Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

67

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 30 เม.ย.68 ปิด +26.14 จุด อยู่ที่ 1,197.26 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,369 ลบ. สถาบันซื้อ 1,245 ลบ. ต่างชาติซื้อ 3,318 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 564 ลบ. และรายย่อ/ยขาย 3,999 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 2,804 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น KBANK,DELTA,AOT,BH,PTT และยอดขายหุ้น KTB,GULF,TTB,MTC,SCC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 3,626 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ PTT,NDX01,KTC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 1,833 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 58,365 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,186 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.21%, S&P500 +0.63%, Nasdaq +1.5% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +2.2%, บริการสื่อสาร +1.5% หลัง Microsoft +7.6%, Meta Platform +4.2% ตอบรับกำไร Q1/68 ที่ดีกว่าคาด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 วานนี้ปิดทำการในวันแรงงาน  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากรายงานกำไรกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Microsoft +7.6% และ Meta Platform +4.2% หลังรายงานกำไรไตรมาสที่ผ่านมาดีกว่าคาด สาเหตุมาจากรายได้ของธุรกิจที่เกี่ยวกับ AI ขยายตัวได้ดี ซึ่งส่งผลบวไปยังกลุ่มผู้ผลิตชิป เช่น Nvidia +2.4% ขณะที่รายงานกำไร Q1/68 ของ Amazon หลังปิดตลาดนั้น ออกมาดีกว่าคาด จากรายได้ด้านบริการคลาวด์ในตลาดอเมริกาเหนือขยายตัวดี แต่ผู้บริหารให้มุมมองรายได้ใน Q2/68 มีแนวโน้มชะลอตัวลง ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 18,000 อยู่ที่ 241,000 สูงกว่าคาดที่ 224,000 ราย ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม ตัวเลขจ้างงานอกภาคเกษตรสหรัฐ เม.ย.คาด 129,000 & มี.ค. 228,000 ราย และอัตราว่างงานสหรัฐ เม.ย. คาดทรงตัวที่ 2%
  • ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 วานนี้ปิดทำการในวันแรงงาน ขณะที่ Euro Stat รายงาน GDP Q1/68 ยูโรโซน +0.4% & Q4/67 +0.2% ดีกว่าคาด +0.2% QoQ ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน เม.ย. คาด 5% & มี.ค. 2.4% YoY
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ส่วนใหญ่ปิดในวันแรงงาน ขณะที่ดัชนีนิเกอิ +1.1% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับขึ้น หลัง Microsoft, Meta Platform รายงานกำไร Q1/68 ออกมาดีกว่าคาด โดย Microsoft ได้ปัจจัยหนุนจากรายได้ของ Azure ที่ให้บริการด้านคลาวด์ ส่วน Meta Platform ผู้บริหารมีมุมมองบวกต่อรายได้ใน Q2 นี้ ส่วนผลการประชุม BOJ มีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5% ตามคาด โดย BOJ ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ญี่ปุ่นปีนี้ลงอยู่ที่ 0.5% & เดิมคาด 1.1% YoY เป็นผลจาก ม.กัดกันการค้าของสหรัฐ และคาด Core CPI ญี่ปุ่นปีนี้ลดลงอยู่ที่ 2.2% & เดิมคาด 2.4% YoY     
  • วันพุธ SET +2.23% ปริมาณการซื้อขาย 4 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 3,318 ลบ. สถาบันซื้อ 1,245 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 564 ลบ. และรายย่อยขาย 3,999 ลบ. โดยดัชนี SET ได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +10.2% นำโดย DELTA +11.3% หลังรายได้ Q1/68 ขยายตัวได้ดีตามอุปสงค์ของธุรกิจ Data Center ส่วนกลุ่มวัสดุก่อสร้าง +3.1% หลัง SCC รายงานกำไร Q1/68 อยู่ที่ 1,099 ลบ. ดีกว่าคาดที่ 696 ลบ. ได้แรงหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบปรับลดลงตามน้ำมันดิบ และสเปรดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปรับดีขึ้น โดย SCC ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 3 – 5% ขณะที่หุ้น Big Cap. ในกลุ่มไอซีที, ค้าปลีกก็ได้ปัจจัยหนุน หลัง กนง. มีมติ 5-2 ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% อยู่ที่ 1.75% เพื่อลดผลกระทบจากนโยบายปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ โดย กนง. คาดการณ์ GDP ไทยปีนี้ขยายตัวอยู่ที่ 2.0% บนสมมุติฐานทุกประเทศถูกเก็บภาษี Universal ที่ 10%, จีนที่ 54% และภาษีเฉพาะอุตฯ ที่ 25% โดย GDP ไทยปีนี้มีอาจขยายตัวเพียง 1.3% หากทุกประเทศเจรจาภาษีตอบโต้ลดลงได้เพียงครึ่งหนึ่ง ตั้งแต่ Q3/68, จีนถูกเก็บภาษีที่ 72.5% และภาษีเฉพาะอุตฯ ที่ 25% โดยนักลงทุนยังรอรายงานกำไร บจ.Q1/68 ซึ่ง Bloomberg คาด +24% QoQ, +1.9% YoY               

