BEM : ประเด็นสำคัญจากการประชุม

เราได้จัดการประชุมสำหรับกองทุนในประเทศเพื่อพบกับผู้บริหาร BEM และยังคงมุมมองเชิงบวกต่อบริษัท สนับสนุนโดยการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่องและโอกาสเพิ่มเติมจากโครงการที่มีศักยภาพ ประเด็นสำคัญจากการประชุมมีดังนี้ :

• เหตุการณ์ไม่คาดคิดในเดือนมีนาคม – การจราจรและผู้โดยสารในเดือนมีนาคมได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดสองเหตุการณ์ : 1) อุบัติเหตุบนทางด่วนรามคำแหง 3 - ดาวคะนองที่ส่งผลกระทบต่อด่านเก็บค่าผ่านทางดาวคะนอง ทั้งขาเข้า (2 วัน) และขาออก (3 สัปดาห์) และ 2) แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ทำให้สำนักงานต่างๆ ต้องปิดหลังเวลา 14.00 น. และส่งผลกระทบต่อด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดงบน FES (ถูกบังคับให้ปิดเป็นเวลาหลายวันเนื่องจากเศษซากจากการก่อสร้างอาคารใกล้เคียงตกลงบน FES)

• ผลกระทบเล็กน้อยต่อการจราจรและผู้โดยสาร - การจราจรเฉลี่ยในเดือนมีนาคมอยู่ที่ 1,103,832 เที่ยวต่อวัน (-2.4% YoY) ในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 25.4 ล้านบาท (-1.9% YoY) สำหรับ 1Q25 การจราจรและรายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1,110,191 เที่ยว (-1.2% YoY) และ 25.42 ล้านบาท (-1.1% YoY) สำหรับสายสีน้ำเงิน ผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันในเดือนมีนาคมอยู่ที่ 411,106 เที่ยว (-2.7% YoY) ในขณะที่รายได้ค่าโดยสารอยู่ที่ 12.29 ล้านบาทต่อวัน (-6.8% YoY) เนื่องจากรถไฟฟ้าทุกสายหยุดให้บริการเพื่อความปลอดภัยหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม และกลับมาให้บริการในวันที่ 29 มีนาคม อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้โดยสารได้รับผลกระทบตลอดช่วงสุดสัปดาห์และวันทำงานถัดไปเนื่องจากหลายสำนักงานใช้นโยบายทำงานจากที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารและรายได้เฉลี่ยต่อวันใน 1Q25 ยังคงเติบโต 4.7% และ 11.1% YoY เป็น 450,935 เที่ยวและ 12.29 ล้านบาท ตามลำดับ

• กำไรใน 1Q25F ได้รับผลกระทบเล็กน้อย การชดเชยประกันจะมาในภายหลัง - กำไรใน 1Q25 น่าจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากเหตุการณ์ดังกล่าว แม้ว่าประกันสำหรับการหยุดชะงักทางธุรกิจควรครอบคลุมนี้ แต่มีความล่าช้าระหว่างผลกระทบและการจ่ายค่าชดเชยจริง เนื่องจากบริษัทประกันต้องใช้เวลาในการประเมินค่าชดเชย

• ผลกระทบควรเป็นระยะสั้น - ผลกระทบจากเหตุการณ์เหล่านี้จะส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อสถิติการดำเนินงานในเดือนเมษายน แต่เราคาดว่าจะเป็นระยะสั้นและการจราจรและผู้โดยสารจะปรับตัวดีขึ้นในเดือนถัดไป โดยเฉพาะใน 2H สำหรับสายสีน้ำเงิน เราคาดว่าการเปิดเฟสที่ 2 ของดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค (สำนักงาน ศูนย์การค้า และที่อยู่อาศัย) และวัน แบงค็อก จะช่วยเพิ่มแรงขับเคลื่อนให้กับ 2H25 และ 2026

• บริษัทควรได้รับเงินอุดหนุนที่เป็นธรรมสำหรับโครงการค่าโดยสาร 20 บาท - แผนของกระทรวงคมนาคมในการใช้อัตราค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย 20 บาท สำหรับระบบขนส่งทางรางในช่วงปลายเดือนกันยายนไม่ควรมีผลกระทบต่อกำไรของ BEM เนื่องจากรัฐบาลจะต้องจ่ายเงินอุดหนุนที่เป็นธรรมให้กับบริษัท รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมทั้งหมดจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลวางแผนที่จะอุดหนุนเป็นเวลาสองปี ซึ่งจะตรงกับวาระของรัฐบาลนี้ หลังจากนั้น รัฐบาลใหม่อาจต้องหาแหล่งเงินทุนสำหรับการซื้อคืนสัมปทาน (หากมีการดำเนินการตามแผน) ซึ่งผู้บริหารมองในแง่บวก เนื่องจากจะทำให้ BEM ปลอดหนี้ ช่วยให้บริษัทสามารถลงทุนในโครงการใหม่ที่เพิ่มมูลค่า เช่น ทางหลวงพิเศษ (M82, M9, M5) และสายรถไฟฟ้าใหม่ (สีน้ำตาล สีเทา สีฟ้าอ่อน สีเงิน) ในขณะที่บริษัทยังคงได้รับรายได้จากการดำเนินงานและบำรุงรักษาตลอดระยะเวลาสัมปทานที่เหลือ

• อัตราส่วนหนี้สินควรยังคงจัดการได้แม้จะลงทุนในโครงการใหม่ - สำหรับโครงการ double deck การเจรจาได้เสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนต่อไป โครงการจะถูกเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติ และ BEM คาดว่าจะได้รับสัญญาภายในสิ้นปีนี้ อัตราส่วนหนี้สินจะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทมั่นใจว่าจะยังคงจัดการได้และไม่ละเมิดข้อตกลงหนี้ (อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นไม่เกิน 2.5 เท่า)

• คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BEM โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 11.00 บาท - เรายืนยันการคาดการณ์และมูลค่าที่เหมาะสมตามวิธี SOTP ที่ 11.00 บาท มูลค่าที่เหมาะสมของเรายังไม่รวมมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการ double deck และงาน M&E สำหรับสายสีม่วง ความเสี่ยงหลักคือ การจราจรและผู้โดยสารต่ำกว่าที่คาดการณ์