Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

69

 


AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งออกข้าง
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

Market Strategy
คาด SET Index แกว่งตามกรอบ 1190-1210 จุด แรงหนุนจากสถานการณ์ภาษีสหรัฐฯที่ใกล้ได้ข้อสรุปบางประเทศ แต่ถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลง หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ TASCO และ OSP

ประเด็นต่างประเทศบวกลบผสมผสาน โดยปัจจัยบวกมาจากการการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯเดือน เม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 1.77 แสนตำแหน่ง ดีกว่าตลาดคาด 1.33 แสนตำแหน่ง และการรายงาน ISM ภาคบริการเดือน เม.ย. อยู่ที่ 51.6 ดีกว่าคาด 50.2 ลดความกังวลต่อเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐฯ รวมถึงสถานการณ์ภาษีที่ รมว.คลังสหรัฐฯ เผยว่าน่าจะได้ข้อตกลงบางประเทศสอดรับกับคุณทรัมป์เผยว่าข้อตกลงจะเกิดเร็วสุดในสัปดาห์นี้ ส่วนสถานการณ์กับจีนล่าสุดจีนเผยว่ากำลังพิจารณาเจรจากับสหรัฐฯ หนุนดัชนี MSCI Asia Ex Japan วานนี้ปรับขึ้น 0.8% ซึ่งน่าจะเป็น Sentiment บวกต่อ SET Index แต่จะถูกลดทอนจากปัจจัยลบของน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับลง 1.7% กดดันจากการเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC+ เดือน มิ.ย. อีก 4.11 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันเพิ่มความกังวลต่อฝั่งอุปทานที่เร่งตัวขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มน้ำมันPTTEP BCP แต่เป็นบวกต่อ TASCO OR SCC เป็นต้น
ด้านปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้น่าจะให้น้ำหนักไปที่การรายงานงบ 1Q68 ของหุ้นในภาค Real Sector จึงคาดว่าจะเห็นแรงเก็งกำไรกับหุ้นรายตัวที่ผลประกอบการ 1Q68 โดดเด่นและ Valuation ไม่แพง โดยในเชิงกลยุทธ์เราชอบ WHA OSP PR9 และ GFPT ส่วนการรายงานงบวันนี้บริษัทฯ ที่จะรายงานอาทิ ADVANC CPN และ 3BBIF

ประเด็นที่ติดตามวันนี้อยู่การประชุม ครม. ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะมีการพิจารณา Digital Wallet เฟส 3 สำหรับผู้มีอายุระหว่าง 16-20 ปี จำนวน 2.7 หมื่นคน วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท , การประชุม กพช. แนวทางกำหนดค่าไฟเดือน ก.ย.-ธ.ค.68 และการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมตามแผนผลิตปี 2566-2573

 

Market Summary
SET ดีดแรง 17 จุด ก่อนจะถูกแรงขายระหว่างวันสุดท้ายปิดบวกเหลือ 1.7 จุด หุ้นที่บวกเด่นยังนำโดยอิเล็คทรอนิกส์จาก DELTA +3.3% ตามด้วยกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากภาษีสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลายลงจากจีนเผยกำลังพิจารณาเจรจากับสหรัฐฯหนุนกลุ่มนิคม WHA +2% AMATA +6.8% กลุ่มบรรจุภัณฑ์ SCGP +2.8% SCC +0.3% IVL +1.6% กลุ่มขนส่ง AOT +0.7% จากข่าวได้รับชำระเงินค่าสัมปทานจาก KPD และ KPS ในเดือน พ.ค.68 ซึ่งส่งผลให้การชำระเงินจะกลับมาสู่ภาวะปกติ ลดความเสี่ยงต่อการตั้งสำรองหนี้ ส่วนกลุ่มที่ปรับลง กลุ่มไฟแนนซ์ -1.2% กลุ่มธนาคาร -0.5% รับเหมาฯ -1.7%


