Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ฟิทช์ คงอันดับเครดิต บล.หยวนต้า ที่ 'AA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

186

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 25 เมษายน 2568)--------ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด หรือ YSTH ที่ 'AA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ 'F1+'

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตมีปัจจัยหนุนจากการสนับสนุนของผู้ถือหุ้น: อันดับเครดิตของ YSTH สะท้อนถึงการที่ฟิทช์คาดว่าบริษัทแม่ระดับสูงสุดของกลุ่ม (ultimate parent) จากไต้หวัน ซึ่งคือ Yuanta Financial Holdings Co., Ltd. (YFHC; BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นมีเสถียรภาพ/bbb+) น่าจะให้การสนับสนุนพิเศษนอกเหนือจากการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานตามปรกติ (extraordinary support) แก่ YSTH ในกรณีที่มีความจำเป็น ฟิทช์มองว่า YSTH เป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อ YFHC ในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทลูกที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการขยายธุรกิจในต่างประเทศของกลุ่ม
นอกจากนี้อันดับเครดิตของ YSTH ยังสะท้อนถึงโครงสร้างเครดิตของบริษัทซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ
บริษัทแม่มีความสามารถในการให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่ง: ความสามารถของ YFHC ในการให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกพิจารณาจากโครงสร้างเครดิตของตัวบริษัทแม่เอง ซึ่งสะท้อนได้จากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ที่ 'bbb+' ทั้งนี้ YFHC เป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ของกลุ่มการเงินและมีเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ที่แข็งแกร่งในไต้หวัน และมีการขยายการดำเนินงานไปในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (wealth management) และธุรกิจหลักทรัพย์ในระดับภูมิภาค ฟิทช์เชื่อว่าการให้การสนับสนุนของ YFHC แก่บริษัทลูกในประเทศไทยน่าอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ เนื่องจาก YSTH มีขนาดสินทรัพย์ที่ค่อนข้างเล็ก น้อยกว่า 1% ของสินทรัพย์รวมของกลุ่มบริษัทแม่
มีบทบาทที่สำคัญในการสนับสนุนกลยุทธ์การขยายธรุกิจในต่างประเทศของกลุ่ม: YSTH เป็นบริษัทลูกของ YFHC ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีบทบาทสำคัญต่อกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจหลักทรัพย์ในระดับภูมิภาคของกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่า YSTH ไม่ได้เป็นบริษัทลูกหลัก (core subsidiary) เนื่องจากประเทศไทยยังไม่นับว่าเป็นตลาดหลัก (core market) ของกลุ่มบริษัทแม่ โดย YSTH ยังมีสัดส่วนในการสนับสนุนกำไรของกลุ่มที่ค่อนข้างน้อย ที่ต่ำกว่า 1% ของกำไรสุทธิของกลุ่ม
การควบคุมดูแลและการผสานการดำเนินงานที่ใกล้ชิด: อันดับเครดิตของ YSTH ยังพิจารณาถึงสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มบริษัทแม่ที่ 99.9% และบริษัทแม่ยังมีอิทธิพลต่อบริษัทลูกในด้านการดำเนินงานและทิศทางธุรกิจ เช่น การกำกับการบริหารจัดการผ่านแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัท และการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับกลุ่มบริษัทแม่ นอกจากนี้ YSTH ยังมีระดับความร่วมมือกับบริษัทแม่ในการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงในด้านการระดมเงิน (funding) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้านความรู้ทางเทคนิค และระบบการปฏิบัติงาน
มีความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดในด้านชื่อเสียง: ฟิทช์เชื่อว่าการผิดนัดชำระหนี้ของ YSTH จะส่งผลให้กลุ่มบริษัทแม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในด้านชื่อเสียงอย่างมาก เนื่องจากบริษัทลูกมีการใช้ชื่อและสัญลักษณ์ทางการค้าร่วมกันกับบริษัทแม่ รวมทั้งยังมีความเชื่อมโยงกันอย่างมากในด้านการดำเนินงานระหว่างบริษัทลูกและกลุ่มบริษัทแม่
สภาวะแวดล้อมตลาดหลักทรัพย์ที่ซบเซา: บริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทยเผชิญกับสภาวะตลาดที่ท้าทาย ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ซบเซาและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระดับต่ำในช่วงสองปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ปริมาณการซื้อขายในปี 2567 ปรับตัวลดลงประมาณ 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน และการเสนอขายหุ้น IPO ก็ลดลงอย่างมาก ส่งผลให้โอกาสทางธุรกิจของบริษัทหลักทรัพย์ลดลง ฟิทช์คาดว่าสภาวะตลาดหลักทรัพย์น่าจะยังคงมีความผันผวนต่อเนื่องในระยะสั้น
เครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น: YSTH มีเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ กลุ่ม Yuanta เข้าซื้อกิจการเมื่อกลางปี 2559 เนื่องจากบริษัทได้ประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจ ความชำนาญด้านผลิตภัณฑ์ และการสนับสนุนด้านการระดมทุนจาก ของบริษัทแม่ YSTH มีขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่า นับตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการ และปัจจุบันเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 10 โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ 3.0% ในปี 2567 เทียบกับ 0.7% ในปี 2559
ความสามารถในการทำกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม: แม้ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาของ YSTH จะปรับตัวอ่อนแอลง แต่ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจและสูงกว่าบริษัทหลักทรัพย์อื่น ซึ่งสะท้อนว่าบริษัทได้สร้างเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ได้อย่างเข้มแข็ง อัตราส่วนกำไรต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงเป็น 4.7% ในปี 2567 (2566: 7.1%) เนื่องจากสภาวะตลาดหลักทรัพย์ที่อ่อนแอ และปริมาณการซื้อหลักทรัพย์ที่ลดลง แต่อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนกำไรต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 2.0%
ฟิทช์คาดว่า YSTH น่าจะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่สูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมได้ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก ขนาดของธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น และแหล่งรายได้ที่มีความหลากหลายมากขึ้น
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับตัวด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญของโครงสร้างเครดิตของ YFHC ซึ่งสะท้อนได้จากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน อาจจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของ YSTH รายละเอียดของอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต สามารถดูได้จาก ‘Fitch Affirms Yuanta Group Ratings and Outlook’ ลง วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ YSTH อาจถูกปรับลดอันดับได้ หากฟิทช์เชื่อว่าโอกาสที่บริษัทแม่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกในประเทศไทยมีการปรับตัวลดลง ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวอาจบ่งชี้ได้จากการที่บริษัทแม่ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงต่ำกว่า 75% ควบคู่ไปกับการลดระดับอำนาจในการควบคุมด้านการบริหารจัดการของบริษัทแม่ ความเชื่อมโยงด้านการดำเนินงาน หรือการเชื่อมโยงทางธุรกิจระหว่างบริษัทแม่และบริษัทลูก อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่คาดว่าการเปลี่ยนแปลงในเชิงลบดังกล่าวจะเกิดขึ้นในระยะสั้น นอกจากนี้การปรับลดอันดับเครดิตจะพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตของ YSTH กับสถาบันการเงินรายอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วยเช่นกัน
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ YSTH อาจถูกปรับลดอันดับเป็น ‘F1(tha)’ หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทถูกปรับลดลงไปที่ 'A-(tha)'
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ YFHC น่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ YSTH ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตเช่นกัน
การปรับตัวสูงขึ้นของแนวโน้มที่บริษัทแม่จะให้การสนับสนุนแก่ YSTH น่าจะส่งผลกระทบในเชิงบวกต่ออันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ YSTH เช่นกัน โดยสัญญาณของเหตุการณ์ดังกล่าวอาจดูได้จากการเพิ่มการลงทุนอย่างมากในด้านทรัพยากรเพื่อสนับสนุนธุรกิจและการดำเนินงานของ YSTH จากกลุ่มบริษัทแม่ ซึ่งบ่งชี้ได้ว่าบริษัทลูกมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นต่อเครือข่ายธุรกิจของบริษัทแม่ ทั้งนี้การปรับเพิ่มอันดับเครดิตจะพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตของ YSTH กับสถาบันการเงินรายอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วยเช่นกัน
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นไม่มีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิต เนื่องจากเป็นอันดับเครดิตที่สูงสุดแล้วสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศ
อันดับเครดิตของตราสารหนี้และตราสารประเภทอื่น: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตโครงการหุ้นกู้ระยะสั้นของ YSTH อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของบริษัท เนื่องจากหุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท
อันดับเครดิตของตราสารหนี้และตราสารประเภทอื่น: ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
อันดับเครดิตภายในประเทศของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้นจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ YSTH


แหล่งข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อการพิจารณาอันดับเครดิต
แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการประเมินอันดับเครดิตมีรายละเอียดเปิดเผยอยู่ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้องของฟิทช์

อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของ YSTH มีความเชื่อมโยงกับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ YFHC
รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้:
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ปลุกหุ้นใหญ่ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้