AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่ง Sideways/Sideway Up
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

Market Strategy
SET Index แกว่งตามกรอบ 1140-1155 จุด ได้แรงหนุนจาก Sentiment บวกตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น การส่งออกไทยขยายตัวดีกว่าคาดและเม็ดเงิน TESGX ที่เตรียมเข้ามาเดือนหน้า หุ้นเด่นเลือก BDMS และ WHA

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปรับขึ้นทุกดัชนี โดย S&P500 ปรับขึ้น 2% จากนักลงทุนคาดหวัง FED ลดดอกเบี้ยฯ ได้เร็วกว่าคาดเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด Recession รวมถึงความคืบหน้าเรื่องภาษีที่ รมว.คลังสหรัฐฯ เผยว่าอาจบรรลุข้อตกลงกับเกาหลีใต้ได้เร็วสุดในสัปดาห์หน้า ขณะที่การเจรจากับจีนล่าสุด คุณทรัมป์ เผยกำลังเจรจา แม้ว่าจะสวนทางกับความเห็นของจีนที่วานนี้กระทรวงพาณิชย์เผยว่ายังไม่มีการเจรจาใดๆ กับสหรัฐฯเกิดขึ้น สภาพแวดล้อมข้างต้นมองเป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นภูมิภาคและไทยเช้านี้

การรายงานยอดส่งออกเดือน มี.ค. ของไทยขยายตัว 17.8%YoY โดยกลุ่มสินค้าที่ขยายตัวเด่นหลักๆ อยู่ในกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ +48%YoY อาหารสัตว์ขยายตัว 15%YoY ผลิตภัณฑ์ยางขยายตัว 18%YoY ไก่แปรรูป +4%YoY และ ไก่สดแช่แข็ง +7% ประเมินว่าการส่งออกที่ดีข้างต้นส่วนหนึ่งมาจากการเร่งส่งออกเพื่อลดผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ สะท้อนได้จากการส่งออกไปสหรัฐฯ ที่ขยายตัวสูงถึง 34%YoY ขณะที่ช่วง 2Q68 เราคาดว่าโมเมนตัมการส่งออกจะขยายตัวได้จากผลของภาษีตอบโต้ที่ถูกยกเว้นไป 90 วัน แต่ความท้าทายจะเกิดใน 2H68 ซึ่งต้องติดตามผลการเจรจาของรัฐบาล เชิงกลยุทธ์แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่ราคา Laggard ชอบ CCET GFPT

สำหรับประเด็นอื่นๆ วานนี้ กลต.เผยความคืบหน้าการจัดตั้งกอง TESGX ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเสนอขายและรองรับการโอนเปลี่ยน LTF ได้ในวันที่ 2 พ.ค. 68 (มีระยะเวลา 2 เดือน สิ้นสุดปลาย มิ.ย.68) เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อสภาพคล่องที่เข้ามาในตลาดมากขึ้น ซึ่งหุ้นที่เรามองได้ประโยชน์จากเม็ดเงินใหม่เข้าหนุนอันดับต้นๆ คือ HMPRO BDMS MTC และ TTB

Market Summary
SET Index ปรับลง 7 จุด กดดันหลักจากกลุ่มน้ำมันและโรงกลั่นที่ปรับลงตามราคาน้ำมันดิบกดดัน PTTEP -3.8% SPRC -3.8% และ BCP -1.4% กลุ่มโรงพยาบาล BH -1.8% หลังรายงานงบ 1Q68 ตามคาด แต่สัญญาณผู้ป่วยต่างชาติไม่ฟื้น เป็น Sentiment ลบ ร.พ. อื่นๆ เช่น BDMS -1.7% BCH -2.7% กลุ่มไฟแนนซ์โดนแรงขายทำกำไร SAWAD -2.3% MTC -0.6% ด้านกลุ่มที่บวกเด่นกว่าตลาด คือ กลุ่มได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกเดือน มี.ค. ขยายตัวดีกว่าคาดหนุน HANA +3.3% KCE +0.6% กลุ่มอาหาร CPF +1% TFG +1.4% AAI +3.3% และกลุ่มธนาคารที่เริ่มมีแรงซื้อกลับ +1.1%

DAILY Stock Pick
BDMS
คาดได้รับประโยชน์ จาก TESGX
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 31.00 บาท
เราคาดว่า BDMS เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จาก Reweight จาก LTF (2.2% ของ NAV) เป็น TESGX (2.7% ของ NAV) ตามสัดส่วนที่มากขึ้น โดยเมื่อวานที่ผ่านมา ทาง กลต. แถลงความคืบหน้า โดยกองทุน TESGX เสนอขายพร้อมกับสลับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันที่ 2 พ.ค. 68 เป็นปัจจัยหนุน
เราคาดกำไรปี 68 ขยายตัว 7%YoY ดีกว่ากลุ่มที่ขยายตัว 5%YoY ขณะที่ราคาปัจจุบันมี ปันผลสูงที่ 3.4% และคิดเป็น PE68 ที่ 21.3 เท่า (-1.6SD ของค่าเฉลี่บย้อนหลัง 5 ปี) ทางบริษัทคาดว่า 1H68 รายได้เติบโต 7-8%YoY และ EBITDA Margin ที่ 24-25% แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเล็กน้อยในส่วนของลูกค้าต่างชาติ

KEY FACTOR
ตัวเลขส่งออกของไทย เดือน มี.ค. ขยายตัว +17.84%YoY และ +10.64%MoM (สูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ว่าจะขยายตัว +12.8%YoY) มีมูลค่าสูงระดับ 2.95 หมื่นล้านเหรียญฯ

สินค้าที่ขยายตัวเด่น นำโดย 1) อิเล็กทรอนิกส์ +39.17% MoM, +47.84% YoY 2) ชิ้นส่วนยานยนต์ +13.43% MoM, +0.32% YoY 3) เครื่องใช้ไฟฟ้า +8.41% MoM, +10.32% YoY 4) ผลิตภัณฑ์ยาง +8.77% MoM, +17.66% YoY 5) เครื่องจักร +6.14% MoM, +17.28% YoY 6) อาหารสัตว์เลี้ยง +3.13% MoM, +14.76% YoY ส่วนสินค้าที่หดตัวทั้งเทียบกับเดือนที่ผ่านมาและปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่สัดส่วนต่อมูลค่าการส่งออกทั้งหมดไม่สูง (เช่น อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป -14.74% MoM, -0.81% YoY)

ตลาดส่งออกหลักขยายตัวเด่น 1) สหรัฐฯ +34.3%, 2) จีน +22.2%, 3) สหภาพยุโรป +4.0%

EYES ON
24 เม.ย. : รายงานตัวเลขส่งออกของไทย เดือน มี.ค.

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