DAILY Stock Pick
TASCO
ต้นทุนน้ำมันปรับตัวลดลง
งบลงทุน 1Q68 โตเด่น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 16.50 บาท
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงแรง 2%WTD หลังจาก OPEC+มีมติเห็นชอบให้มีการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันอีก 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มการผลิตติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง โดยราคาน้ำมันดิบปรับลดลง มองเป็น sentiment บวกต่อ Tasco ที่อาจทำให้การจัดหา Feedstock ทำได้ดีขึ้นเมื่อเทียบปีก่อน
งบเบิกจ่ายลงทุนของกระทรวงคมนาคม ประจำงวด 1Q68 (ม.ค-มี.ค 68) อยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท (+89.7%YoY) หนุนจากการเบิกจ่ายที่ล่าช้าของรัฐบาลในปีก่อน ระยะถัดไปจะได้ประโยชน์จากการเร่งขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ภาครัฐฯ เพื่อประคองเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อปริมาณการใช้ยางมะตอยภายในประเทศ เราคาดกำไร 68 ขยายตัว 16.6% มี dividend yield สูง 8.5% ต่อปี

 

WEEKLY Stock Pick
OSP
งบ 1Q68 เติบโตดี
ผสานส่วนแบ่งการตลาดฟื้นตัวต่อเนื่อง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 18.70 บาท
OSP คาดกำไร 1Q68E ขยายตัว 51%YoY และ 120%QoQ จากกำไรขั้นต้นที่คาดว่าจะทำจุดสูงสุดที่ 40% หนุนจากสัดส่วนยอดขายต่างประเทศและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังมีสัญญาณบวกจากการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มในประเทศที่ปรับตัวขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน ล่าสุด มี.ค. 68 อยู่ที่ 44.9% ปรับตัวจากจุดต่ำสุดเมื่อ ธ.ค.67 ที่ 44.5% เนื่องจากปรับกลยุทธ์ M-150 ขวด 10 บาทที่กระแสตอบรับดี ขณะที่เดือน เม.ย. การกระจายสินค้าฝาเหลืองจะครอบคลุมมากขึ้น เป็นปัจจัยที่ทำให้โอกาสการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดยังมีต่อเนื่อง
เราคาดกำไรปี 68 เติบโต 9%YoY ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER 14.3 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง -2.1 S.D.) พร้อมปันผลปี 68 ที่สูง 7.6% เป็นปัจจัยช่วยจำกัด Downside ราคาหุ้น


KEY FACTOR
ช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ ตลาดหุ้นต่างประเทศ 1) สหรัฐฯ (สองวันทำการ 2 พ.ค. และ 5 พ.ค.) แกว่งตัวในกรอบ+0.75% ถึง +1.14% 2) ตลาดหุ้นเอเชียแกว่งผสมผสาน ช่วง -1.23% ถึง +0.37%

ในสัปดาห์นี้ทิศทางตลาดการเงินโลกน่าจะกลับมาให้น้ำหนักการประชุมธนาคารกลางสำคัญ นำโดย Fed และ BOE ซึ่งน่าจะมีการประเมินความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Fed ที่น่าจะคงดอกเบี้ยพร้อมส่งสัญญาณไปทาง Hawkish มากขึ้นกว่าเดิม

ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะทยอยรายงานทางฝั่งเอเชีย นำโดย ตัวเลขส่งออก-นำเข้าของจีน เดือน เม.ย. จะเริ่มเห็นผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีของทรัมป์ Consensus คาด ส่งออกขยายตัวลดลงเหลือ +2.0% YoY จาก +12.4% ในเดือนก่อน ส่วนนำเข้าหดตัวมากขึ้น -5.9% YoY จาก -4.3% YoY ในเดือนก่อนหน้า ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน เม.ย. Consensus คาด -0.05% YoY


EYES ON
6 พ.ค. : อัตราเงินเฟ้อของไทย เดือน เม.ย.
7 พ.ค. : ค้าปลีก Eurozone เดือน เม.ย.
8 พ.ค. : ผลการประชุม FOMC
9 พ.ค. : ตัวเลขส่งออก-นำเข้าจีน เดือน เม.ย.
10 พ.ค. : เงินเฟ้อจีน เดือน เม.ย.

 

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

รอ เฟด By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ ออกมาเปิดเผย CPI เดือน เม.ย. -0.22%YoY จากตลาดคาด -0.1%....

ดันต่อ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ หุ้นใหญ่ หน้าเดิม ดันSET ฝ่า 1,200 จุด ต่อ การสลับหน้าที่กันไป ห้วงระหว่างอยู่ ผลการ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้