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET Index ที่ 1,185-1,195 จุด แนวต้าน 1,205-1,215 จุด คาดดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อหนุนจาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% รวมถึงความคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเปิดขายกองทุน Thai ESGX ดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาด แนะนำทยอยซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง SAWAD, MTC, KTC, GULF และกลุ่มที่มี ESG rating สูง ADVANC, SCC ,BDMS
  • OR* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 14.80 บาท) บริษัทมีแผนกลยุทธ์เพื่อแย่งชิง market share กลับคืนมา ด้วยการเปิดสถานีบริการใหม่ 100 แห่ง เน้นพื้นที่มีศักยภาพ ปรับปรุงสถานีบริการเก่าและจัดแคมเปญการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยธุรกิจ Mobility คาดปริมาณขายเพิ่มขึ้นขณะที่อัตรากำไรต่อหน่วยฟื้นตัวจากแรงกดดันของรัฐลดลงหลังสถานะกองทุนน้ำมันดีขึ้น ส่วนธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้นตามยอดขายกาแฟและไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปิด Texas Chicken 442 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 68 ตั้งงบลงทุนที่ 89 หมื่นล้านบาท รองรับแผนกลยุทธ์ข้างต้นซึ่งรวม M&A และ innovation & new business อ้างอิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 9.7 พันล้านบาท +27%YoY และ 1.09 หมื่นล้านบาท +12%YoY
  • KCG* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 11.34 บาท) แนวโน้มการดำเนินงาน 1Q68 แม้จะดูอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ YoY มีโอกาสที่จะโตได้หนุนจากสินค้ากลุ่ม Food and Bakery Ingredient ด้าน KCG* เอง วางเป้ารายได้ปี68นี้ +6 ถึง 9%YoY ปัจจัยขับเคลื่อนหลักจะมาจากสินค้าใหม่ๆ การหาตัวแทนกระจายสินค้าเพิ่มเติม และการให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์ ขณะที่ในส่วนของต้นทุนค่าใช้จ่ายคาดว่าจะได้ประโยชน์จาก Solar Roof รวมถึงการเปิดใช้งาน KCG Logistic Park ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ KCG* จะอยู่ที่ระดับ 441 ลบ.(+9%YoY) และ 496 ลบ.(+12%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update (+) WTI มิ.ย. +$1.03 อยู่ที่ $59.24/bbl, Brent มิ.ย. +$1.07 อยู่ที่ $62.13/bbl โดย WTI +1.77%, Brent +1.75% หลังจากทรัมป์ขู่ว่าจะคว่ำบาตรอิหร่านและประเทศที่ซื้อซื้อน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจากอิหร่าน ภายหลังจากการเจรจานิวเคลียร์รอบที่สี่ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านถูกเลื่อนออกไป นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่าซาอุดีอาระเบียไม่เต็มใจที่จะพยุงตลาดน้ำมันด้วยการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมเป็นการส่งสัญญาณว่าพร้องเปลี่ยนจุดยืนไปเพิ่มกำลังผลิตเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกลับมา โดยตลาดติดตามการประชุมโอเปกพลัสในวันที่ 5 พ.ค.

 

Gold Update (-) Comex Gold มิ.ย.-$96.90 อยู่ที่ $3,222.20/Oz ถูกกดดันจาก Dollar Index ที่แข็งค่าขึ้น หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่ตลาดจีนปิดทำการเนื่องในวันแรงงานตั้งแต่วันที่ 1-5 พ.ค. ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างซบเซา

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วันพุธที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ +125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +98.9 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด ฯ +8.5 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +17.6 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 33.54 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.2369%

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -12 จุด อยู่ที่ 1,386

(+) Bitcoin เช้านี้ +2.65% อยู่ที่ 97,205 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

30 เม.ย.    ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2/2568

                ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย 

สัปดาห์ที5  สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

                สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

                ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

               

ต่างประเทศ

29 เม.ย.    US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (เม.ย.)

                US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (มี.ค.)

30 เม.ย.    CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (เม.ย.)

                US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 1) 

                US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(เม.ย.)

                US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index (มี.ค.)

01 พ.ค.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (เม.ย.)

02 พ.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (เม.ย.) 

US อัตราการว่างงาน (เม.ย.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: KLINIQ, TASCO*, TFG*, OKJ*, NSL*

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้