SPALI : คาดการณ์ใน 1Q อ่อนแอในด้านการโอนกรรมสิทธิ์ ; ยังคงมูลค่าที่เหมาะสมเดิม

ตลาดปรับตัวดีขึ้นชั่วคราวในเดือนมีนาคม แผ่นดินไหวและภาษีนำเข้าส่งผลกระทบ
ในการประชุมแถลงข่าว SPALI ได้เน้นถึงสภาวะตลาด โดยระบุว่าหากไม่มีแผ่นดินไหวและสงครามการค้า สภาวะตลาดจะดีขึ้น บริษัทแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากภาษีการค้าที่อาจรุนแรงกว่าผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นล่าสุด ในขณะที่แผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของคอนโดมิเนียมสูงเป็นหลัก การซื้อคอนโดยังคงคาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วง 2H ช่วยให้การขายสินค้าคงคลังคอนโดของปีนี้ดีขึ้น ปัจจัยอื่นๆ ในตลาดรวมถึงการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสิ่งนี้ควรส่งผลกระทบต่อ SPALI น้อยลง เนื่องจากบริษัทได้จัดการอัตรากำไรสำหรับปีผ่านการผสมผสานระหว่างคอนโดและโครงการ low-rise

การเปิดตัวโครงการเป็นไปตามแผน ผลประกอบการใน 2Q อาจอ่อนตัวลงเนื่องจากช่วงพักและการรอมาตรการกระตุ้น
บริษัทยังคงรักษาเป้ายอดจองและการเปิดตัวโครงการสำหรับปีงบประมาณ 2025 โดยหวังว่าจะปรับปรุงยอดขายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV และการเปิดตัวโครงการใหม่ที่วางแผนไว้ ในด้านการดำเนินงาน ยอดจองใน 1Q25 อยู่ที่ 6.67 พันล้านบาท (ลดลง 4% YoY) เป้าหมายทั้งปีรวมถึงเป้าหมายยอดขายก่อนก่อสร้าง 3.2 หมื่นล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 3 หมื่นล้านบาท พร้อมกับกำหนดการเปิดตัว 36 โครงการใหม่มูลค่ารวม 4.6 หมื่นล้านบาท การเปิดตัวโครงการใหม่จริงใน 1Q25 มี 6 โครงการมูลค่า 7.17 พันล้านบาท

ประมาณการกำไรลดลง 75% QoQ และ 18% YoY
ทางการเงิน คาดว่าใน 1Q25 จะเป็นไตรมาสที่อ่อนแอที่สุดสำหรับการโอนเนื่องจากฤดูกาล และผลกระทบจากการเร่งโอนในช่วงปลายปี 2024 เราประมาณการรายได้รวมใน 1Q25 ประมาณ 3.6 พันล้านบาท (ลดลง 59% QoQ และลดลง 21% YoY) อัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 39.4% (เพิ่มขึ้น 4% QoQ และเพิ่มขึ้น 9% YoY) และกำไรสุทธิประมาณ 502 ล้านบาท (ลดลง 75% QoQ และลดลง 18% YoY) จากมุมมองของบริษัท ตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรสำหรับไตรมาสคาดว่าจะแสดงเสถียรภาพเมื่อเทียบกับบริบทของตลาด สัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของการโอนคอนโดมิเนียมที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น (33% ของสัดส่วนใน 1Q25) คาดว่าจะยกระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้สูงกว่าค่าเฉลี่ยปีงบประมาณ 2024 แม้ว่าอัตรากำไรของโครงการ low-rise จะได้รับแรงกดดันบ้าง นอกจากนี้ คาดว่าการ contribution ที่เพิ่มขึ้นจากกิจการร่วมค้าในออสเตรเลีย ซึ่งอาจเทียบเท่ากับระดับ 4Q24 จะให้การสนับสนุนที่สำคัญต่อกำไรใน 1Q25 บริษัทยังได้รับประมาณ 200 ล้านบาท จากการขายพื้นที่สำนักงานที่ ศุภาลัย ไอคอน สาทร เพิ่มรายได้อื่นๆ โดยคาดว่าจะมีการโอนใน 2Q/3Q

การตอบสนองของบริษัทต่อแผ่นดินไหวและการบริหารการเงิน
ศุภาลัยให้รายละเอียดการตอบสนองอย่างครอบคลุมต่อแผ่นดินไหว รวมถึงการตรวจสอบโครงสร้างทันที การจัดลำดับความสำคัญของการซ่อมแซม และการสนับสนุนผู้อยู่อาศัย โดยเน้นย้ำว่าค่าซ่อมแซมส่วนใหญ่ครอบคลุมโดยประกันภัย โดยคาดว่าจะมีการสูญเสียทางการเงินโดยตรงน้อยที่สุด บริษัทมุ่งเน้นการบริหารการเงินที่ดีโดยการออกพันธบัตรมูลค่า 6 พันล้านบาท ด้วยอัตราที่น่าพอใจในเดือนมีนาคม เพื่อให้มั่นใจว่ามีสภาพคล่องเพียงพอพร้อมกับวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกถอนประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท ต้นทุนเงินทุนลดลงเล็กน้อยเป็น 2.78% ณ สิ้น 1Q ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิเพิ่มขึ้นชั่วคราวใน 1Q25 (คาดว่าจะอยู่ในช่วงต่ำ 60%) บางส่วนเนื่องจากจังหวะเวลากระแสเงินสดของกิจการร่วมค้า อัตราส่วนคาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติที่ประมาณ 60% ภายในสิ้นปี (เทียบกับ 54% ณ สิ้นปี 2024)

การโอนบลูเวลจะสนับสนุนช่วงต้น 2Q ; คงคำแนะนำ "ซื้อ"
เหตุการณ์สำคัญของโครงการรวมถึงการโอนที่กำลังจะมาถึงของศุภาลัย บลูเวล หัวหิน เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเล็กน้อย โดยโครงการรายงานว่าขายไปแล้ว 76% และคาดว่าจะให้อัตรากำไรที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย เรายังคงให้คำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ SPALI โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 20.00 บาท ตามการประเมินมูลค่า บริษัทวางแผนจะประกาศผลประกอบการในวันที่ 13 พฤษภาคม