพื่อรักษาทั้งคุณภาพและความเป็นผู้นำด้านโครงข่าย โดยงบประมาณการลงทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงโครงข่ายและอุปกรณ์ให้ทันสมัย ค่าใช้จ่ายในการควบรวมกิจการ และโครงการน าสายสื่อสารลงใต้ดิน สำหรับการจัดสรรงบลงทุนยังมุ่งเน้นที่บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามมาด้วยลงทุนในบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และส่วนที่เหลือสำหรับบริการลูกค้าองค์กรและอื่น ๆ

*ประมาณกำรดังกล่าวไมร่วมกรณีกำรประมูลคลื่นความถี่ และเป็นประมาณการบนสมมติฐำนที่ยังมีข้อตกลงกับ NT บนคลื่น 2100 MHz จนถึงสิ้นปี2568

มุมมองของผ้บูริหาร ไตรมำส 1/2568 เหตุผลประกอบรายได้จำกกำรให้บริการหลักเติบโตประมาณร้อยละ 3 ถึง 5 เติบโตร้อยละ 6.3

• บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังรักษาการเติบโตโดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเติบโตของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและความต้องการของกลุ่มบริการลูกค้าองค์กรที่อยู่ในระดับสูงกำไร EBITDA เติบโตประมาณร้อยละ 3 ถึง 5 เติบโตร้อยละ 7.4

• สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจหลัก ร่วมกับการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการใช้จ่ายอย่างรอบคอบงบประมำณกำรลงทุน(ไม่รวมคลื่นความถี่)
ประมาณ 26,000 ถึง 27,000 ล้านบาท 4,097 ล้านบาท

• งบประมาณการลงทุนเป็นไปตามแผนงาน

เอไอเอสมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว และส่งมอบผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นมาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง เอไอเอสจึงให้ความสำคัญต่อการรักษาสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง และมีความคล่องตัวเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต นโยบายการจ่ายเงินปันผลจะจ่ายไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของก าไรสุทธิ โดยนโยบายการจ่ายเงินปันผลนี้จะทำาให้เอไอเอสมีกระแสเงินสดเพื่อเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเป็นผู้นำตลาด ความสามารถในการแข่งขัน และโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ รวมถึงพร้อมรับต่อสภาวการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลง